xs
xsm
sm
md
lg

นักธุรกิจราชประสงค์เพิ่งตื่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อไป สวนทางเงินดอลลาร์สหรัฐที่กลับมาแข็งค่า สะท้อนทิศทางการเคลื่อนย้ายเงินทุนต่างประเทศ...

เงินทุนที่เคยเข้ามาเก็งกำไรในแถบเอเชียโดยเฉพาะในไทย กำลังจะไหลกลับ หลังเศรษฐกิจของสหรัฐ "ทำท่าจะฟื้น!!.." แน่นอน นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นตั้งแต่วันศุกร์ต่อเนื่องมาถึงสัปดาห์นี้ ส่วนจะถึงขั้นขนเงินกลับทันทีหรือแค่ทำกำไร "สองเด้ง" จากค่าเงินบาท แล้วลงทุนรอบใหม่หรือไม่ "เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ" ที่ผู้มีส่วนได้เสีย ต้องติดตาม และจับตาอย่างใกล้ชิด!!!...

ข้อมูลที่น่าสนใจ ต่างชาติไม่เพียงแต่เทขายหุ้น รองผู้ว่าแบงก์ชาติ "อัจนา ไวความดี" เตือนให้ระวังความผันผวนในตลาดตราสารหนี้ เพราะมีการเทออกมาจำนวนมากเช่นเดียวกับตลาดหุ้น โดยวันที่ 10 ม.ค.วันเดียวก็มีแรงขายตราสารหนี้ออกมามากกว่า 6 พันล้านบาท!!..

ในงานสัมมนาแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2554 และความท้าทายของธุรกิจ จัดโดยเครือ KBANK เมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) รองผู้ว่าแบงก์ชาติชี้ว่าปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรป จะกระทบโดยตรงต่อตลาดพันธบัตรประเทศเกิดใหม่ ไม่เว้นไทย ช่วงนี้จึงต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงจากปัญหาเศรษฐกิจในประเทศอุตสาหกรรมหลักๆ ของโลก ที่อาจรอวันปะทุ!!..

บนเวทีงานเดียวกัน "อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม" ปลัดกระทรวงการคลังชี้ให้เห็นเรื่องใกล้ตัวคนไทย คือปัจจัยเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมือง เป็นการเมืองที่คนไทยหน่าย! แต่ไม่ควรเบื่อ เพราะการเมืองฉุดรั้งจีดีพีปีเถาะไม่ให้โตเกิน 5% "กระทบต่อปากท้องชาวบ้านโดยตรง!!.."

ประเด็นของปลัดคลัง เห็นได้จากการชุมนุมของคนเสื้อแดงบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ที่นับวันยิ่งเหิมเกริม "ม็อบซ้ำซาก!..." ฟันธง!...ม็อบมีคนมากเท่าไหร่ "ความเสียหายยิ่งทวีคูณ" เพราะเงินที่สะพัดในม็อบคนเสื้อแดง กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียงน้อยนิด เมื่อเทียบกับการจับจ่ายใช้สอย ธุรกรรมทางการเงิน การค้าขายและการท่องเที่ยว...

"และที่อันตรายที่สุดต่อเศรษฐกิจคือกระทบต่อความเชื่อมั่น เป็นตวามเสียหายที่มิอาจประเมิน!!.."

เมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) นักธุรกิจย่านราชประสงค์เพิ่งรู้สึกตัวว่าไม่ควร "งอมืองอเท้า" ให้คนเสื้อแดงย่ำยีทุกเสาร์อาทิตย์ อีกต่อไป "ชาย ศรีวิกรม์" ในฐานะนายกสมาคมชาวราชประสงค์ ออกมาอ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลช่วย "ชาย" อ้างข้อมูลปี 2553 บอกความเสียหายทางธุรกิจของผู้ประกอบการรายเล็กรายใหญ่รวม 2,888 ราย "มูลค่าความเสียหาย 11,275 ล้านบาท!!.."

ยังมีผลกระทบต่อความมั่นคงในอาชีพของพนักงานในธุรกิจดังกล่าวจำนวน 30,661 คน หรือความเดือดร้อนในด้านการจราจรและวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ละแวกใกล้เคียงและคน กทม.!!

งานนี้ เป็นหน้าที่ที่นายกฯ ต้องรับมาจัดการด้วยตัวเอง ไม่ใช่ลอยตัว โยนเผือกร้อน ด้วยการตั้งคณะกรรมการหรือให้หน่วยงานอื่นรับผิดชอบ แล้วตัวเอง นอนฝันหวานจะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง อย่างกรณีล่าสุด พี่แกตัดสินใจ "ลอยแพปัญหาเขมร" ไปให้กระทรวงต่างประเทศ ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องของรัฐบาลโดยตรง...

เล่นการเมืองจนหน้าหนา ถ้าไม่อาย "ฮุนเซน" ก็ควรอายครอบครัว "พนิช" ลูกพรรคของตัวเอง บ้าง พ่อคุณ!?
กำลังโหลดความคิดเห็น