นายกฯ เมิน "ทีดีอาร์ไอ" เดินหน้าคุมราคาน้ำมันปาล์ม "ดีเอสไอ" การันตี "เทพเทือก"

นายกฯ เมินฟังเสียง "ทีดีอาร์ไอ" แนะเปิดเสรีน้ำมันปาล์ม ยันเดินหน้านโยบายคุมราคาที่ลิตรละ 47 บาท แต่จะผลิตให้เพียงพอกับความต้องการ เตรียมประชุมประเมินสถานการณ์อีกครั้ง 8 มี.ค.นี้ พร้อมให้ "ดีเอสไอ" สอบสวนต่อ เตรียมลุย ศูนย์กระจายสินค้า-ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ "ธาริต-เทพเทือก" มือไม้ป่วนโดนนักข่าวรุมเค้นคำตอบ ยันผลตรวจสอบ 3 รง.ปาล์มที่สุราษฎร์ ไม่พบนักการเมือง "ส" เกี่ยวข้อง มั่นใจการทำงานโปร่งใสชัดเจน ไม่มีสายแจ้ง รง.ล่วงหน้า

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการประชุมหารือประเมินสถานการณ์น้ำมันนปาล์มอีกครั้งในวันที่ 8 มีนาคม 2554 นี้ พร้อมระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลเดินหน้าผลิตให้เพียงพอสำหรับการใช้ของประชาชน ขณะที่ราคาที่ผู้บริโภคยังใช้อัตราลิตรละ 47 บาทเท่าเดิม สำหรับการจ่ายชดเชยก็จ่ายชดเชยกันไป

ส่วนกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปตรวจสอบโรงงานแล้วไม่พบความผิดปกติ แต่เมื่อรัฐมีมาตรการออกมากลับมีน้ำมันออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วนั้น ก่อนหน้านี้มี 2 ปัญหา คือ ต้นทุนสูงกว่าราคาที่ขาย ดังนั้น จึงไม่มีแรงจูงใจที่จะผลิตออกมา และอีกอย่างเราคุมเฉพาะส่วนของขวด ไม่ได้คุมในส่วนอื่น ทำให้เกิดการยักย้ายถ่ายเท ซึ่งขณะนี้เราพยายามแก้ปัญหาตรงนี้ให้กลับมาสู่ความสมดุลตามปกติ โดยการตรวจสอบของดีเอสไอต้องทำต่อ

ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวถึงการตรวจการกักตุนน้ำมันปาล์มว่า จากวันนี้จะเข้าตรวจสอบศูนย์กระจายสินค้าและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ โดยจะมีทั้งการตรวจอย่างเป็นทางการและตรวจอย่างไม่เป็นทางการ ส่วนตามโรงงานผลิตนั้นจะดำเนินการตรวจสอบในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เพิ่มโควต้าใหม่

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีต้องการให้ตรวจสอบว่ามีนักการเมืองอักษรย่อ “ส.” เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายธาริตกล่าวว่า หากหมายถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมาเราก็ลงไปตรวจโรงงานที่ จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 3 โรงงาน ก็ไม่พบการกักตุนแต่อย่างใด

เมื่อถามว่ากรณีนี้ นายสุเทพไม่เกี่ยวข้องใช่หรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า เบื้องต้นก็ไม่เห็นความเกี่ยวข้อง และต่อข้อซักถามว่า ที่ตรวจไม่พบเนื่องจากมีสายข่าวแจ้งก่อนใช่หรือไม่ นายธาริตกล่าวปฏิเสธว่า ไม่มีพร้อมทั้งอธิบายว่า การลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบนั้น เราประสานงานกับเจ้าหน้าที่พาณิชย์จังหวัด และเข้าตรวจสอบเลยในเวลา 07.00 น ซึ่งไม่น่าจะขนของหนีได้ทัน

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ยอมรับว่า ดีเอสไอได้รายงานเรื่องเฉพาะการตรวจสอบของโรงงานทั้งหลาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบ แต่เรื่องของน้ำมันปาล์ม วันนี้จะออกสู่ตลาดได้เต็มที่มากขึ้น ยืนยันว่าน้ำมันปาล์มวันนี้ไม่ขาดแคลนแน่นอน

เมื่อถามว่า ขณะนี้น้ำมันปาล์มยังขาดแคลน ประธานคณะกรรมการปาล์มฯ กล่าวย้อนว่าแล้วบ้านท่านใช้เท่าไรกัน ที่ถามไปไม่ใช่ตีฝีปากยอกย้อนกัน คือเรียนกับประชาชนเราใช้น้ำมันไม่ใช่ใช้ทีละห้าหกขวด เพราะหากทุกคนตกใจไปซื้อตุนมากๆ ทุกบ้านก็ลำบาก แต่ยืนยันว่าน้ำมันไม่ขาดแคลนแน่นอน และจะสั่งไปให้ทุกร้านเมื่อน้ำมันเต็มแล้วก็ไม่ต้องไปจำกัดจะซื้อไปเก็บก็ไม่ว่ากัน

เมื่อถามอีกว่า ตกลงเรื่องนี้ใครได้ประโยชน์ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องที่ใครจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์อย่างไร ขอให้ดีเอสไอไปทำเป็นคดีพิเศษ หากพบว่ามีคนไปหาประโยชน์โดยไม่ชอบก็ให้ดำเนินคดีไป ให้ไปกล่าวหาใครง่ายๆคงไม่ทำ แต่ว่าหน้าที่ในการแก้ปัญหาไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน เมื่อนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รับผิดชอบ ก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ต่อข้อซักถามว่า หากไม่มีใครรับผิดชอบจะไม่เป็นธรรมกับประชาชน นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องที่ใครจะรับผิดชอบอย่างไรก็ต้องว่าไปกันตามข้อเท็จจริงไปตั้งข้อสมติฐานตามความชอบใจหรือไม่ชอบใจคงไม่ได้ ส่วนเรื่องนี้จะกลายเป็นมวยล้มต้มคนดูหรือไม่ คงไม่พูดว่าล้มไม่ล้ม หรือต้มไม่ต้มแต่ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง แต่ถ้าหากไปปั่นกระแส สร้างอารมณ์กันเล่นกันตามอารมณ์ไม่ว่ากันตามข้อเท็จจริงคงไม่ถูกต้อง

นายสุเทพ กล่าวเสริมว่า การที่จะไปกล่าวหาใครต้องมีหลักฐาน การที่ผมสั่งให้ดีเอสไอไปดำเนินคดี ก็หวังว่าถ้าไปพบว่าใครไปทำความผิดมีหลักฐานก็ต้องดำเนินคดีให้เป็นที่ประจักษ์ และถ้าใครมีหลักฐานก็ต้องช่วยกรุณาส่งให้อธิบดีดีเอสไอด้วย เพราะถ้ากล่าวหาลอยๆ พูดกันสนุกสนานไปเรื่อยๆ เดี๋ยวบ้านเมืองก็ปั่นป่วนหมด

เมื่อถูกถามย้อนว่า ข้อมูลที่สื่อลงโดยบอกถึงเส้นทางการทุจริตน้ำมันปาล์ม ทำไมดีเอสไอไม่นำไปเป็นข้อมูลดำเนินการกับคนทุจริต นายสุเทพ กล่าวว่า ข้อมูลที่สื่อเขียนจะนำไปให้ดีเอสไอ และจะเชิญสื่อไปสอบถามว่า เป็นอย่างไร