“มาร์ค” หนุนคุมราคาไข่ไก่ ยันชั่งกิโลขายเป็นทางเลือกให้ประชาชน

“มาร์ค” หนุนพาณิชย์ กำหนดไข่ไก่เป็นสินค้าควบคุม ยันการชั่งกิโลขายไข่ไก่ ถือเป็นทางเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค มั่นใจถูกกว่าราคาตลาด “พาณิชย์” เคาะราคาขายไข่ไก่ กก.ละ 50-53 บาท ทดลองขายต้นเดือน ก.พ.นี้ นำร่อง 30 ตลาดเฉพาะในเขต กทม.ปันกำไรให้ผู้ค้า 15% มั่นใจช่วยผู้บริโภคประหยัด 10-20 สตางค์ต่อฟอง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงพาณิชย์มีมติการขายไข่ไก่เป็นกิโลกรัม โดยกำหนดราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 50-52 บาท โดยระบุว่า ในกรอบของการปฏิบัติเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค และในการดำเนินการต้องให้กระทรวงพาณิชย์เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาหารือ

ทั้งนี้ เข้าใจว่า จะเป็นการทำได้ในบางพื้นที่ โดยไม่ได้หมายความจะทำได้เป็นการทั่วไปทั้งหมด ซึ่งตอนนี้มีการนำร่องที่มีนบุรีและรังสิต ก็มีราคาที่ถูกกว่า และยืนยันว่า วัตถุประสงค์ที่ทำก็ต้องถูกกว่าด้วย ส่วนที่มีการประกาศให้ไข่ไก่เป็นสินค้าควบคุม เพื่อที่จะให้มีการเข้มงวดกวดขันมากขึ้น เพื่อไม่ให้มีการเอาเปรียบ หรือมีการขึ้นราคาโดยไม่สมเหตุสมผล

เพราะฉะนั้น เมื่อกระทรวงพาณิชย์ประกาศ ก็มีหน้าที่ในการดูแลติดตาม ทั้งนี้ จะมีการตรวจสอบในกรณีที่มีการขึ้นราคาไข่ไก่ จากปัญหาในเรื่องของปริมาณด้วย และยืนยันว่า นโยบายดังกล่าวจะทำในบางพื้นที่เท่านั้น ไม่ได้ทำเป็นการทั่วไป และที่สำคัญการขายไข่ไก่แบบชั่งกิโล ก็ต้องถูกกว่าราคาตลาดโดยทั่วไป

ด้าน นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับสมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ ชมรมผู้ค้าไข่ไก่ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ตลาดสดที่เป็นพันธมิตรกับกรมการค้าภายใน เกี่ยวกับแนวทางการขายไข่เป็นกิโลกรัม เพื่อลดค่าครองชีพให้แก่ผู้บริโภค ตามโครงการประชาวิวัฒน์ของรัฐบาลว่า ทุกฝ่ายเห็นชอบร่วมกันที่จะเริ่มทดลองขายไข่ไก่เป็น กก.ตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2554 เป็นต้นไป นำร่องเฉพาะตลาดใน กทม.ก่อนรวม 30 แห่ง เช่นตลาดสดยิ่งเจริญ ตลาดสดเสรี ตลาดสดรังสิต ตลาดสดมีนบุรี เป็นต้น

สำหรับราคาขายปลีกไข่ไก่คละเบื้องต้น จะกำหนดโดยใช้เกณฑ์ให้ส่วนแบ่งกำไรแก่ผู้ค้าปลีกประมาณ 15% หรือ 5-8 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) หรือกำไรฟองละ 30 สตางค์ ปัจจุบันราคาขายไข่ไก่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ กก.ละ 45 บาท หากคิดเป็นราคาจำหน่ายปลีกจะอยู่ที่ กก.ละประมาณ 50-53บาทต่อ กก.

“จากการศึกษาพบว่า การซื้อไข่ไก่เป็น กก.จะทำให้ประชาชนประหยัดค่าใช้จ่ายลงฟองละ 10-20 สตางค์ และหากเทียบน้ำหนัก 1 กก.ต่อราคาจะเห็นว่าไข่เป็นโปรตีนที่ราคาถูกมาก ถูกกว่าหมูที่ราคา กก.ละ 100-120 บาท ไก่เนื้อ กก.ละ 60 บาท ทั้งนี้ เชื่อว่า การขายไข่ไก่เป็น กก.จะส่งเสริมให้คนบริโภคไข่เพิ่มขึ้น”

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ยังมีปัญหาเรื่องศักยภาพในการขนส่งของเจ้าของฟาร์มไข่ และผู้ขายรายย่อยที่ไม่สามารถนำรถไปซื้อมาขายโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางได้ โดยจะทดลองจำหน่าย 3 เดือน จากนั้นจะประเมินอีกครั้งว่า มีข้อดีข้อเสียหรือต้องปรับปรุงส่วนใดบ้าง

ทั้งนี้ หากการขายไข่ไก่แบบชั่งกิโลประสบความสำเร็จ ในอนาคตอาจต้องออกมาตรการดูแลราคา ด้วยการประกาศราคาแนะนำไข่ไก่เป็น กก.ต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องออกมาตรการกำกับดูแล แม้ว่าจะเสนอให้เป็นสินค้าในบัญชีควบคุมแล้ว เนื่องจากการผลิต และการค้าไข่ไก่ยังอยู่ในภาวะปกติ ไม่เกิดปัญหาขึ้น

นางวัชรี กล่าวว่า การขายไข่เป็นกก.เป็นทางเลือกที่เพิ่มขึ้น โดยกรมไม่ได้บังคับทุกร้านจะต้องขายไข่แบบชั่ง กก.ส่วนกรณีที่เกรงว่า ผู้ซื้อจะเสียเปรียบนั้น ไม่น่าเกิดขึ้นเพราะการขายไข่คละเป็น กก.แม่ค้าจะเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อเลือกได้ หากใครเลือกเฉพาะใบใหญ่ก็จะได้จำนวนฟองน้อยลง หากเลือกเฉพาะฟองเล็กจะได้จำนวนฟองเพิ่มขึ้น

“ส่วนกรณีที่เกรงจะทำให้ผู้ค้าเกิดปัญหา เนื่องจากน้ำหนักไข่ไก่จะลดลงตามระยะเวลาที่เก็บสต๊อก อาจทำให้คนขายขาดทุนนั้น จากข้อเท็จจริงพบว่า รอบการขายไข่ไก่จะหมุนทุกๆ ระยะ 1-2 สัปดาห์ ดังนั้น จะไม่มีไข่สะสมในสต๊อกของผู้ขายจนทำให้ไข่น้ำหนักลดลงแน่นอน”