เรคกูเรเตอร์เล็งถก สนพ.เคาะเก็บเงินโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าหลังตัวเลขเก่าเคาะไว้ที่ 5-6 สตางค์ต่อหน่วยเก็บได้กว่าปีละ 375 ล้านบาท
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรคกูเรเตอร์) เปิดเผยว่า เร็วๆนี้จะหารือร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เพื่อพิจารณาการกำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยประเมินไว้เบื้องต้นจะเก็บในอัตรา 5-6 สต./หน่วย เมื่อคำนวณจากโรงไฟฟ้าขนาด 1,000 เมกะวัตต์ จะทำให้ชุมชนมีเงินกองทุนฯถึงปีละ 375 ล้านบาทหลังจากรายได้จากโรงไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงส่วนอื่นๆ มีความชัดเจนหมดแล้ว
“โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ค่อนข้างได้รับการต่อต้านจากประชาชนในพื้นที่เป้าหมายแม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่จะเห็นด้วยก็ตามเพราะยังเกรงปัญหาความปลอดภัย แต่ในขณะเดียวกันประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับจากการมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ก็มีมากเช่นกัน โดยเฉพาะกองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าที่จะได้รับการจัดตั้งขึ้นแต่จะต้องกำหนดให้ชัดเจนถึงที่มาของรายได้”นายดิเรกกล่าว
ปัจจุบันเรคกูเรเตอร์เตรียมออกร่างระเบียบเพิ่มเติมวิธีการใช้จ่ายเงินกองทุนฯใหม่ เพื่อให้การเบิกจ่ายเงินไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย จะกำหนดให้แต่ละกองทุนฯต้องเสนอโครงการเพื่อใช้จ่ายเงินมาให้เรคกูเรเตอร์พิจาณณา โดยตรง เพื่อให้มีการตรวจสอบถึงวัตถุประสงค์ของการใช้เงินสอดคลอ้งกับเงื่อนไขที่ระบุไว้หรือไม่ เนื่องจากเงินกองทุนฯดังกล่าวจะต้องถูกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ตรวจสอบด้วย
สำหรับยอดเงินกองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้า ซึ่งมาจาก86 กองทุน ที่ถูกจัดตั้งตามพื้นที่ของการตั้งโรงไฟฟ้าทั่วประเทศ ขณะนี้มีเงินจัดเก็บอยู่ที่1,340 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายในปี 2552 จะจัดเก็บให้ได้ 1,822 ล้านบาท แต่ถ้านับรวมยอดเงินสะสมของเงินกองทุนตั้งแต่มีการจัดตั้งจนถึงปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 4,006 ล้านบาท
“ ระเบียบใหม่จะต้องยื่นโครงการมาที่เรคกูเรเตอร์เพื่อร่วมตรวจสอบด้วย และหากโครงการใช้เงินน้อยกว่าที่เสนอมาก็ต้องคืนเงินเข้ากองทุนฯตามเดิม ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตการใช้เงินกองทุนฯจะเกิดประโยชน์กับชุมชนแต่ละพื้นที่มากขึ้น”นายดิเรก กล่าว
นายชวลิต พิชาลัย รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า การพิจารณาอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนโรงไฟฟ้า ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จะต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับต้นทุนค่าไฟฟ้าในระยะยาวด้วย ซึ่งขณะนี้สนพ.อยู่ระหว่างการศึกษาตัวเลขที่เหมาะสม เพราะหากเป็นอัตราที่สูงเกินไปก็จะกระทบกับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(เอฟที) แต่ถ้าต่ำเกินไปก็จะทำให้ประชาชนที่อาศัยรอบพื้นที่ตั้งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ได้รับประโยชน์ที่คุ้มค่า อย่างไรก็ตามการจัดเก็บในอัตรา 5-6 สต./หน่วย เป็นตัวเลขสมัยนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ เป็น รมว.พลังงาน