รมว.พลังงาน ชี้ สถานการณ์ตะวันออกกลาง ดันราคาน้ำมันโลกทะลุ 100 ดอลลาร์ คาดส่งผลต่อราคาขายปลีกในประเทศ อาจต้องปรับตัวสูงขึ้น เงินกองทุนพยุงดีเซลไหลออกเดือนละ 6 พันล้าน คาดสัปดาห์หน้า อาจต้องเรียกประชุม กบง.เพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง สวนกลับเอกชน การยกเลิกผลิตไบโอดีเซล บี2 ไม่ได้แก้ปัญหาระยะยาว วอนอย่าตื่นตระหนก แนะให้อดใจรอ เม.ย.นี้
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดอาขยาน “ประหยัดพลังงาน เราทำได้” โดยระบุว่า สถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในตะวันออกกลาง ส่งผลกระทบให้ระดับราคาน้ำมันตลาดโลกสูงขึ้น โดยน้ำมันดิบดูไบสูงถึง 104 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ทำให้ผู้ค้าน้ำมันจำเป็นต้องปรับราคาขายปลีกน้ำมันขึ้นตามไปด้วย จนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องเข้าไปดูแลระดับราคาน้ำมันในขณะนี้
สำหรับการดูแลระดับราคาน้ำมันในประเทศโดยใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ขณะนี้กองทุนมีเงินอยู่กว่า 22,000 ล้านบาท ได้เข้าอุดหนุนไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลมีระดับราคาไม่เกินลิตรละ 30 บาทนั้น ต้องใช้เงินถึงเดือนละกว่า 5,800 ล้านบาท วงเงินที่จำเป็นต้องใช้ดังกล่าว นับว่าค่อนข้างสูง
ทั้งนี้ หากมีการใช้เงินกองทุนจนลดลงมาเหลือระดับประมาณ 10,000 ล้านบาท จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อหาแนวทางดูแลประชาชนอย่างไรต่อไป ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวอีกว่า หากสถานการณ์ในตะวันออกกลางยังไม่ดีขึ้น บวกกับภาวะอากาศที่มีความหนาวลงกว่าเดิมก็จะทำให้ระดับราคาน้ำมันยังคงสูงกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่อไปอีก ซึ่งกระทรวงพลังงานจะเดินหน้าส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและประหยัดพลังงานต่อไป
ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนเสนอให้ยกเลิกผลิตไบโอดีเซล บี2 เพื่อนำน้ำมันปาล์มส่วนที่เหลือมาผลิตเป็นน้ำมันปาล์มสำหรับบริโภค นพ.วรรณรัตน์ ระบุว่า กระทรวงได้ศึกษาแล้ว เห็นว่า น้ำมันดีเซลที่ใช้อยู่ในปัจจุบันต้องผสมสารหล่อลื่น ซึ่งการผสมน้ำมันปาล์มในสัดส่วน 2% สามารถใช้แทนสารหล่อลื่นได้ แต่การยกเลิกผสมน้ำมันปาล์มในดีเซล ส่งผลให้ต้องนำเข้าสารหล่อลื่นจากต่างประเทศ ซึ่งต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 วัน ซึ่งเป็นช่วงที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติอนุมัติให้นำเข้าปาล์ม 1.2 แสนตัน
“กระทรวงได้แก้ปัญหาช่วงเวลาตรงนี้ โดยให้ผู้ผลิตไบโอดีเซลจัดสรรน้ำมันปาล์ม 1.5 หมื่นตัน มาใช้ผลิตน้ำมันปาล์มเพื่อบริโภค ยืนยันว่า การยกเลิกผลิตดีเซล บี2 ไม่ใช่แนวทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องในระยะยาวและในเดือน เม.ย.นี้ ผลผลิตปาล์มจะออกสู่ท้องตลาด จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องอดทนอย่าตื่นตระหนก”