xs
xsm
sm
md
lg

ทีดีอาร์ไอจวกแก้น้ำมันปาล์มไม่ถูกจุด ชี้ โควตานำเข้าเปิดช่องฮั้วขนานใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทีดีอาร์ไอ ตำหนิ รบ.แก้ปัญหาน้ำมันปาล์มไม่ถูกจุด นำเงินของผู้เสียภาษีไปอุดหนุนผู้ประกอบการ เพื่อคุมราคาขายที่ลิตรละ 47 บาท แนะเปิดนำเข้าเสรีแทนการขี่ช้างจับตั๊กแตน ปชช.ได้ประโยชน์มากกว่า พร้อมชี้ปมที่ทำให้เกิดการขาดแคลนอย่างหนัก เนื่องจากผู้ผลิตมีต้นทุนสูงขึ้น แต่ถูกคุมราคาไว้จนทำให้ขาดทุนเลิกผลิต ขณะที่การแก้ไขปัญหาโดยเปิดให้มีการนำเข้า ก็ยังต้องแบ่งสรรตามโควตา ทำให้เกิดการวิ่งเต้นเพื่อให้ได้รับโควตา เกิดการฮั้วกันขนานใหญ่ เพราะดันไปกำหนดราคาขายไว้ที่ขวดละ 47 บาท

นายนิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลได้แก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคขาดแคลนด้วยการยืมสตอกจากโรงสกัดน้ำมันปาล์ม และจากกระทรวงพลังงาน รวม 15,000 ตันและเปิดให้มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบแยกไขจากต่างประเทศเพิ่มเติมอีก 30,000 ตัน เพื่อให้โรงกลั่นน้ำมันปาล์มผลิตและนำออกมาจำหน่ายให้ประชาชนในราคาลิตรละ 47 บาท โดยรัฐบาลให้การชดเชยเป็นวงเงิน 200 ล้านบาท นั้น ถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด และยังทำให้ผู้เสียภาษีทั้งประเทศเดือดร้อนเพราะรัฐต้องนำเงินของผู้เสียภาษีไปอุดหนุนให้กับผู้ประกอบการเพื่อให้สามารถคุมราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคให้ได้ลิตรละ 47 บาท

ทั้งนี้ แนวทางที่ดีที่สุดคือการเปิดเสรีให้มีการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบแยกไขเป็นเวลา 1-2 เดือน และที่สำคัญกระทรวงพาณิชย์ต้องยกเลิกการควบคุมราคาน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคไว้ที่ลิตรละ 47 บาทด้วย แต่ควรปล่อยให้ผู้ประกอบการสามารดำเนินการได้เอง และให้กลไกตลาดเป็นตัวกำหนดราคาโดยรัฐบาลหรือข้าราชการไม่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องใดๆ เพราะเป็นเรื่องของธุรกิจที่จะดำเนินการกันเอง แต่รัฐบาลอาจต้องเข้าไปดูแลช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกผลปาล์มสดอย่างใกล้ชิดและเต็มที่เพราะอาจได้รับความเดือดร้อนจากราคาตกต่ำได้

นายนิพนธ์ กล่าวว่าเมื่อเปิดให้มีการนำเข้าอย่างเสรีและไม่คุมราคาแล้ว จะทำให้ราคาน้ำมันปาล์มในประเทศมีราคาถูกลงแม้ว่าจะแพงกว่าราคาควบคุม แต่ก็ยังถูกกว่าราคาในตลาดมืดแน่นอน และไม่ต้องนำเงินภาษีของผู้เสียภาษีไปชดเชยใดๆ รวมทั้งไม่เกิดภาวะการขาดแคลนเช่นในปัจจุบันด้วย ซึ่งขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์ม เพื่อการบริโภคในตลาดมืดมีราคาสูงถึงลิตรละกว่า 60 บาทแล้ว ขณะที่ราคาในตลาดโลก เช่น ที่มาเลเซีย มีราคาเพียงลิตรละ 50 บาทเท่านั้น

“สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการขาดแคลนอย่างหนัก เนื่องจากผู้ผลิตมีต้นทุนสูงขึ้นแต่รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ยังควบคุมราคาไว้จนทำให้ผู้ผลิตขาดทุน จึงไม่มีใครอยากผลิตสินค้าออกมาขาย ขณะที่การแก้ไขปัญหาโดยเปิดให้มีการนำเข้าก็ปรากฏว่ายังต้องแบ่งสรรตามโควตาที่ทำให้เกิดการวิ่งเต้นเพื่อให้ได้รับโควตา ซึ่งเท่ากับว่ารัฐเป็นตัวทำให้เกิดการฮั้วกันขนานใหญ่ เพราะรัฐได้กำหนดราคาขายไว้ที่ขวดละ 47 บาท”

นายนิพนธ์ กล่าวว่า การปล่อยให้ราคาสินค้าเป็นไปตามกลไกตลาดจะมีประโยชน์กับผู้บริโภคมากกว่าการตรึงราคาไว้ ทั้งที่มีต้นทุนแพงขึ้น จึงทำให้เกิดสถานการณ์ขาดแคลนเช่นนี้ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อนมากยิ่งขึ้นเพราะหาซื้อน้ำมันปาล์มไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องไปซื้อจากตลาดมืดที่แพงกว่าราคาในตลาดโลก แต่เมื่อมีการนำเข้ามาโดยเสรีและมีการวางขายอย่างเพียงพอแล้วก็เชื่อว่ากลไกตลาดจะทำงานได้อย่างเต็มที่นั้นหมายความว่าเมื่อมีของวางขายมากมีการแข่งขันมาก ราคาก็ย่อมต้องถูกลงตามไปด้วย สุดท้ายแล้วประชาชนจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้

สำหรับบรรยากาศในตลาดสดทั่วไป หลังจากกระทรวงพาณิชย์มีนโยบายให้โรงงานน้ำมันปาล์ม 10 แห่งเร่งผลิตน้ำมันปาล์มฝาสีชมพู ส่งให้ห้างค้าปลีกและตลาดสดทั่วไป วันละ 1 ล้านขวด เพื่อจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไป ขนาด 1 ลิตร ในราคา 47 บาท ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 และคาดว่าจะจำหน่ายได้ครบทุกพื้นที่ทั่วประเทศในวันที่ 7 มีนาคม 2554 นี้ ปรากฏว่าตามตลาดสดทั่วไปยังคงขาดแคลนน้ำมันปาล์ม โดยมีน้ำมันปาล์มฝาขวดสีฟ้าจำหน่ายเพียงร้านละ 1-2 ขวดเท่านั้น ส่วนใหญ่จะจำหน่ายน้ำมันข้าวโพดและน้ำมันอื่นๆ เพื่อรอการเร่งผลิตน้ำมันปาล์มฝาสีชมพูล็อตดังกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น