ลำปาง – สตง.เดินหน้าสอบโกงค่าแรงฝายแม้วลำปาง คาดอีก 30 วันรู้ผล พร้อมเสนอผู้ว่าฯ-กรมฯ จัดการต่อ ขณะที่ชาวบ้านที่ถูกแอบอ้างชื่อเบิกค่าแรงร่วม 4 แสนบาท เตรียมทำหนังสือขอตรวจสอบผลการสอบสวน เล็งเข้าพบผู้ว่าฯ ลำปาง เพื่อขอให้ตรวจสอบใกล้ชิด ขณะที่มือมืดอ้างเป็นตัวแทน จนท.ป่าไม้ โทร.ขู่นักข่าว
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า หลังจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นลำปาง และสื่อส่วนกลาง ตลอดจนสถานีโทรทัศน์หลายช่อง ได้นำเสนอข่าวตัวแทนชาวบ้านบ้านโป่งพัฒนา ม.9 ต.บ้านโป่ง อ.งาว จ.ลำปาง จำนวน 10 คน จากทั้งหมด 27 คน เข้าร้องสื่อมวลชนเพื่อให้ตรวจสอบ กรณีถูกเจ้าหน้าที่ ป่าไม้อุทยานแม่วะ จ.ลำปาง นำเอกสารส่วนบุคคลไปตั้งเบิกเงินค่าแรงในการทำฝายแม้วเกือบ 400,000 บาท ซึ่งเนื้อข่าวได้นำเสนอชื่อของ น.ส.ศุภลักษณ์ ศิริมงคล เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี อุทยานแห่งชาติแม่วะ อ.เถิน จ.ลำปาง และนายศุภฤกษ์ เลิศลักษณ์ศิริกุล เจ้าพนักงานป่าไม้ 6 ซึ่งมีชื่อปรากฏเป็นผู้เซ็นรับรองเอกสารของชาวบ้านทั้ง 27 ราย เพื่ออนุมัติในการเบิกจ่ายเงินดังกล่าวด้วยนั้น
ล่าสุด ได้มีผู้ที่อ้างว่าโทรศัพท์มาจากจังหวัดแพร่และเป็นตัวแทนของนางสาวศุภลักษณ์ ศิริมงคล เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ที่ถูกพาดพิงในเนื้อข่าว ได้ใช้วาจาข่มขู่ผู้สื่อข่าวที่เข้าไปทำข่าวในพื้นที่ ให้ทำการแก้ข่าวให้ โดยให้เหตุผลว่า น.ส.ศุภลักษณ์ รับราชการมาหลายปีต้องเสียชื่อเสียงเพราะประชาชนเข้าใจว่าทุจริต หากไม่ทำการแก้ข่าวให้ก็จะเข้าแจ้งความดำเนินคดีทันที
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าว ASTV ผู้จัดการ ประจำจังหวัดลำปาง ได้แจ้งกลับว่า พร้อมที่จะให้ผู้ถูกพาดพิงชี้แจงรายละเอียดที่ถูกชาวบ้านกล่าวหา แต่ต้องมีข้อมูลหลักฐานที่เป็นจริงและสามารถตรวจสอบได้เท่านั้น ซึ่งขณะนี้เรื่องดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริงของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
ซึ่งทำให้ผู้ที่โทรศัพท์เข้ามาไม่พอใจและได้กล่าวปิดท้ายก่อนจะวางสายว่า หากไม่ฟังและไม่แก้ข่าวให้ก็จะให้ น.ส.ศุภลักษณ์ ไปแจ้งความดำเนินคดี
หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบไปยัง นางภวันพัฒน์ อนันต์กุลภัทร์ ผู้อำนวยการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าที่ของเรื่องดังกล่าว ได้ความว่า ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสืบสวน ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 30 วัน หลังจากนั้นเรื่องทั้งหมดถึงจะถูกส่งมายังตนเองเพื่อสรุปและนำเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและกรมฯอีกครั้ง และระหว่างการดำเนินการ ตนไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ ได้
ขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งถูกนำเอกสารไปใช้ในการตั้งเบิกเงินดังกล่าว ได้เร่งดำเนินการทำหนังสือ เพื่อขอตรวจสอบและขอสำเนาจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสืบสวน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ที่เข้าไปสอบชาวบ้านทั้ง 27 ราย เพื่อนำมาประกอบในการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทำหนังสือเตรียมเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เพื่อให้ตรวจสอบและติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิดแล้ว