“นักวิชาการ-เอกชน” สวดนโยบายประชาวิวัฒน์ด้านพลังงาน ช่วยค่าครองชีพคนจนไม่ถูกกลุ่มเป้าหมาย “ทีดีอาร์ไอ” แนะรัฐบาลเลิกใช้พลังงานเป็นสินค้าทางการเมือง พร้อมปล่อยลอยตัวราคาเป็นไปตามกลไกตลาด หลังนำเงินงบประมาณมาอุดหนุน จนใกล้ถังแตก ทำให้รัฐหมดปัญญาหางบฯลงทุน “บางจาก-ปตท.” หนุนลอยตัวราคาพลังงานเต็มที่ หวังเลิกแบกภาระขาดทุน
นายนิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยในงานสัมมนา “เศรษฐกิจฟื้นตัว พลังงานติดจรวด” จัดโดยวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) โดยระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปี 2554 จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 4% เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับรัฐบาลมีการอัดฉีดเม็ดเงินกองทุนหมู่บ้านราว 80,000 ล้านบาทเข้าระบบให้เบิกจ่ายได้ในปีนี้ แต่สิ่งที่น่ากังวล คือ สถานการณ์ด้านพลังงาน
ทั้งนี้ ทีดีอาร์ไอต้องการให้รัฐบาลแยกสินค้าพลังงาน เช่น น้ำมัน ไฟฟ้า ออกจากการเป็นสินค้าทางการเมือง เพราะทำให้รัฐบาลต้องใช้เงินเข้าไปอุดหนุนในการดูแลค่าครองชีพประชาชนไม่ให้สูงขึ้น โดยใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 5,000 ล้านบาท เข้าไปชดเชย ช่วยพยุงราคาน้ำมันไม่ให้ปรับสูงขึ้น ขณะที่นโยบายประชาวิวัฒน์ให้ประชาชนใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วยฟรีเป็นการถาวร ต้องใช้เงินอุดหนุนถึง 15,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งรัฐบาลควรลอยตัวราคาพลังงานให้เป็นไปตามกลไกตลาด ไม่ควรเข้าไปยุ่ง
“ผมคิดว่าควรจะถอดสินค้าพลังงาน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ไฟฟ้า ออกจากการเมืองไปเลย เพราะภาระที่จะไปตรึงราคาจะมากขึ้นเนื่องจากแนวโน้มราคาพลังงานยังคงสูงขึ้นการจะดูแลประชาชนก็ควรจะให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย คนจนต้องจนจริงๆ แล้วมองที่ค่าครองชีพ อย่างวันนี้ภาคขนส่ง คือ ภาระสำคัญที่สุดยิ่งกว่าไฟฟ้า วันนี้บริการรถสาธารณะค่อนข้างแพงมาก ค่าขนส่งยังสะท้อนมายังต้นทุนสินค้า ทำไมเราไม่จัดระบบขนส่งให้ราคาถูกลงแล้วรัฐก็อุดหนุน หรือไม่ก็แจกคูปองช่วยน้ำมันคนจนแบบตรงจุดไปเลยจะดีกว่า ประเทศไทยเราก็แปลก สร้างรถไฟฟ้าใต้ดินก็ไปไล่ที่คนจนไกลออกไปแล้วก็ผุดหมู่บ้านหรูๆ กลายเป็นคนรวยได้ใช้อีก ทำถนนก็ไล่ที่คนจนอีกเหมือนกัน”
ทั้งนี้ รัฐบาลควรออกนโยบายในการลดค่าครองชีพประชาชนใหม่ เพื่อไม่ให้มีการแทรกแซงงบประมาณของภาครัฐ และควรช่วยเหลือเฉพาะคนจนจริงๆ ซึ่งมีอยู่ราว 8% ของประชากรกว่า 60 ล้านคน ซึ่งอาจจะมีการแจกคูปอง เพราะการใช้ไฟฟ้าฟรี การตรึงค่าก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) โดยเฉพาะก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ที่ภาคขนส่งได้รับประโยชน์ไปด้วย มีสัดส่วนการใช้ถึง 40% ขณะที่ภาคครัวเรือนมีสัดส่วนการใช้ราว 50%
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า จากนโยบายประชาวิวัฒน์และรัฐสวัสดิการต่างๆ ส่งผลให้มีการนำเงินงบประมาณออกมาใช้จนหมด และเมื่อมีการเลือกตั้งก็ไม่รู้ว่า รัฐบาลจะมีนโยบายอะไรออกมาอีก ภาวะดังกล่าวทำรัฐไม่มีความสามารถในการลงทุน ขณะที่ประเทศกำลังพัฒนาต้องลงทุนอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป้นต้องแก้ไขพระราชบัญญัติร่วมทุน (พ.ร.บ.) 2535 เพื่อดึงทุนจากต่างประเทศเข้ามา รวมทั้งการออกภาษีสิ่งแวดล้อมเพื่อดูแลให้ภาคอุตสาหกรรมที่เข้ามาลงทุนมีการปล่อยมลพิษให้น้อยที่สุด
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จะเสนอให้รัฐบาลประกาศใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี4 เกรดเดียว จากเดิมที่รัฐบาลจะประกาศดีเซล บี5 เกรดเดียวภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชดเชยราคาน้ำมันดีเซลเหลือ 50-60 ล้านบาทต่อเดือน ลดลงจากปัจจุบันที่ต้องชดเชยน้ำมัน บี3 และ บี5 อยู่ที่ 500 ล้านบาทต่อเดือน เนื่องจากกองทุนไม่ต้องรับภาระอุดหนุนส่วนต่างราคาระหว่าง บี3 และ บี5 และยังแก้ไขปัญหาปาล์มขาดแคลนในขณะนี้ด้วย โดยในปลายปี 2555 บางจากจะเลิกขายเบนซิน 91 เพื่อนำหัวจ่ายมาขาย อี20 มากขึ้น
ราคาน้ำมันในปีนี้ มีโอกาสขยับแตะระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระยะสั้นๆ แต่ราคาเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 85-90 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล เพราะเชื่อว่าความต้องการใช้น้ำมันจะลดลงหลังหมดช่วงฤดูหนาว และการเทขายของกลุ่มเฮดจ์ฟันด์ที่ถือครองน้ำมันอยู่ 170 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายประเมินว่าปี 2555 ราคาน้ำมันตลาดโลกจะปรับเพิ่มเฉลี่ยจากปีนี้อีก 10 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรลไปอยู่ที่ 95-110 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล
ด้าน นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เห็นด้วยกับการปล่อยให้ราคาพลังงานเป็นไปตามกลไกตลาด และเห็นว่า รัฐบาลควรลดการอุดหนุนราคาพลังงานลง ส่วนหนึ่งเพื่อลดการขาดทุนของผู้ประกอบการด้วย ส่งผลต่อกำไรที่เพิ่มขึ้น และรัฐบาลจะสามารถจัดเก็บภาษีนิติบุคล 30% เข้าเป็นรายได้มากขึ้น แล้วควรนำเงินดังกล่าวไปอุดหนุนการใช้พลังงานให้ถูกจุด โดยเฉพาะคนจนจริงๆ เช่นที่ผ่านมาการอุดหนุนราคาก๊าซเอ็นจีวี คนจนไม่ได้ประโยชน์ มีแต่ผู้ใช้รถบรรทุกที่ได้รับประโยชน์
“ผมเห็นด้วยกับแนวคิดของบางจากที่จะให้ดีเซลในประเทศเหลือเกรดเดียวจากไบโอดีเซล บี3 กับ บี5 เป็น บี4 แทน เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลตลาดสิงคโปร์ล่าสุดอยู่ระดับสูงเกือบ 110 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ดีเซลควรจะเกิน 30 บาทต่อลิตรไปแล้ว แต่รัฐบาลใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาอุดหนุน ส่วนราคากลุ่มดีเซลสัปดาห์นี้จะเป็นอย่างไร คงอยู่ที่ภาครัฐจะอุดหนุนราคาหรือไม่”
ส่วน นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างแก้ไข พ.ร.บ.ร่วมทุน พ.ศ.2535 โดยคาดว่า ร่าง พ.ร.บ.จะแล้วเสร็จภายในเดือนนี้ และนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ในเดือนมีนาคมเพื่อนำเข้าหารือในสภาเดือนพฤษภาคม 2554 โดยร่างดังกล่าวจะทำให้การพิจารณาโครงการร่วมทุนมีระยะเวลา 7 เดือน จากเดิมใช้เวลาพิจารณาจนอนุมัติโครงการ 48 เดือน