“เทือก” คาด สรุปสถานการณ์ปาล์มในการประชุม กนป.8 มี.ค.นี้ ยันน่าพอใจ ไม่ทำน้ำมันขาดแคลนแล้ว โวใช้เงินไม่ถึง 200 ล้าน ตามที่อนุมัติหลังราคาลด ชี้ ถ้าสมดุลก็ไม่นำเข้าเพิ่ม ปัดปัญหาเพราะนำปาล์มไปทำไบโอดีเซลเพิ่ม ไม่เชื่อ “ส.โคราช” ได้ประโยชน์
วันนี้ (27 ก.พ.) ที่ตลาดนัดจตุจักร นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์ม ซึ่งอธิบดีกรมการค้าภายใน จะขออนุมัตินำเข้าปาล์มอีก 2 หมื่นตันว่า เราทำงานกันในรูปของคณะกรรมการ ใครมีความคิดเห็นหรือเหตุผลอย่างไรก็ต้องไปเสนอกันในที่ประชุม กนป.ในวันที่ 8 มี.ค.เวลา 14.00 น.เราจะสรุปสถานการณ์ปาล์มตั้งแต่เมื่อที่ 22 ก.พ.จนถึงวันที่ 7 มี.ค.จากนั้นจะมีมาตรการอะไรต่อไปต้องผ่านที่ประชุม ซึ่งสถานการณ์ที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารชัดเจน ว่า เราจะไม่ปล่อยให้น้ำมันปาล์มสำหรับ บริโภคขาดแคลนอีกแล้ว ไม่ต้องแย่งกันซื้อหรือกักตุน การแก้ไขปัญหาเป็นผลปรากฏออกมาแล้ว
“อย่างไรก็ตาม สำหรับเงินค่าชดเชยที่เคยอนุมัติไว้คิดว่าจะต้องใช้ประมาณ 200 ล้านก็ใช้ไม่ถึงมาตั้งแต่แรก เพราะตอนที่ประมูลนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศซื้อได้ถูกลงจากวันที่มีมติ ทำให้เงินชดเชยลิตรละ 5 บาท ลดลงเหลือลิตรละ 3.80-3.90 บาท ประหยัดไปได้อย่างน้อย 22 ล้านบาทเศษ” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวว่า ทั้งนี้ ในการประชุม กนป.วันที่ 8 มี.ค.หากสถานการณ์น้ำมันปาล์มดีขึ้นเข้าสู่จุดสมดุลก็ไม่จำเป็นต้องนำเข้าเพิ่ม อยู่ที่สถานการณ์และข้อเท็จจริง เราจะได้ประเมินด้วยว่าปาล์มของเกษตรกรเราออกผลผลิตมาเพิ่มจำนวนมามากน้อย ขนาดไหน ซึ่งที่ผ่านมาเรามีการนำเข้ามาแล้ว รวม 6 หมื่นตัน ซึ่งแนวโน้มอาจจะให้หยุดการนำเข้าอยู่แค่นั้น หรืออาจจะนำเข้าก็เล็กน้อย เมื่อถามว่า ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ระบุว่ากระทรวงพลังงานไม่ยอมให้ยืมโควตาน้ำมันปาล์ม 5 พันตันตามที่ กนป.อนุมัติไว้ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ยังไงก็อยู่ในวิสัยที่แก้ไขกันได้ การประสานงานระหว่างหน่วยงานมักมีปัญหาอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ตนจะประสานกับ รมว.พลังงาน และ อธิบดีกรมส่งเสริมพัฒนาพลังงาน ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการปรับให้สมดุลกันระหว่างการนำปาล์มไปใช้ในการผลิตไบโอดีเซลกับการบริโภคปาล์มในอุตสาหกรรมอาหาร โดยเราต้องคำนวณผลผลิตให้แม่นยำ และต้องรู้ให้ได้ว่าผลผลิตในประเทศไทยต้องกันเอาไว้สำหรับผู้บริโภคในส่วน น้ำมันขวด ปี๊บ หรือน้ำมันในอุตสาหกรรมเท่าไหร่ ส่วนที่เหลือจึงจะเอาไปทำไบโอดีเซล ทั้งนี้ปัญหาไม่ได้เกิดขึ้นเพราะกันปาล์มไปในผลิตไบโอดีเซลจนขาดแคลนในอุตสาหกรรมอาหาร แต่ที่แล้วมาเราไม่เคยมีปัญหาจึงไม่ได้จำกัดสัดส่วนเอาไว้
ส่วนที่ นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์เปิดข้อมูลว่า มี “ส.” โคราชไปกักตุนน้ำมันปาล์มไว้เพื่อที่จะนำเข้าไบโอดีเซลให้ ปตท.นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เวลามีเหตุคนก็มีความคิดเห็นไปต่างๆ นานา ส่วนที่เป็นรัฐบาลก็ฟังจากรัฐบาลก็แล้วกัน โดยส่วนตัวไม่คิดว่าจะมี “ส.” โครราชได้รับผลประโยชน์จริงอย่างที่ว่า ตนไม่เข้าใจสิ่งที่พูด เพราะแม้น้ำมันปาล์มดิบจะแพง แต่พอเอาไปทำไบโอดีเซลเขาสู้ราคาได้ เพราะในไอโอดีเซล 1 ลิตร มีน้ำมันปาล์มเพียง 1-3% เท่านั้น และมีเงินกองทุนชดเชยค่าน้ำมันคอยช่วยเหลืออยู่