“พรทิวา” เตรียมตั้งคณะกรรมการปรับโครงสร้างอคส. ตามข้อเสนอคลัง หากพบไม่จำเป็นต้องคงอยู่ ก็ให้ยุบเลิก ระบุต้องให้เสร็จใน 3 เดือนก่อนชง “ครม.” เคาะอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการปรับโครงสร้างองค์การคลังสินค้า (อคส.) ตามที่กระทรวงการคลัง ได้เสนอรายงานผลการประเมินการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจปี 2551 ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหากจัดตั้งได้แล้ว คณะกรรมการชุดนี้ จะต้องดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างอคส. ใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง แล้วนำผลสรุปเสนอต่อคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (กนร.) พิจารณาก่อนนำเสนอครม.ต่อไป
สำหรับรายงานผลการประเมินการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจปี 2551 ของกระทรวงการคลัง พบว่า อคส.เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีคะแนนประเมินผล (ภาพรวม) ต่ำสุด 5 อันดับสุดท้าย มีคะแนน 2.4803 ลดลงจากปี 2550 ที่มีคะแนน 2.7821 โดยมีปัญหาสำคัญคือ ขาดคณะกรรมการ หรือผู้บริหารสูงสุดเป็นเวลานาน หรือมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งจนขาดความต่อเนื่องในการดำเนินงาน ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน และขวัญกำลังใจขององค์กร นอกจากนี้ บทบาท และทิศทางขององค์กรในการดูแลสินค้าเกษตรยังไม่ชัดเจน
ขณะเดียวกัน ยังมีปัญหาในการปิดบัญชี เพราะสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยังไม่รับรองงบการเงินในปี 2550 แสดงให้เห็นถึงปัญหาของการจัดการ ความน่าเชื่อถือของข้อมูล และการรายงานต่างๆ โดยเฉพาะด้านการเงิน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการบริหารจัดการ และสนับสนุนการตัดสินใจ ที่สำคัญการปรับปรุงฟื้นฟูฐานะทางการเงินให้แข็งแกร่ง การปรับโครงสร้างต้นทุน ค่าใช้จ่าย และการบริหารสินทรัพย์ ยังไม่มีแนวทางดำเนินการอย่างชัดเจน และเป็นรูปธรรม อีกทั้ง ทรัพย์สินในปี 51 ยังลดลงถึง 66 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการที่อคส.เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีผลการประเมินต่ำติดต่อกันมาหลายปี กระทรวงการคลังเสนอให้ควรทบทวนบทบาท และภารกิจ หากมีความจำเป็นที่ต้องคงอยู่ ก็ต้องหาแนวทางในการปรับปรุง แต่หากไม่มีความจำเป็นในการคงอยู่ ก็ควรพิจารณายุบเลิก หรือปรับบทบาทองค์กรให้เหมาะสม เพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นภาระกับภาครัฐต่อไป เมื่อกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการทบทวนบทบาท ภารกิจ และความจำเป็นในการมีอยู่ของอคส.เสร็จสิ้นแล้ว ให้นำเสนอต่อ กนร. ภายใน 3 เดือน พร้อมให้เสนอแผนปรับบทบาท หรือแผนพลิกฟื้นต่อกนร.เพื่อพิจารณาก่อนนำเสนอ ครม.ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในการพิจารณาปรับบทบาท และภารกิจของ อคส.นั้น คงต้องพิจารณายุบเลิกส่วนงานที่ไม่มีความจำเป็น เช่น คลังสินค้าที่ประจำอยู่ในแต่ละจังหวัด หลังจากที่รัฐไม่ได้ทำโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องส่งบุคคลเหล่านี้ไปประจำยังคลังสินค้าในจังหวัดต่างๆ อีกต่อไป หากมีการยุบเลิกจริง จะเกลี่ยบุคคลที่มีความสามารถไปประจำยังส่วนต่างๆ ของ อคส. ส่วนที่ไม่มีความสามารถคงต้องให้ออก และจ่ายค่าชดเชยให้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ขณะนี้ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดตั้งคณะกรรมการปรับโครงสร้างองค์การคลังสินค้า (อคส.) ตามที่กระทรวงการคลัง ได้เสนอรายงานผลการประเมินการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจปี 2551 ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหากจัดตั้งได้แล้ว คณะกรรมการชุดนี้ จะต้องดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างอคส. ใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง แล้วนำผลสรุปเสนอต่อคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (กนร.) พิจารณาก่อนนำเสนอครม.ต่อไป
สำหรับรายงานผลการประเมินการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจปี 2551 ของกระทรวงการคลัง พบว่า อคส.เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีคะแนนประเมินผล (ภาพรวม) ต่ำสุด 5 อันดับสุดท้าย มีคะแนน 2.4803 ลดลงจากปี 2550 ที่มีคะแนน 2.7821 โดยมีปัญหาสำคัญคือ ขาดคณะกรรมการ หรือผู้บริหารสูงสุดเป็นเวลานาน หรือมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งจนขาดความต่อเนื่องในการดำเนินงาน ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน และขวัญกำลังใจขององค์กร นอกจากนี้ บทบาท และทิศทางขององค์กรในการดูแลสินค้าเกษตรยังไม่ชัดเจน
ขณะเดียวกัน ยังมีปัญหาในการปิดบัญชี เพราะสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยังไม่รับรองงบการเงินในปี 2550 แสดงให้เห็นถึงปัญหาของการจัดการ ความน่าเชื่อถือของข้อมูล และการรายงานต่างๆ โดยเฉพาะด้านการเงิน ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการบริหารจัดการ และสนับสนุนการตัดสินใจ ที่สำคัญการปรับปรุงฟื้นฟูฐานะทางการเงินให้แข็งแกร่ง การปรับโครงสร้างต้นทุน ค่าใช้จ่าย และการบริหารสินทรัพย์ ยังไม่มีแนวทางดำเนินการอย่างชัดเจน และเป็นรูปธรรม อีกทั้ง ทรัพย์สินในปี 51 ยังลดลงถึง 66 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการที่อคส.เป็นรัฐวิสาหกิจที่มีผลการประเมินต่ำติดต่อกันมาหลายปี กระทรวงการคลังเสนอให้ควรทบทวนบทบาท และภารกิจ หากมีความจำเป็นที่ต้องคงอยู่ ก็ต้องหาแนวทางในการปรับปรุง แต่หากไม่มีความจำเป็นในการคงอยู่ ก็ควรพิจารณายุบเลิก หรือปรับบทบาทองค์กรให้เหมาะสม เพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นภาระกับภาครัฐต่อไป เมื่อกระทรวงพาณิชย์ดำเนินการทบทวนบทบาท ภารกิจ และความจำเป็นในการมีอยู่ของอคส.เสร็จสิ้นแล้ว ให้นำเสนอต่อ กนร. ภายใน 3 เดือน พร้อมให้เสนอแผนปรับบทบาท หรือแผนพลิกฟื้นต่อกนร.เพื่อพิจารณาก่อนนำเสนอ ครม.ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ในการพิจารณาปรับบทบาท และภารกิจของ อคส.นั้น คงต้องพิจารณายุบเลิกส่วนงานที่ไม่มีความจำเป็น เช่น คลังสินค้าที่ประจำอยู่ในแต่ละจังหวัด หลังจากที่รัฐไม่ได้ทำโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องส่งบุคคลเหล่านี้ไปประจำยังคลังสินค้าในจังหวัดต่างๆ อีกต่อไป หากมีการยุบเลิกจริง จะเกลี่ยบุคคลที่มีความสามารถไปประจำยังส่วนต่างๆ ของ อคส. ส่วนที่ไม่มีความสามารถคงต้องให้ออก และจ่ายค่าชดเชยให้ด้วย