ทรูวิชั่นส์ จัดระเบียบเรียงช่องใหม่ เพิ่มสลอต ช่องสู่ 200 ช่อง เผยปีนี้เตรียมผุดช่องคืนกำไรสู่ผู้ชมแน่ 8 ช่อง พร้อมลุยแพกเกจขายโฆษณาเน้นเผยแพร่ในรูปแบบคอรปอเรทเป็นหลัก ล่าสุดผนึก “ฟินิกซ์ ทีวี” ทีวีจากจีน ขยายธุรกิจร่วมกัน หวังผู้ชมได้ประโยชน์สูงสุด
นายธิติฎฐ์ นันทพัฒน์สิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของทรูวิชั่นส์ในปีนี้ ยังพร้อมเดินหน้าในการนำเสนอสิ่งที่ดีสู่สมาชิกที่รับชมทรูวิชั่นส์ จำนวนกว่า 1.7 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ ซึ่งในปีนี้ ตามแผนการดำเนินงาน ได้เตรียมที่จะเปิดตัวช่องรายการใหม่อีกจำนวน 8 ช่อง โดย 3 ใน 8 ช่องนี้ จะเป็นโควต้าของทาง อสมท ที่ทางทรูวิชั่นส์ได้มอบให้ จากกรณีสัญญาสัมปทานเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งรายละเอียดยังไม่ทราบว่า ทางอสมท จะนำเสนอรายการออกมาเป็นรูปแบบใดบ้าง ส่วนอีก 5 ช่องที่ทรูวิชั่นส์ จะนำเสนอนั้นมีทั้งรูปแบบที่ผลิตเอง และให้ผู้จัดรายอื่นเข้ามาทำ แต่ทั้งนี้จะเน้นไปในรูปแบบของการเปิดโอกาสให้ผู้จัดรายการที่มีคุณภาพเข้ามาทำ มากกว่าที่จะผลิตเอง
ส่วนในเรื่องของการขายโฆษณา ที่ทางทรูวิชั่นส์ สามารถโฆษณาได้แล้วนั้น ขณะนี้กำลังเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ซึ่งเริ่มเห็นโฆษณาในหลายๆช่องทางทรูวิชั่นส์ไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องของโฆษณานี้ ทางทรูวิชั่นส์ สามารถทำได้ทุกช่อง ซึ่งปัจจุบันทรูวิชั่นส์มีทั้งหมด 110 ช่อง ทั้งรายการในประเทศที่ผลิตเอง และการซื้อลิขสิทธิ์มานำเสนอ แต่เบื้องต้นได้วางนโยบายจำนวนช่องที่จะมีโฆษณาได้ที่ 25 ช่อง และเริ่มจากช่องที่ทางทรูวิชั่นส์เป็นผู้ผลิตเองก่อน
โดยในส่วนนโยบายของการโฆษณาในทรูวิชั่นส์นี้ จะยึดเอาฐานสมาชิกเป็นสำคัญ โดยจะต้องไม่ทำให้สมาชิกเกิดความรำคาญใจกับโฆษณาที่ปรากฏขึ้น ดังนั้นรูปแบบโฆษณาที่ได้เห็นในทรูวิชั่นส์ จะเป็นลักษณะของโฆษณาแบบคอร์ปอเรทเป็นหลัก โดยอัตราการลงโฆษณาจะอยู่ที่นาทีละ 3-3.5 หมื่นบาท ซึ่งทางทรูวิชั่นส์ สามารถโฆษณาได้ไม่เกิน 6 นาทีต่อชม.เชื่อว่าในสิ้นปีนี้ จะได้เห็นรายได้ที่มาจากโฆษณาที่ 5% เทียบกับรายได้รวมทั้งหมด
นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายคอมเมอร์เชียล บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามปีนี้ ทางทรูวิชั่นส์ยังมีแผนในการจัดเรียงช่องใหม่ด้วย ซึ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา จากเดิมที่ทรูวิชั่นส์มีจำนวนช่องรองรับรายการต่างๆได้ที่ 110 ช่อง ได้ขยายสลอตช่องไว้ถึง 200 ช่อง พร้อมทั้งมีการจัดเรียงหมวดหมู่รายการต่างๆใหม่ด้วย เริ่มจากช่องฟรีทีวีทั้งหมดก่อน และต่อด้วย ช่องรายการเกี่ยวกับสารคดี ที่จะเริ่มจาก ช่องที่ 15-30 ช่อง
ปัจจุบันทรูวิชั่นส์มีช่องสารคดีที่เปิดให้รับชมอยู่ 9 ช่อง คือช่องที่ 15-23 ดังนั้นจึงมีช่องเหลืออยู่อีก 7 ช่องในการที่จะนำเสนอช่องสารคดีมาลงได้อีก และต่อจากช่องสารคดีจะตามมาด้วยช่องที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน นั่นคือ การ์ตูน ซึ่งจะเริ่มที่ช่อง 31-40 โดยปัจจุบันออกอากาศเพียง5ช่อง คือช่อง 31-35 ตามมาด้วยภาพยนตร์ ข่าว วาไรตี้ อื่นๆ และปิดท้ายด้วยรายการกีฬา
“เดิมทรูวิชั่นส์มีการจัดเรียงช่องเป็นหมวดหมู่อยู่แล้ว และการปรับครั้งนี้เพื่อต้องการให้เด็กและเยาวชนได้รับชมรายการก่อน ซึ่งเป็นเหตุผลที่สำคัญที่มาพร้อมกับนโยบายของการเพิ่มสลอตช่องจาก 110ไปสู่ 200 ช่อง”
อย่างไรก็ตามปีนี้ทางทรูวิชั่นส์ ยังได้มีการปรับแพกเกจการรับชมเพิ่มขึ้นไปอีก 1 ระดับให้แก่สมาชิกแบบอัตโนมัติด้วย เช่น จากแพกเกจทรูโนวเลจ เป็น ทรู ซิลเวอร์, และจากทรูซิลเวอร์ เป็น ทรูโกลด์ และจากทรูโกลด์ เป็น ทรูแพลททินัม ส่วนแพลททินัมก็จะได้รับชมช่องเพิ่มขึ้น ถือเป็นของขวัญมอบให้กับสมาชิกที่รับชมทรูวิชั่นส์ทุกคน โดยราคายังคงอัตราเดิม
**จับมือ ฟินิกซ์ ทีวี ขยายธุรกิจร่วมกัน**
ล่าสุดทางบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของทรูวิชั่นส์ ได้เซ็นสัญญาร่วมกับทางกลุ่มฟีนิกซ์ ทีวี ผู้ผลิตสื่อชั้นนำจากประเทศจีน ในการขยายธุรกิจร่วมกันแบบไร้พรมแดน ในการผลิตคอนเท้นท์ที่หลากหลายทั้งด้านเนื้อหาสาระเทคโนโลยี ความรู้ วัฒนธรรม ตลอดจนอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยเบื้องต้นได้นำเสนอช่องรายการข่าว Phoenix Info News ที่ช่อง 95 ในระบบดิจิตอลทางทรูวิชั่นส์ ซึ่งออกอากาศมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2552 เป็นต้นมา โดยในอนาคต ความร่วมมือในการนำคอนเท้นท์รายการจากไทยไปนำเสนอผ่านช่องรายการของทางฟีนิกซ์ ทีวี ซึ่งเผยแพร่ไปกว่า 150 ประเทศ สำหรับคนจีนและคนเอเชียทั่วโลก จะมีมากยิ่งขึ้น รวมถึงอาจจะมีการร่วมมือกันผลิตคอนเท้นท์ร่วมกันต่อไป
นายธิติฎฐ์ นันทพัฒน์สิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของทรูวิชั่นส์ในปีนี้ ยังพร้อมเดินหน้าในการนำเสนอสิ่งที่ดีสู่สมาชิกที่รับชมทรูวิชั่นส์ จำนวนกว่า 1.7 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ ซึ่งในปีนี้ ตามแผนการดำเนินงาน ได้เตรียมที่จะเปิดตัวช่องรายการใหม่อีกจำนวน 8 ช่อง โดย 3 ใน 8 ช่องนี้ จะเป็นโควต้าของทาง อสมท ที่ทางทรูวิชั่นส์ได้มอบให้ จากกรณีสัญญาสัมปทานเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งรายละเอียดยังไม่ทราบว่า ทางอสมท จะนำเสนอรายการออกมาเป็นรูปแบบใดบ้าง ส่วนอีก 5 ช่องที่ทรูวิชั่นส์ จะนำเสนอนั้นมีทั้งรูปแบบที่ผลิตเอง และให้ผู้จัดรายอื่นเข้ามาทำ แต่ทั้งนี้จะเน้นไปในรูปแบบของการเปิดโอกาสให้ผู้จัดรายการที่มีคุณภาพเข้ามาทำ มากกว่าที่จะผลิตเอง
ส่วนในเรื่องของการขายโฆษณา ที่ทางทรูวิชั่นส์ สามารถโฆษณาได้แล้วนั้น ขณะนี้กำลังเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ซึ่งเริ่มเห็นโฆษณาในหลายๆช่องทางทรูวิชั่นส์ไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องของโฆษณานี้ ทางทรูวิชั่นส์ สามารถทำได้ทุกช่อง ซึ่งปัจจุบันทรูวิชั่นส์มีทั้งหมด 110 ช่อง ทั้งรายการในประเทศที่ผลิตเอง และการซื้อลิขสิทธิ์มานำเสนอ แต่เบื้องต้นได้วางนโยบายจำนวนช่องที่จะมีโฆษณาได้ที่ 25 ช่อง และเริ่มจากช่องที่ทางทรูวิชั่นส์เป็นผู้ผลิตเองก่อน
โดยในส่วนนโยบายของการโฆษณาในทรูวิชั่นส์นี้ จะยึดเอาฐานสมาชิกเป็นสำคัญ โดยจะต้องไม่ทำให้สมาชิกเกิดความรำคาญใจกับโฆษณาที่ปรากฏขึ้น ดังนั้นรูปแบบโฆษณาที่ได้เห็นในทรูวิชั่นส์ จะเป็นลักษณะของโฆษณาแบบคอร์ปอเรทเป็นหลัก โดยอัตราการลงโฆษณาจะอยู่ที่นาทีละ 3-3.5 หมื่นบาท ซึ่งทางทรูวิชั่นส์ สามารถโฆษณาได้ไม่เกิน 6 นาทีต่อชม.เชื่อว่าในสิ้นปีนี้ จะได้เห็นรายได้ที่มาจากโฆษณาที่ 5% เทียบกับรายได้รวมทั้งหมด
นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายคอมเมอร์เชียล บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามปีนี้ ทางทรูวิชั่นส์ยังมีแผนในการจัดเรียงช่องใหม่ด้วย ซึ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา จากเดิมที่ทรูวิชั่นส์มีจำนวนช่องรองรับรายการต่างๆได้ที่ 110 ช่อง ได้ขยายสลอตช่องไว้ถึง 200 ช่อง พร้อมทั้งมีการจัดเรียงหมวดหมู่รายการต่างๆใหม่ด้วย เริ่มจากช่องฟรีทีวีทั้งหมดก่อน และต่อด้วย ช่องรายการเกี่ยวกับสารคดี ที่จะเริ่มจาก ช่องที่ 15-30 ช่อง
ปัจจุบันทรูวิชั่นส์มีช่องสารคดีที่เปิดให้รับชมอยู่ 9 ช่อง คือช่องที่ 15-23 ดังนั้นจึงมีช่องเหลืออยู่อีก 7 ช่องในการที่จะนำเสนอช่องสารคดีมาลงได้อีก และต่อจากช่องสารคดีจะตามมาด้วยช่องที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน นั่นคือ การ์ตูน ซึ่งจะเริ่มที่ช่อง 31-40 โดยปัจจุบันออกอากาศเพียง5ช่อง คือช่อง 31-35 ตามมาด้วยภาพยนตร์ ข่าว วาไรตี้ อื่นๆ และปิดท้ายด้วยรายการกีฬา
“เดิมทรูวิชั่นส์มีการจัดเรียงช่องเป็นหมวดหมู่อยู่แล้ว และการปรับครั้งนี้เพื่อต้องการให้เด็กและเยาวชนได้รับชมรายการก่อน ซึ่งเป็นเหตุผลที่สำคัญที่มาพร้อมกับนโยบายของการเพิ่มสลอตช่องจาก 110ไปสู่ 200 ช่อง”
อย่างไรก็ตามปีนี้ทางทรูวิชั่นส์ ยังได้มีการปรับแพกเกจการรับชมเพิ่มขึ้นไปอีก 1 ระดับให้แก่สมาชิกแบบอัตโนมัติด้วย เช่น จากแพกเกจทรูโนวเลจ เป็น ทรู ซิลเวอร์, และจากทรูซิลเวอร์ เป็น ทรูโกลด์ และจากทรูโกลด์ เป็น ทรูแพลททินัม ส่วนแพลททินัมก็จะได้รับชมช่องเพิ่มขึ้น ถือเป็นของขวัญมอบให้กับสมาชิกที่รับชมทรูวิชั่นส์ทุกคน โดยราคายังคงอัตราเดิม
**จับมือ ฟินิกซ์ ทีวี ขยายธุรกิจร่วมกัน**
ล่าสุดทางบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของทรูวิชั่นส์ ได้เซ็นสัญญาร่วมกับทางกลุ่มฟีนิกซ์ ทีวี ผู้ผลิตสื่อชั้นนำจากประเทศจีน ในการขยายธุรกิจร่วมกันแบบไร้พรมแดน ในการผลิตคอนเท้นท์ที่หลากหลายทั้งด้านเนื้อหาสาระเทคโนโลยี ความรู้ วัฒนธรรม ตลอดจนอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยเบื้องต้นได้นำเสนอช่องรายการข่าว Phoenix Info News ที่ช่อง 95 ในระบบดิจิตอลทางทรูวิชั่นส์ ซึ่งออกอากาศมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2552 เป็นต้นมา โดยในอนาคต ความร่วมมือในการนำคอนเท้นท์รายการจากไทยไปนำเสนอผ่านช่องรายการของทางฟีนิกซ์ ทีวี ซึ่งเผยแพร่ไปกว่า 150 ประเทศ สำหรับคนจีนและคนเอเชียทั่วโลก จะมีมากยิ่งขึ้น รวมถึงอาจจะมีการร่วมมือกันผลิตคอนเท้นท์ร่วมกันต่อไป
