ปชป.หนุน “มาร์ค” ทบทวนหวยออนไลน์ ห่วงผลเสียทางสังคม

ทีมโฆษก ปชป.ตั้งโต๊ะแถลงหนุนนายกทบทวนหวยออนไลน์ เหตุมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจน้อยกว่าผลกระทบทางสังคม พร้อมแจงงานวิจัย เกิดผลเสีย 3 ด้าน แนะรัฐบาลควบคุมสัดส่วนการตลาด ปราบมาเฟียหวยใต้ดิน แก้ปัญหาสลากราคาเกิน

วันนี้ (4 ม.ค.) นายแพทย์บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอสนับสนุนแนวทางของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในการที่จะทบทวนโครงการหวยออนไลน์ ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลก่อนหน้านี้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะแกนนำนั้น ให้ความสำคัญกับการผลักดันประเทศให้เศรษฐกิจมีคุณภาพ และให้สังคมรักษาคุณธรรมควบคู่กันไปด้วย แต่ว่ารายได้ที่เกิดขึ้นจากการขยายระบบสลากกินแบ่งแบบเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ไปสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ร้านสะดวกซื้อนั้น จะเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นจากการถ่ายเทค่าใช้จ่ายมาจากครัวเรือนที่เข้าสู่การบริโภคหวยออนไลน์เพิ่มจากเดิม ซึ่งมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจน้อยกว่าผลกระทบทางสังคมอย่างน้อย 3 ด้าน

1. การศึกษาวิจัยในหลายประเทศยืนยันว่าระบบหวบออนไลน์ทำให้จำนวนผู้เล่นโดยรวมเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่เดิม และจำนวนผู้เล่นที่เพิ่มขึ้นนั้น เกิดจาก 2 กลุ่มใหญ่เป็นสำคัญ กล่าวคือ 1.กลุ่มเยาวชน ที่เดิมอาจจะไม่ได้บริโภคหวยใต้ดิน แต่เมื่อมาสู่สถานที่ใกล้เคียงกับแหล่งที่อยู่อาศัย และสถานศึกษา ก็สามารถมีความสะดวกในการมีค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้เพิ่มขึ้น ครัวเรือนที่ฐานะยากจน จากการศึกษาวิจัยพบสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจากเยาวชน และครอบครัวยากจนเป็นสำคัญ

2.ผลกระทบต่อหนี้สินทั้งใน และนอกระบบ หนี้สินในระบบเกิดจากการแบ่งรายได้มาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสลากออนไลน์ และหลายส่วนยังมีการผูกโยงกับหนี้สินนอกระบบอยู่ เพราะฉะนั้นกลุ่มเหล่านี้ก็ทำให้เกิดภาวะหนี้สินกลุ่มใหม่เกิดขึ้น เรือนกล่าวคือหนี้ใหม่ในกลุ่มเยาวชน และหนี้ใหม่ในครัวเรือนที่ยากจน

3.จากการศึกษาวิจัยพบว่ามีผลกระทบในชุมชน ที่มีระบบหวยออนน์ในร้านสะดวกซื้อนั้น มีผลกระทบต่ออัตราการออมเงิน ทั้งในระดับครัวเรือน ชุมชน และส่งผลกระบต่อระบบเงินออมในระบบเศรษบกิจมหภาคด้วย ในการศึกษาวิจัยพบว่าจะทำให้สัดส่วนเงินออมลดลงกว่า 20% โดยเฉลี่ย

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ในขณะเดียวกันที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้ว่าระบบหวยออนไลน์จะแก้ไขปัญหาหวยใต้ดิน และปัญหาสลากกินแบ่งเกินราคา พรรคมองว่าเรื่องนี้นั้นถือว่าเป็นปัญหาจริง และรัฐบาลต้องมุ่งแก้ปัญหานี้ต่างหากในเรื่องของการควบคุมระบบการส่งต่อสัดส่วนสลาก เพื่อไม่ให้เกิดความสมดุลระหว่างอุปสงค์กับอุปทาน ส่วนเรื่องหวยใต้ดินต้องใช้มาตราการในการปราบปราม ไม่ให้ผู้มีอิทธิพลมาแสวงหาประโยชน์โดยใช้ระบบเศรษฐกิจใต้ดิน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหวยใต้ดิน

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ได้วางกรอบเวลาเพื่อศึกษาในเรื่องนี้ถือว่าเป็นแนวทางที่ถูกต้องจากเหตุที่คำนึงถึงความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ต่อภาระผูกพันตามสัญญาที่มีมาในอดีต แนวทางที่มีกรอบเวลาศึกษาก็มุ่งเน้น 2 เรื่อง 1.การหาทางออกร่วมกันระหว่างคู่สัญญา คือ ระหว่างบริษัทเอกชน บริษัทร่วมทุนต่างประเทศ กับ รัฐบาลโดยสำนักงานสลากกินแบ่ง ว่าจะหาทางออกร่วมกันเพื่อไม่ให้มีผลกระทบทางด้านกฎหมายอย่างไรบ้าง มาเป็นทางเลือกเพื่อให้รัฐบาลใช้ในการตัดสินใจ

2.ผลกระทบต่อนักลงทุนรายย่อย คือผู้ค้าที่มีการติดตั้งเครื่องไว้แล้ว 6,000 เครื่อง และอยู่ในบัญชีเตรียมติดตั้งอีกประมาณ 59,300 เครื่อง ซึ่งบุคคลเหล่านี้ถือว่าเป็นนักลงทุนรายย่อยที่รัฐบาลตระหนักดีว่ามีภาวะผูกพันทางด้านการเงินจากการที่ไปลงทุนเพื่อเตรียมจะจำหน่ายสลากส่วนนี้ก็จะต้องได้รับการดูแลเยียวยาไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจบนพื้นฐานของความสุจริตในการร่วมโครงการ ในขณะที่แนวทางในเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ก็มีแนวทางแตกต่างกันในรัฐบาลก่อนหน้านี้