นายกฯ คาดใช้เวลาครึ่งปี แก้ปัญหามาบตาพุดทั้งหมด มั่นใจ GDP ปี 53 โตได้ 3.5% "ปูนใหญ่" เผยความคืบหน้า 18 โครงการ ยื่นศาลฯ ไปแล้ว 5 โครงการ และกำลังพิจารณาที่เหลือภายใน 6 เดือน ด้านผู้บริหาร ปตท. โวยผลกระทบ 18 โครงการ ต้องล่าช้าไปอีก 6 เดือน คาดหวังแก้ กม. โครงการที่เหลือเดินหน้าได้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนา "กรีนจีดีพี อนาคตประเทศไทย" โดยกล่าวถึงบทเรียนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาเพื่อเยียวยาทั้งสังคมและการลงทุน พร้อมคาดว่า อาจต้องใช้เวลานานถึงครึ่งปีในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้มีความชัดเจนทั้งหมด หลังจากรัฐบาลได้ผลักดันให้มีการออกกติกา และพยายามแก้ปัญหาต่างๆ มาโดยตลอด
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2553 ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะโตในระดับ 3.5% ถือว่า มีความเป็นไปได้ เพราะจากปีก่อนที่ติดลบในระดับ 3% ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวในปี 2552 ที่ผ่านมา มีมากกว่า 14 ล้านคน โดยเฉพาะในเดือน ธันวาคม 2552 เพียงเดือนเดียว มีนักท่องเที่ยวเข้ามากว่า 1.6 ล้านคน
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้ยื่นต่อศาลปกครองเพื่อขอผ่อนผันให้โครงการลงทุนของบริษัทในพื้นที่มาบตาพุด 5 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม 10,000 ล้านบาท สามารถเดินหน้าต่อไปได้ จากโครงการทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบบ 18 โครงการ
สำหรับ 5 โครงการที่ยื่นไปนั้น 4 โครงการเป็นโครงการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ส่วนอีก 1 โครงการเป็นโครงการที่ได้รับความเห็นชอบรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ก่อนบังคับใช้รัฐธรรมนูญปี 2550
นายกานต์ กล่าวว่า ส่วนที่เหลือ 13 โครงการ บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดก่อนยื่นอุทธรณ์ โดยคาดว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการถูกระงับโครงการในมาบตาพุด คาดว่าน่าจะใช้เวลา 6 เดือน ซึ่งเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีคาดการณ์ไว้ และที่ผ่านมารัฐบาลได้เร่งดำเนินการแก้ปัญหา มีการตั้งคณะทำงาน 4 ฝ่ายที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน จึงเชื่อว่าปัญหาน่าจะคลี่คลายได้เร็ว
กรรมการผู้จัดการ SCC กล่าวยอมรับว่า การที่โครงการลงทุนในมาบตาพุดของบริษัทถูกระงับการลงทุน จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทใน 2553 แต่ยังเชื่อว่ารายได้และกำไรของบริษัทในปี 2553 จะดีกว่าปี 2552
ด้านนายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี 25 โครงการถูกระงับ โดยระบุว่า ผลกระทบจากปัญหามาบตาพุดทำให้โครงการต่างๆ ต้องล่าช้าออกไป 6 เดือน ถึง 1 ปี ซึ่งภาครัฐบาลได้มีการเร่งออกกฎเกณฑ์แนวทางด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งน่าจะช่วยให้โครงการต่างๆ เดินหน้าต่อไปได้
นายประเสริฐ กล่วว่า ผลจากปัญหามาบตาพุดที่ทำให้ 18 โครงการของบริษัทในกลุ่ม ปตท. หยุดชะงักไป ขณะนี้บริษัทได้ดำเนินการยื่นอุทธรณ์แล้ว 6 โครงการ และเตรียมจะยื่นอีก 3 โครงกรภายในเดือน มกราคม 2553 นี้ ส่วนที่เหลือ 9 โครงการอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดว่าจะได้รับข้อยกเว้นหรือไม่ ซึ่งคำสั่งศาลปกครองให้ระงับโครงการลงทุนของ ปตท.ทั้งหมด 25 โครงการ