ครม.เห็นชอบตั้ง"ถวิล พึ่งมา" เป็นประธานคณะกรรมการ อคส.คนใหม่ เตรียมรับงานหินค่าเช่าไซโลเอกชน ก่อนปูทางแต่งตั้งผู้อำนวยการ ด้านพาณิชย์สรุปข้าวสต๊อกรัฐ 3.75 แสนตัน ชง "เจ๊วา" ตัดสินใจ คาดรู้ผลสัปดาห์นี้
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอในการแต่งตั้งนายถวิล พึ่งมา อดีตคณะบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโยลีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า(อคส.) คนใหม่ โดยมี กรรมการ อาทิ นางพรศิริ มโนหาญ นายพุฒิศักดิ์ นามเดช และนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์
หลังจากนี้ คาดว่า คณะกรรมการชุดใหม่จะมีการเรียกประชุม เพื่อสะสางงานเร่งด่วน ทั้งในส่วนของการดำเนินงานส่งข้าว ช่วยผู้ประสบภัยในเฮติ และสะสางค่าเช่าโกดังเก็บข้าวของรัฐบาลให้กับภาคเอกชน
"งานเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการมี 2 เรื่อง การส่งข้าวไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เฮติ และการเร่งรัดการชดใช้ค่าเช่าไซโลที่ยังติดค้างอยู่กับเอกชน ทั้งในส่วนของไซโลมัน ข้าว และข้าวโพด"
ส่วนการแต่งตั้งผู้อำนวยการ (ผอ.) อคส. คนใหม่ขึ้นอยู่กับประธานบอร์ด อคส.จะเรียกประชุมเพื่อหารือวาระการแต่งตั้ง ผอ.คนใหม่เมื่อไหร่
ด้านนายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) กล่าวว่า ตนได้นำเสนอผลการเจรจาต่อรองราคากับผู้ที่ยื่นประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาลจำนวน 375,000 ตัน ให้กับนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ พิจารณาแล้ว ซึ่งคาดว่า จะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ว่าจะตัดสินใจขายข้าวหรือไม่
"ขั้นตอนหลังจากนี้ไป ขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่าจะเห็นชอบหรือให้เพิ่มการเจรจาต่อรอง หรือจะล้มการประมูลใหม่หรือไม่"
อย่างไรก็ตาม การเจรจาต่อรองราคากับเอกชนที่ยื่นประมูลสามารถทำให้ราคาสูงขึ้นมาอีก 200-600 บาทต่อตัน ซึ่งเป็นราคาที่สามารถลดการขาดทุนของภาครัฐได้ ขณะที่ข้าวเหนียวนั้น เอกชนยังให้ราคาต่ำ หากมีการอนุมัติก็จะสามารถเปิดเผยในรายละเอียดทั้งหมดได้
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศเปิดซองประมูลข้าว 375,000 ตันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งหลังจากที่คณะทำงานเจรจาต่อรองราคาข้าวได้เจรจาต่อรองกับเอกชนทั้ง 22 ราย ที่ได้เสนอราคารับซื้อข้าวจากรัฐบาลโดยเฉลี่ย 14,000-16,000 บาทต่อตัน ซึ่งราคาที่เอกชนเสนอซื้อเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาด
นายวิจักร กล่าวเสริมว่า สัญญาณราคาข้าวในตลาดโลกยังมีแนวโน้มขาขึ้นจากปัญหาภัยธรรมชาติ ทำให้ความต้องการข้าวของโลกยังมีอยู่สูง ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ราคาข้าวในตลาดโลกมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นอีก จึงเป็นสิ่งที่หลายคนมองว่าเอกชนควรจะให้ราคาเพิ่มขึ้นอีก
ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสข่าวการล้มประมูลข้าวเหนียวในสต๊อกรัฐ เพราะราคาจากการต่อรองยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ราคาประมูลข้าวขาว 2.9 แสนตัน ก็ยังค่อนข้างต่ำกว่าที่ควร ดังนั้น การตัดสินใจจึงขึ้นอยู่กับ รมว.พาณิชย์ จะเคาะขายหรือไม่ โดยเชื่อกันว่า หากเลือกได้กระทรวงพาณิชย์ก็คงจะยังไม่ตกลงขายในขณะนี้ แม้ว่าจะมีความพยายามจากผู้ส่งออกที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งระบายข้าวในสต๊อกออกมา