“ซาเล้ง”เพ้อผลงาน1 ปี ดีเยี่ยมทุกเรื่อง ภูมิใจให้คะแนนเต็ม 10 ประกาศ 54 ปีแห่งความปลอดภัย วัดผลรูปธรรม ทุกหน่วยงาน ขณะที่รฟม. จ่อลงนามสัญญา 2 ก่อสร้างสีม่วง29 ธ.ค.นี้ หลังอัยการส่งผลตรวจร่างสัญญา
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ผลงาน 1 ปีที่ผ่านมา จากที่ได้เข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2551 ประสบความสำเร็จ พอใจในทุกเรื่อง ทั้งการคมนาคมทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศได้มีการแก้ปัญหา ฟื้นฟูวิกฤติที่มีได้ตามนโยบาย โดยเฉพาะเรื่องมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชน ได้สานต่อ 6 มาตรการ 6 เดือน ขยายเวลา รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี ดำเนินงานด้านโครงสร้างพื้นฐานภายใต้งบไทยเข้มแข็ง โครงการถนนไร้ฝุ่นวงเงินก่อสร้าง 15,032 ล้านบาท ระยะทาง 7,213 กิโลเมตร จ้างงาน 75,425 คนต่อปี โดยขณะนี้มีการเริ่มลงนามสัญญาว่าจ้างเป็นที่เรียบร้อย โครงการบำรุงรักษาทางหลวงสายหลัก วงเงิน 14,034 ล้านบาท จ้างงาน 162,121 คนต่อปี ,ส่วน การพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ทั้งโครงการรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (แอร์พอร์ตลิงค์ ) ซึ่งเปิดทดสอบระบบไปเมื่อ 4 ธ.ค.52 ได้แล้ว โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง สายสีม่วงคาดว่าจะลงนามก่อสร้างอีก 2 สัญญาได้ในปี52 นี้ ส่วนสายเขียว และสายสีน้ำเงิน ก็เป็นไปตามนโยบาย โครงการเช่ารถโดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV)จำนวน 4 พันคัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดโครงการของคณะกรรมการ อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวได้มีการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2552 เพื่อความโปร่งใสจึงมีการพิจารณาเพื่อเกิดการรอบครอบอีกครั้ง
นายโสภณกล่าวว่า กรณีปัญหารถไฟนั้น แม้จะมีอุบัติเหตุ และวิกฤติต่างๆ แต่ไม่ถือว่าเป็นความล้มเหลวแต่เป็นโอกาสที่ทำให้สามารถปรับปรุงพัฒนาองค์กรจนได้รับอนุมัติงบ แสนล้านบาทมาดำเนินการเรื่องรถไฟทางคู่ จัดหาหัวรถจักรและระบบอาณัติสัญญา และทำให้สามารถเริ่มต้นนับ 1 ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรางได้
ส่วนการคมนาคมทางอากาศ ถือว่าประสบความสำเร็จเช่นกันที่สามารถเรียกความเชื่อมั่นให้ผู้โดยสารกลับมาท่องเที่ยวและเดินทางมายังสนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างรวดเร็วหลังจากที่มีปัญหาการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) สามารถพลิกจากที่ประสบผลขาดทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาทในปี 2551 กลับมาเป็นไม่ขาดทุนได้ในปี 2552
ซึ่งเป็นผลจากการตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูฯ และยกเลิกการให้บริการที่สนามบินดอนเมืองของการบินไทย ตามมาตรการลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้ อย่างไรก็ตามในปี 2553 รัฐบาลได้ประกาศเป็นเรื่องความปลอดภัย เป็นวาระแห่งชาติซึ่งกระทรวงคมนาคมได้กำหนดให้เป็นปีแห่งความปลอดภัยในการขนส่งและจราจร โดยจะวัดผล 1 ทุกหน่วยงาน1 ผลงาน ที่เป็นรูปธรรม ใน 2 ประเด็น คือลดอุบัติเหตุจากการเดินทางและการอำนวยความสะดวกด้วยการเพิ่มโครงสร้างพื้นฐาน การเสริมสร้างวินัย เป็นต้น
**เตรียมเซ็นสัญญาก่อสร้างสีม่วงเพิ่ม
นายชัยสิทธิ์ คุรุรัตน์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ กล่าวว่า สำนักงานอัยการสูงสุดได้ตอบกลับผลการตรวจร่างสัญญาที่ 2 โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ มายัง รฟม.อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่24ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยหลังปรับแก้สัญญาตามคำแนะนำของอัยการสูงสุดแล้ว คาดว่าจะลงนามใน 2 สัญญาบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ได้ ในวันที่ 29 ธ.ค.52
ส่วนสัญญาที่ 3 ยังไม่ตอบกลับมา แต่ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากกระแสข่าวที่บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE หนึ่งในกลุ่มผู้รับงานสัญญาที่ 3 มี ปัญหาทางการเงิน
รายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 28 ธ.ค.นี้ รฟม.จะลงนามในสัญญาจ้างกลุ่ม AEC เป็นที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ วงเงิน 1,205.28 ล้านบาท และคณะกรรมการรฟม.ที่มีนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานจะมีการประชุม เพื่อพิจารณารายละเอียดการจัดทำเอกสารประกวดราคาโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระกับหัวลำโพง-บางแค ซึ่งคาดว่าจะเปิดประกวดราคาได้ในวันที่ 29-30 ธ.ค. 52
สำหรับโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 งานโครงสร้างใต้ดินช่วงหัวลำโพง-สนามไชย วงเงิน 11,649 ล้านบาท , สัญญาที่ 2 งานโครงสร้างใต้ดินช่วงสนามไชย-ท่าพระ วงเงิน 10,818 ล้านบาท ,สัญญาที่ 3 งานโครงสร้างยก ระดับ ช่วงเตาปูน-ท่าพระ วงเงิน 11,395 ล้านบาท ,สัญญาที่ 4 งานโครงสร้างยกระดับช่วงท่าพระ-หลักสอง และงานศูนย์ซ่อมบำรุงกับอาคารจอดรถ วงเงิน 13,429 ล้านบาท ,สัญญาที่ 5 งานระบบราง วงเงิน 5,169 ล้านบาท
นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ผลงาน 1 ปีที่ผ่านมา จากที่ได้เข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2551 ประสบความสำเร็จ พอใจในทุกเรื่อง ทั้งการคมนาคมทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศได้มีการแก้ปัญหา ฟื้นฟูวิกฤติที่มีได้ตามนโยบาย โดยเฉพาะเรื่องมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชน ได้สานต่อ 6 มาตรการ 6 เดือน ขยายเวลา รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี ดำเนินงานด้านโครงสร้างพื้นฐานภายใต้งบไทยเข้มแข็ง โครงการถนนไร้ฝุ่นวงเงินก่อสร้าง 15,032 ล้านบาท ระยะทาง 7,213 กิโลเมตร จ้างงาน 75,425 คนต่อปี โดยขณะนี้มีการเริ่มลงนามสัญญาว่าจ้างเป็นที่เรียบร้อย โครงการบำรุงรักษาทางหลวงสายหลัก วงเงิน 14,034 ล้านบาท จ้างงาน 162,121 คนต่อปี ,ส่วน การพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ทั้งโครงการรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง (แอร์พอร์ตลิงค์ ) ซึ่งเปิดทดสอบระบบไปเมื่อ 4 ธ.ค.52 ได้แล้ว โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง สายสีม่วงคาดว่าจะลงนามก่อสร้างอีก 2 สัญญาได้ในปี52 นี้ ส่วนสายเขียว และสายสีน้ำเงิน ก็เป็นไปตามนโยบาย โครงการเช่ารถโดยสารปรับอากาศใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV)จำนวน 4 พันคัน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดโครงการของคณะกรรมการ อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวได้มีการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ก.ย.2552 เพื่อความโปร่งใสจึงมีการพิจารณาเพื่อเกิดการรอบครอบอีกครั้ง
นายโสภณกล่าวว่า กรณีปัญหารถไฟนั้น แม้จะมีอุบัติเหตุ และวิกฤติต่างๆ แต่ไม่ถือว่าเป็นความล้มเหลวแต่เป็นโอกาสที่ทำให้สามารถปรับปรุงพัฒนาองค์กรจนได้รับอนุมัติงบ แสนล้านบาทมาดำเนินการเรื่องรถไฟทางคู่ จัดหาหัวรถจักรและระบบอาณัติสัญญา และทำให้สามารถเริ่มต้นนับ 1 ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรางได้
ส่วนการคมนาคมทางอากาศ ถือว่าประสบความสำเร็จเช่นกันที่สามารถเรียกความเชื่อมั่นให้ผู้โดยสารกลับมาท่องเที่ยวและเดินทางมายังสนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างรวดเร็วหลังจากที่มีปัญหาการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) สามารถพลิกจากที่ประสบผลขาดทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาทในปี 2551 กลับมาเป็นไม่ขาดทุนได้ในปี 2552
ซึ่งเป็นผลจากการตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูฯ และยกเลิกการให้บริการที่สนามบินดอนเมืองของการบินไทย ตามมาตรการลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้ อย่างไรก็ตามในปี 2553 รัฐบาลได้ประกาศเป็นเรื่องความปลอดภัย เป็นวาระแห่งชาติซึ่งกระทรวงคมนาคมได้กำหนดให้เป็นปีแห่งความปลอดภัยในการขนส่งและจราจร โดยจะวัดผล 1 ทุกหน่วยงาน1 ผลงาน ที่เป็นรูปธรรม ใน 2 ประเด็น คือลดอุบัติเหตุจากการเดินทางและการอำนวยความสะดวกด้วยการเพิ่มโครงสร้างพื้นฐาน การเสริมสร้างวินัย เป็นต้น
**เตรียมเซ็นสัญญาก่อสร้างสีม่วงเพิ่ม
นายชัยสิทธิ์ คุรุรัตน์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ กล่าวว่า สำนักงานอัยการสูงสุดได้ตอบกลับผลการตรวจร่างสัญญาที่ 2 โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ มายัง รฟม.อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่24ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยหลังปรับแก้สัญญาตามคำแนะนำของอัยการสูงสุดแล้ว คาดว่าจะลงนามใน 2 สัญญาบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ได้ ในวันที่ 29 ธ.ค.52
ส่วนสัญญาที่ 3 ยังไม่ตอบกลับมา แต่ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากกระแสข่าวที่บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE หนึ่งในกลุ่มผู้รับงานสัญญาที่ 3 มี ปัญหาทางการเงิน
รายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 28 ธ.ค.นี้ รฟม.จะลงนามในสัญญาจ้างกลุ่ม AEC เป็นที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ วงเงิน 1,205.28 ล้านบาท และคณะกรรมการรฟม.ที่มีนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานจะมีการประชุม เพื่อพิจารณารายละเอียดการจัดทำเอกสารประกวดราคาโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระกับหัวลำโพง-บางแค ซึ่งคาดว่าจะเปิดประกวดราคาได้ในวันที่ 29-30 ธ.ค. 52
สำหรับโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 งานโครงสร้างใต้ดินช่วงหัวลำโพง-สนามไชย วงเงิน 11,649 ล้านบาท , สัญญาที่ 2 งานโครงสร้างใต้ดินช่วงสนามไชย-ท่าพระ วงเงิน 10,818 ล้านบาท ,สัญญาที่ 3 งานโครงสร้างยก ระดับ ช่วงเตาปูน-ท่าพระ วงเงิน 11,395 ล้านบาท ,สัญญาที่ 4 งานโครงสร้างยกระดับช่วงท่าพระ-หลักสอง และงานศูนย์ซ่อมบำรุงกับอาคารจอดรถ วงเงิน 13,429 ล้านบาท ,สัญญาที่ 5 งานระบบราง วงเงิน 5,169 ล้านบาท
