บอร์ด "ทีจี" อนุมัติแผนปรับโครงสร้างหนี้ 1-2 หมื่นล้าน พร้อมเสนอชื่อ "ประวิช รัตนเพียร" เป็นคณะกรรมการแทน "วัลลภ พุกกะณะสุต"
นายอำพน กิตติอำพน ประธานคณะกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) โดยระบุว่า ที่ประชุมอนุมัติให้นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย ดำเนินการตามแผนปรับโครงสร้างด้านการเงิน ซึ่งจะดูแลทั้งการเพิ่มทุน การออกหุ้นกู้หรือตราสารหนี้ต่างๆ ตามแผนปรับโครงสร้างการเงิน จะมีการจัดหาแหล่งเงินที่เหมาะสมในวงเงิน 10,000-20,000 ล้านบาท เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายให้การบินไทยมีการปรับโครงสร้างทางการเงินให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ คณะกรรมการการบินไทยยังอนุมัติดัชนีชี้วัดการทำงานของผู้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เบื้องต้นได้มีการกำหนดกรอบรายได้ก่อนหักภาษีของการบินไทย (อีบิด้า) อยู่ที่วงเงิน 33,000 ล้านบาท ซึ่งดัชนีชี้วัดดังกล่าวจะนำมาพิจารณาตามกรอบ 5 ข้อ ซึ่งจะมีการปรับโครงสร้างองค์กร ปรับปรุงยุทธศาสตร์ ปรับโครงสร้างทางการเงิน ที่คณะกรรมการได้กำหนดกรอบแนวทางให้นายปิยสวัสดิ์ ดำเนินการก่อนหน้านี้
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมยังได้มีการเสนอชื่อนายประวิช รัตนเพียร อดีต รมว.กระทรวงวิทยาศาสตร์ เป็นคณะกรรมการแทนนายวัลลภ พุกกะณะสุต ที่ลาออกไป
ส่วนกระแสคัดค้านการยกเลิก 3 เส้นทางบินของการบินไทย คือ กรุงเทพฯ-พิษณุโลก กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี และเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน โดยให้สายการบินนกแอร์ที่การบินไทยถือหุ้นเข้ามาบินทดแทน ซึ่งขณะนี้ได้รับการต่อต้านทั้งหอการค้าและนักการเมืองในพื้นที่นั้น นายอำพน ระบุว่า คณะกรรมการได้มีการพูดคุยและสั่งการให้ฝ่ายบริหารจัดทำแผนรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น การบันทึกจำนวนผู้โดยสารแต่ละวันของสัปดาห์ เนื่องจากมีการโต้แย้งเส้นทางดังกล่าวมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งจะสามารถพิจารณาได้ว่าแต่ละวันมีผู้โดยสารมากน้อยเพียงใด รวมถึงการศึกษาต้นทุนเชิงเปรียบเทียบว่าเส้นทางเหล่านี้ส่งผลให้การบินไทยมีผลขาดทุนอย่างไร โดยจะมีการเสนอข้อมูลทั้งหมดให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลเสนอไปแล้วว่า การดำเนินการทั้ง 3 เส้นทางขาดทุน แต่รัฐบาลยังอยากให้การบินไทยดำเนินการเส้นทางบินเส้นทางดังกล่าว รัฐบาลสามารถไปพิจารณาว่าจะมีการจ่ายเงินอุดหนุนชดเชยลักษณะเงินอุดหนุนบริการให้แก่สาธารณะด้วยหรือไม่ ซึ่งระหว่างนี้ที่คณะรัฐมนตรียังไม่มีมติเปลี่ยนแปลงการบินไทยจะมีแผนยกเลิก 3 เส้นทางบินดังกล่าวที่ได้ประกาศไว้แล้วว่าจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2552 เป็นต้นไป