สวนยางใต้เฮถ้วนหน้า ราคายางดิบทะลุ กก.ละ 162 บาท รมว.เกษตรฯ ชี้ ต้นเหตุเกิดจากอุปทานมีน้อยกว่าความต้องการ สกย.คาดแนวโน้มแตะ กก.ละ 200 บาท จับตาถุงยางอนามัย ราคาพุ่งตาม ผวาลามคุมกำเนิด-โรคเอดส์แพร่ได้ง่ายขึ้น
นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ด้านราคาของยางพาราที่ปรับตัวสูงขึ้นในขณะนี้ โดยระบุว่า ในสัปดาห์นี้ราคายางยังคงปรับตัวสูงขึ้นในทุกตลาด เนื่องจากมีผลผลิตยางออกสู่ตลาดน้อย จากการที่ยังคงมีฝนตกชุกในแหล่งผลิตอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ความต้องการซื้อสูง เนื่องจากผู้ประกอบการในประเทศเร่งซื้อยางเพื่อรอการผลิต หลังจากเปิดโรงงานในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว และผู้ส่งออกเร่งซื้อยางเก็บเข้าสต็อกเพื่อรอส่งมอบตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
โดยราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์เฉลี่ยกิโลกรัมละ 161.73 บาทสูงขึ้นจาก 153.95 บาท ในสัปดาห์ที่แล้ว หรือสูงขึ้น 3.79% ขณะที่ราคายางแผ่นดิบที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ อยู่ที่กิโลกรัมละ 144.06 บาท สูงขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมากิโลกรัมละ 8.24 บาท
สำหรับการประมูลซื้อขายยางพาราที่ตลาดกลางยางพาราทั้ง 3 แห่งในภาคใต้ พบว่าทำสถิติราคาใหม่ขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ โดยช่วง 3 สัปดาห์ หลังปีใหม่ ปรับตัวขึ้นไปแล้ว 21.98 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) โดยที่ตลาดกลางสุราษฎร์ธานี ราคายางแผ่นดิบได้สูงสุดในภาคใต้ กิโลกรัมละ 162.85 บาท ส่วนที่ตลาดกลางนครศรีธรรมราชราคากิโลกรัมละ 162.69 บาท และตลาดกลาง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ราคากิโลกรัมละ 161.66 บาท
นายพิริยะ เอกวาณิช รองผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) กล่าวว่า ขณะนี้ราคายางพาราอยู่ในระดับที่สูง ล่าสุด ราคายางแผ่นดิบพุ่งทะลุ 161 บาท เป็น 162 บาทต่อกิโลกรัมไปแล้ว และคาดว่าจะปรับสูงอีกต่อเนื่อง เนื่องจากตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงเดือนเมษายนนี้ ผลผลิตยางจะออกสู่ตลาดน้อยลง เพราะเข้าสู่ฤดูการผลัดใบ โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออก ไปภาคใต้ตอนบน ภาคใต้ตอนล่างทั้งนี้ จากที่หลายฝ่ายคาดการณ์มีแนวโน้มว่าราคายางแผ่นดิบจะพุ่งทะลุ 200 บาทต่อกิโลกรัม ในเร็วๆ นี้
นายสมมาตร แสงประดับ หัวหน้ากลุ่มวิจัยเสถียรภาพราคายาง สำนักงานตลาดกลางยางพาราสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ระยะนี้มีเกษตรกรนำยางมาขายประมาณวันละ 10 คันรถกระบะมูลค่าคันละ 200,000 บาท ส่งผลให้เงินหมุนเวียนรับซื้อยางของตลาดกลางที่มีอยู่วันละ 11 ล้านบาท ไม่เพียงพอยังขาดอีก 10 ล้านบาท จึงต้องให้ผู้ประมูลยางเร่งนำมาจ่ายให้ตลาด
"ปีนี้ยางราคาสูงก่อนช่วงสงกรานต์ พอหน้าแล้งอาจจะสูงขึ้นกว่านี้อีก เพราะเป็นช่วงที่ยางผลัดใบประมาณเดือนพฤษภาคม น้ำยางจะออกน้อยลง ส่วนที่ทางภาคอีสาน ต้นยางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 เซนติเมตร เกษตรกรเร่งกรีดกันแล้วทำให้ผลผลิตลดลง 40% แล้ว"
**ถุงมือแพทย์-ถุงยางอนามัย ราคาพุ่ง
สำหรับผลกระทบจากยางพาราที่มีราคาสูง ส่งผลให้ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยางพารา อาทิ เช่น ที่นอนยางพารา ที่ใช้สำหรับสถานพยาบาล ต่างขยับขึ้นราคาแล้ว 20-30 % นอกจากนี้ ถุงมือแพทย์ จากที่เคยขายแบบกล่อง จำนวน 100 ชิ้น เคยขายอยู่ที่ราคา 120 บาท ก็ขยับขึ้นราคาเป็น 130 บาท และมีแนวโน้มว่าจะขึ้นราคาต่อไปอีก
นอกจากนี้ สินค้าอีกหนึ่งรายการที่คาดว่าจะขึ้นราคาอย่างแน่นอนในเร็ว ๆ นี้ คือ ถุงยางอนามัย ที่ใช้สำหรับการคุมกำเนิดและป้องกันการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะการป้องกันโรคเอดส์ วันนี้ ยังมีสินค้าเก่าอยู่ในสต็อก ซึ่งขายกล่องละ 25-35 บาท 1 กล่องบรรจุ 3 ชิ้น ยังคงขายราคาเดิม แต่คาดการณ์ว่า หลังจากหมดสต๊อกเก่าสิ้นเดือนนี้ คงมีการปรับขึ้นราคาอย่างแน่นอน