xs
xsm
sm
md
lg

หอการค้าญี่ปุ่นทุบโต๊ะแก้มาบตาพุดห้ามยืดเยื้อ ลั่นต้องจบใน 6 เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หอการค้าญี่ปุ่น ยอมรับกรอบทำงานแก้ปัญหามาบตาพุดใน 6 เดือน แต่หากยังล่าช้า อาจต้องกลับมาทบทวนแผนการลงทุน พร้อมยืนยัน ญี่ปุ่นยังไม่ถอนการลงทุนในไทย และพร้อมขยายการลงทุน เพราะเห็นว่าไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตในทุกด้านของเอเชีย



นายโย จิซึคาตะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น กรุงเทพฯ (เจซีซี) กล่าวภายหลังหารือร่วมกับนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการหารือประจำปี ระหว่างภาครัฐและเจซีซี โดยระบุว่า นักลงทุนญี่ปุ่นมีความเป็นห่วงการลงทุนในมาบตาพุด เพราะเกือบ 1 ใน 3 ของการลงทุนของญี่ปุ่นอยู่ในมาบตาพุด ดังนั้น ต้องการให้รัฐบาลไทยกำหนดหลักเกณฑ์ให้ชัดเจน และเร่งแก้ปัญหาให้ได้ข้อยุติภายใน 6 เดือน เพราะบรรยากาศการลงทุนในไทยยังดี

อย่างไรก็ตาม หากการแก้ปัญหาล่าช้าออกไปอีกอาจส่งผลให้นักลงทุนญี่ปุ่นต้องกลับมาทบทวนอีกครั้งว่าจะลงทุนในไทยต่อไป หรือย้ายฐานการลงทุนไปประเทศอื่นหรือไม่ แต่ในขณะนี้ นักลงทุนญี่ปุ่นยังยืนยันที่จะลงทุนในไทย เพราะเห็นว่า สถานการณ์ยังอยู่ในภาวะปกติ

ด้านนายชาญชัย กล่าวว่า ได้ชี้แจงและทำความเข้าใจให้หอการค้าญี่ปุ่นเข้าใจแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลไทย ซึ่งขณะนี้ดำเนินการแล้ว 4 รูปแบบ คือ การเร่งออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่ายเพื่อหาข้อยุติ ตั้งคณะกรรมการกลางเพื่อแก้ไขปัญหามาบตาพุดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรค 2 และเร่งออกเป็นพระราชบัญญัติให้ทันเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหอการค้าญี่ปุ่นมีความเชื่อมั่นมากขึ้น แต่ยังต้องการเห็นความชัดเจนภายใน 6 เดือน

ทั้งนี้ ยืนยันว่า หอการค้าญี่ปุ่นยังไม่ถอนการลงทุนในไทย และพร้อมขยายการลงทุน เพราะเห็นว่าไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตในทุกด้านของเอเชีย

นางอรรชกา สีบุญเรือง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า เจซีซีจะตั้งคณะกรรมการร่วมกับกรมสรรพากร เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาการจัดเก็บภาษีในการทำธุรกรรมของบริษัทแม่ในญี่ปุ่นที่เข้ามาทำธุรกรรมผ่านสำนักงานในไทย

ส่วนปัญหาเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันกับกรมศุลกากรที่นักลงทุนเห็นว่า การประเมินพิกัดศุลกากร การให้สินบนนำจับ รวมถึงบทลงโทษ ยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากลนั้น ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างเดินหน้าแก้ไขร่างพระราชบัญญัติศุลกากร ซึ่งจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป โดยจะจัดทำรายละเอียด เพื่อเสนอบอร์ดบีโอไอ พิจารณาภายในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2553 นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น