xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.ชี้ "กรณ์" ได้ตำแหน่ง รมต.คลังโลก เพิ่มความเชื่อมั่นลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปชป.เชื่อเดอะแบงก์เกอร์ยกย่อง "กรณ์" รมต.คลังดีเด่นโลกปี 2010 เพิ่มความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติ ตอกย้ำนโยบาย ศก.ไทยเดินมาถูกทาง พร้อมยืนยันนโยบายเชิงรุกหนุน "จีดีพี" ปี 53 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 3.7%

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดแถลงข่าวกรณีนิตยสาร The Banker ในกลุ่ม Financial Times คัดเลือกให้นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นรัฐมนตรีคลังดีเด่นของโลก ปี ค.ศ.2010 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเชียแห่งปี 2010 โดยระบุว่า เป็นส่วนสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อต่างชาติ เป็นการยืนยันว่า การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง

นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า รายงานฉบับดังกล่าวยืนยันว่า นโยบายที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ คือ โครงการเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท โครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และมาตรการลดค่าครองชีพ ซึ่งมาจากแผนปฏิบัติการ 99 วันทำได้จริง จากวาระประชาชนของพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งนโยบายเสริมสร้างความเข้มแข็งภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ทั้งยังเป็นการยืนยันว่า การประมาณการทางเศรษฐกิจในปี 2553 จะเป็นบวก จากที่ติดลบในปีที่ผ่านมา ร้อยละ 3.5 โดยคาดว่าจะบวกอย่างน้อยร้อยละ 3.7 ขึ้นไป

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า การทำงานของรัฐบาลในปีที่ 2 จะมีปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ ความวุ่นวายทางการเมืองที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและความเชื่อถือของนักลงทุนได้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ามาตรการด้านการเกษตร ทั้งเรื่องโครงการประกันราคาพืชผลและโครงการประกันรายได้ จะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรว่าจะไม่ประสบกับภาวะขาดทุน

ขณะเดียวกัน รัฐบาลและนายกรณ์ยืนยันถึงภารกิจ 5 เรื่องที่จะผลักดันนโยบายเศรษฐกิจในปีนี้ ทั้งการปฏิรูปโครงสร้างภาษีเพื่อสร้างความเป็นธรรม โดยเฉพาะภาษีทรัพย์สิน การสร้างหลักประกันให้แรงงานนอกระบบ 20 ล้านคนภายใต้โครงการการออมเงินแห่งชาติของโครงการกองทุนการออมแห่งชาติ การจัดระบบสินเชื่อรายย่อยให้ผู้ประกอบการและกลุ่มรากหญ้าสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ ประกอบกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ การลดต้นทุนภาคธุรกิจ การขนส่งและพลังงานจากร้อยละ 20 ให้เหลือไม่เกินร้อยละ 15 ของต้นทุนการประกอบการ การปรับปรุงระบบการเบิกจ่ายภาครัฐตลอดจนการใช้งบประมาณโครงการไทยเข้มแข็งให้รัดกุม ไม่มีช่องทางรั่วไหล ให้เกิดการทุจริต
กำลังโหลดความคิดเห็น