พ่อค้าแคบหมูครวญต้นทุนพุ่ง-ทั้งน้ำมันปาล์มแพง และหาซื้อยาก

น่าน - พ่อค้าแคบหมูเมืองน่าน ครวญ น้ำมันปาล์ม ขาดแคลนหนัก-หาซื้อยาก กระทบถึงก้นกระทะทอดแคบหมูกรอบ สินค้าที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ ขณะที่ร้านอาหาร รวมไปถึงชาวบ้านทั่วไปต้องเปลี่ยนเมนูมาเป็นต้ม-นึ่ง-แกง แทน

รายงานข่าวจากจังหวัดน่าน แจ้งว่า ปัญหาน้ำมันปาล์มขาดตลาดที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่งผลกระทบไป รวมถึงผู้ผลิตแคบหมู ซึ่งเป็นสินค้าที่นักท่องเที่ยวมักนิยมซื้อเป็นของฝาก เพราะการทอดแคบหมูให้หอม กรอบ อร่อย ต้องใช้น้ำมันปาล์มในการทอดปริมาณมากๆ และไม่ใช้น้ำมันเก่าทอดซ้ำ แม้ตอนนี้แคบหมูจะยังมีจำหน่ายในตลาด และยังขายในราคาเดิม คือ ที่ กก.ละ 220 - 250 บาท แต่พ่อค้าแม่ค้าหลายคนก็มีแนวโน้มเตรียมปรับราคาแคบหมู หากราคาน้ำมันปาล์มยังสูงและขาดแคลนอยู่อย่างนี้

นายจำนง สวนใหญ่ หรือ ลุงตี๋หนังหมูกรอบ อยู่บ้านเลขที่ 66 ม.8 บ้านใหม่สุขสันต์ ต.ถืมตอง อ.เมืองน่าน เป็นผู้ประกอบการทำหนังหมูกรอบ เปิดเผยว่า เดือดร้อนมาก เมื่อน้ำมันปาล์มขาดแคลน ขณะนี้ต้องตระเวนถามหาซื้อน้ำมันปาล์ม แม้แพงกว่าปกติ จากที่แพงอยู่แล้ว เนื่องจากไม่มีน้ำมันปาล์ม ซึ่งใช้เป็นวัตถุหลักในการทอดหนังหมูกรอบ

ที่ผ่านมา ต้องซื้อน้ำมันปาล์มยกหีบ ในราคาประมาณ 350 บาท แต่ราคาแพงถึงหีบละ 635 บาท ซึ่งเขาจะต้องใช้น้ำมันปาล์มอย่างน้อยวันละ 1 หีบ ในการทอดหมูกรอบ เมื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายซื้อน้ำมันปาล์ม จากสัปดาห์ละประมาณ 2,450 บาท จะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 4,500 บาท ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นกว่าเท่าตัว

“ราคาแพงยังไม่ ยังหาซื้อยากอีก ทำให้ขณะนี้ต้องลดปริมาณการผลิตลง จากเคยทอดหนังหมู วันละ 20 กิโลกรัม ก็ลดปริมาณลงเนื่องจากไม่มีน้ำมันทอด เหลือเพียงวันละ 10 กิโลกรัม ส่งขายให้กับลูกค้าเจ้าประจำ หมุนเวียนกันไป ทำให้รายได้หายไปกว่าครึ่ง และต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการขอแบ่งซื้อน้ำมันปาล์ม ทำให้ต้องซื้อแพงขึ้น ถึงหีบละ 660 บาท เพื่อที่จะได้มีน้ำมันปาล์มใช้การในการทอดหนังหมู ไม่เช่นนั้นครอบครัวก็จะขาดรายได้และได้รับความเดือดร้อน”

ลุงตี๋ บอกว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดที่จะขึ้นราคา แต่หากราคาน้ำมันยังพุ่งขึ้น และหาซื้อยากเช่นนี้ คาดว่าพ่อค้า แม่ค้าคงมีการปรับราคาขายกัน จึงต้องการให้หน่วยงานเร่งหาน้ำมันปาล์มให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการด้วย

เช่นเดียวกับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร และประชาชนทั่วไปที่หาซื้อน้ำมันมาปรุงอาหารไม่ได้ โดยส่วนใหญ่ต้องหันมาปรุงอาหารที่หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันพืชด้วยการแกง หรือต้มแทนการทอด แม่ค้าพ่อค้าจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป ต้องแบกภาระน้ำมันแพง ก็ต้องปรับตัวโดยลดปริมาณอาหารให้น้อยลง แต่ยังคงขายราคาเดิม หากปรับราคาขึ้นเกรงลูกค้าจะไม่มาใช้บริการแม้จะได้กำไรน้อยลงก็ตาม

ส่วนน้ำมันพืชที่มีขายอยู่บ้าง ตามร้านขายของชำขนาดเล็กก็ปรับราคาสูงขึ้น ถึงขวดละ 60-65 บาท และถึงแม้ห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นเมืองน่านจะขายในราคา 47 บาทแต่ก็กำหนดจำนวน และไม่เพียงพอต่อความต้องการ