xs
xsm
sm
md
lg

ครม.เศรษฐกิจ ตีกลับแผนเหล็กกำชับ ก.อุตฯ ศึกษาให้รอบด้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ครม.เศรษฐกิจ ตีกลับโครงการเหล็กต้นน้ำ เฟส 1 กำชับ ก.อุตฯ ไปศึกษาใหม่ โดยพิจารณาข้อมูลให้รอบด้าน เตรียมตั้งทีมที่ปรึกษาเดือนนี้ คาดได้ข้อสรุปภายในอีก 8 เดือน เล็ง 4 จว.ภาคใต้-ตะวันออก

นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) รับทราบรายงานความก้าวหน้าโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งอุตสาหกรรมเหล็กขั้นต้น ระยะที่ 1 ของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะได้บริษัทที่ปรึกษาในเดือนมีนาคม 2553 นี้ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเวลาประมาณ 8 เดือน

ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้กระทรวงอุตสาหกรรมนำแผนดังกล่าวกลับไปพิจารณาอีกครั้งเพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง ทั้งนี้หากกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีการสำรวจความเห็นประชาชนในพื้นที่แล้วก็ส่งข้อมูลดังกล่าวเสนอให้กับคณะกรรมการคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจเพื่อพิจารณาต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปศึกษาแนวทางเลือกเพิ่มเติม ในการพัฒนาระหว่างอุตสาหกรรมเหล็กและอุตสาหกรรมบริการเพื่อให้สามารถเปรียบเทียบผลประโยชน์ และผลกระทบต่อประเทศโดยรวมว่าแนวทางใดได้รับผลประโยชน์และรายได้เข้าสู่ประเทศมากกว่า เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของรัฐบาลต่อไป

ทั้งนี้ ครม.เศรษฐกิจให้ความเห็นว่า ควรจะมีการพิจารณาภาพรวมของอุตสาหกรรมเหล็ก รวมทั้งบทบาทที่เหมาะสมของประเทศไทย และที่สำคัญ คือ ภาระการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคต่างๆ รวมถึงผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมต่อทรัพยกรธรรมชาติและประชาชนในพื้นที่

นอกจากนี้ กระทรวงอุตฯ ควรศึกษาทางเลือกระหว่างการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กกับอุตสาหกรรมบริการ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบผลประโยชน์และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศโดยรวม เพื่อนำมาประกอบเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของรัฐบาลต่อไป

“ถ้าจะต้องปรับพื้นที่ตามแนวชายฝั่งทะเลมาทำธรกิจด้านบริการการท่องเที่ยว เม็ดเงินที่เข้ามาในประเทศอาจจะไม่ได้น้อยไปก่ว่าการก่อสร้างอุตสาหกรรมหนัก เพราะฉะนั้นต้องนำจุดนี้ไปประกอบสำหรับการตัดสินใจในการลงทุนต่อไป”

อนึ่ง สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทยได้ศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่ที่มีศักยภาพไว้ 4 จังหวัดตามชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก และชายฝั่งทะเลภาคใต้ ด้านอ่าวไทย เช่น จ.จันทบุรี จ.ระยอง จ.สงขลา และ จ.ปัตตานี ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดจ้างที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเป็นไปได้และแนวคิดของโครงการนี้ เพื่อให้การดำรงชีวิตของคนในพื้นที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด และมีแนวทางการชดเชยเป็นที่ยอมรับ มีการพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคม รวมทั้งมีแนวทางในการบริหารจัดการโครงการที่เหมาะสม และนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
กำลังโหลดความคิดเห็น