“สอน.” นัดหารือ 7 ม.ค.นี้ เร่งสรุปแผนปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ก่อนเสนอ “ชัยวุฒิ” พิจารณา เผย ข้อเสนอเบื้องต้น ชงกำหนดเพดานราคาน้ำตาลกึ่งลอยตัวต่ำสุด สูงสุดกิโลละ 15-30 บาท โดยให้มีผลบังคับใช้ปี 55
นายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า วันที่ 7 ม.ค.2554 จะหารือร่วมกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายตามนโยบายของ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม โดยเฉพาะราคาน้ำตาลทรายกึ่งลอยตัวเกี่ยวกับรายละเอียดการกำหนดเพดานราคาต่ำสุดและราคาสูงสุดของน้ำตาลทรายขายปลีกที่ได้มอบหมายให้ทุกส่วนไปจัดทำรายละเอียดมาส่งโดยให้เหตุผลที่ชัดเจนและพิสูจน์ได้
“ตัวเลขของ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายที่เสนอเพดานราคาต่ำสุดที่ 15 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) และสูงสุด คือ 30 บาทต่อ กก.นั้น ผมบอกเลยว่า จะเสนอมาแบบมั่วๆ ไม่ได้ ขอเหตุและผลรองรับพิสูจน์ได้ในเชิงเศรษฐศาสตร์เพื่อให้เป็นที่ยอมรับได้ของทุกฝ่าย ซึ่งจะมีการนำสรุปผลในวันที่ 7 ม.ค.นี้ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นจะต้องเร่งสรุปเพื่อนำเสนอผลการหารือทั้งหมดต่อ นายชัยวุฒิในวันที่ 15 ม.ค.นี้” นายประเสริฐ กล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ได้มีการหารืออย่างต่อเนื่องและทุกฝ่ายยอมรับว่า ท้ายสุดไทยจะหนีไม่พ้นที่จะต้องนำไปสู่การลอยตัวราคาน้ำตาลทราย โดยจะเริ่มในปี 2555 เนื่องจากไทยจะเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่ภาษีนำเข้าจะเหลือ 0% แต่ก่อนจะถึงจุดนั้นคงจะต้องค่อยๆ ปรับโครงสร้าง ก็คือ กึ่งลอยตัวที่มีเพดานต่ำสุดและสูงสุดและใช้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเป็นกลไกในการดูแล ดังนั้น นโยบายจากรัฐบาลก็คงจะต้องชัดเจนเกี่ยวกับฐานะกองทุนฯ พอสมควรประกอบด้วย
นายประเสริฐ กล่าวว่า อนาคตอีก 3 ปีข้างหน้า หลายฝ่ายมองว่าอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายจะยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ เนื่องจากราคาจะยังคงทรงตัวในระดับสูง โดยราคาน้ำตาลทรายดิบซื้อขายล่วงหน้าปี 2556 ใกล้แตะระดับ 20 เซนต์ต่อปอนด์ ขณะที่ราคาส่งมอบ มี.ค.2554 แตะ 34 เซนต์ต่อปอนด์ ซึ่งถือว่าสูงมาก มองว่า เป็นโอกาสของไทย เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตใหญ่สุดของเอเชีย และสามารถเป็นฐานผลิตอุตสาหกรรมต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องปรับโครงสร้างเพื่อเพิ่มโอกาสให้กับทุกส่วนอย่างเป็นธรรม
นายชลัส ชินธรรมมิตร์ ประธานคณะทำงานด้านตลาดภายในประเทศ บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้คณะทำงานของฝ่ายโรงงานน้ำตาลกำลังทำข้อสรุปเกี่ยวกับเพดานราคาน้ำตาลทรายที่เหมาะสมอยู่ ซึ่งเพดานเบื้องต้นที่คิดก็มีทั้ง 15-30 บาทต่อก.ก.และ 14-28 บาทต่อ กก.โดยราคาต่ำสุดอิงกับราคาประกาศราคาอ้อยขั้นต้นเฉลี่ยที่ผ่านมา แต่ราคาสูงสุดยังต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง จึงยังสรุปไม่ได้ว่าท้ายสุดราคาที่เหมาะสมจะเป็นอย่างไร คงจะต้องไปถกในที่ประชุมอีกครั้งถึงความเหมาะสม ซึ่งราคาสูงสุดต้องไม่กระทบผู้บริโภคมากเกินไปและสำคัญจะต้องดูความสามารถของกองทุนฯ ที่จะเข้ามาอุดหนุนส่วนต่างด้วย
นายประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า วันที่ 7 ม.ค.2554 จะหารือร่วมกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายตามนโยบายของ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม โดยเฉพาะราคาน้ำตาลทรายกึ่งลอยตัวเกี่ยวกับรายละเอียดการกำหนดเพดานราคาต่ำสุดและราคาสูงสุดของน้ำตาลทรายขายปลีกที่ได้มอบหมายให้ทุกส่วนไปจัดทำรายละเอียดมาส่งโดยให้เหตุผลที่ชัดเจนและพิสูจน์ได้
“ตัวเลขของ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายที่เสนอเพดานราคาต่ำสุดที่ 15 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) และสูงสุด คือ 30 บาทต่อ กก.นั้น ผมบอกเลยว่า จะเสนอมาแบบมั่วๆ ไม่ได้ ขอเหตุและผลรองรับพิสูจน์ได้ในเชิงเศรษฐศาสตร์เพื่อให้เป็นที่ยอมรับได้ของทุกฝ่าย ซึ่งจะมีการนำสรุปผลในวันที่ 7 ม.ค.นี้ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นจะต้องเร่งสรุปเพื่อนำเสนอผลการหารือทั้งหมดต่อ นายชัยวุฒิในวันที่ 15 ม.ค.นี้” นายประเสริฐ กล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ได้มีการหารืออย่างต่อเนื่องและทุกฝ่ายยอมรับว่า ท้ายสุดไทยจะหนีไม่พ้นที่จะต้องนำไปสู่การลอยตัวราคาน้ำตาลทราย โดยจะเริ่มในปี 2555 เนื่องจากไทยจะเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่ภาษีนำเข้าจะเหลือ 0% แต่ก่อนจะถึงจุดนั้นคงจะต้องค่อยๆ ปรับโครงสร้าง ก็คือ กึ่งลอยตัวที่มีเพดานต่ำสุดและสูงสุดและใช้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายเป็นกลไกในการดูแล ดังนั้น นโยบายจากรัฐบาลก็คงจะต้องชัดเจนเกี่ยวกับฐานะกองทุนฯ พอสมควรประกอบด้วย
นายประเสริฐ กล่าวว่า อนาคตอีก 3 ปีข้างหน้า หลายฝ่ายมองว่าอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายจะยังคงเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ เนื่องจากราคาจะยังคงทรงตัวในระดับสูง โดยราคาน้ำตาลทรายดิบซื้อขายล่วงหน้าปี 2556 ใกล้แตะระดับ 20 เซนต์ต่อปอนด์ ขณะที่ราคาส่งมอบ มี.ค.2554 แตะ 34 เซนต์ต่อปอนด์ ซึ่งถือว่าสูงมาก มองว่า เป็นโอกาสของไทย เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตใหญ่สุดของเอเชีย และสามารถเป็นฐานผลิตอุตสาหกรรมต่อเนื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องปรับโครงสร้างเพื่อเพิ่มโอกาสให้กับทุกส่วนอย่างเป็นธรรม
นายชลัส ชินธรรมมิตร์ ประธานคณะทำงานด้านตลาดภายในประเทศ บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้คณะทำงานของฝ่ายโรงงานน้ำตาลกำลังทำข้อสรุปเกี่ยวกับเพดานราคาน้ำตาลทรายที่เหมาะสมอยู่ ซึ่งเพดานเบื้องต้นที่คิดก็มีทั้ง 15-30 บาทต่อก.ก.และ 14-28 บาทต่อ กก.โดยราคาต่ำสุดอิงกับราคาประกาศราคาอ้อยขั้นต้นเฉลี่ยที่ผ่านมา แต่ราคาสูงสุดยังต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง จึงยังสรุปไม่ได้ว่าท้ายสุดราคาที่เหมาะสมจะเป็นอย่างไร คงจะต้องไปถกในที่ประชุมอีกครั้งถึงความเหมาะสม ซึ่งราคาสูงสุดต้องไม่กระทบผู้บริโภคมากเกินไปและสำคัญจะต้องดูความสามารถของกองทุนฯ ที่จะเข้ามาอุดหนุนส่วนต่างด้วย