ซีพีเอฟ อัด 150 ล้านบาท สยายปีกธุรกิจแฟรนไชส์ปีเสือ 600 สาขา รับเศรษฐกิจฟื้นตัวเอื้อคนแห่ลงทุนธุรกิจเพิ่ม หลังปีนี้เศรษฐกิจซบรายได้พลาดเป้าโต 5% กวาด 3,600 ล้านบาท ปั้นแฟรนไชส์บะหมี่ห้าดาวปูพรม 50 สาขา ท้าชนชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว เทงบ 130 ล้านบาท ลุยสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ หวังขยายฐานลูกค้าระดับกลาง ปีหน้าโต 12% โกย 4,100 ล้านบาท
นายสถิต สังขนฤบดี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพีเอฟ ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายแฟรนไชส์ในเครือซีพี เปิดเผยว่า ปีหน้านี้แนวทางการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ บริษัทตั้งเป้าขยายเพิ่ม 600 สาขา ภายใต้การใช้งบลงทุน 150 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อรองรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ซึ่งจะมีผู้สนใจเข้าลงทุนดำเนินธุรกิจร้านค้าในรูปแบบแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น หลังจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์เพื่อประกอบธุรกิจ ทำให้รายได้ในสิ้นปีนี้ของบริษัทเติบโต 5% หรือ 3,600 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งเป้าเติบโต 15%
ล่าสุดเปิดตัวแฟรนไชส์บะหมี่ห้าดาว หรือรูปแบบรถโมบายมีโต๊ะบริการ 3-4 ตัว เพื่อให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ จากปัจจุบันแฟรนไชส์ของบริษัทมีด้วยกัน 3 รายการ ประกอบด้วย ไก่ย่างห้าดาว มีด้วยกัน 2,500 สาขา ปีหน้าขยายเพิ่ม 170 สาขา ไก่ทอดห้าดาว จาก 800 สาขา ปีหน้าเพิ่มอีก 260 สาขา ข้าวมันไก่ห้าดาว จาก 100 สาขา เพิ่มอีก 30 สาขาในปีหน้านี้
สำหรับแฟรนไชส์บะหมี่ห้าดาว นำร่องเปิด 50 สาขาในปีหน้านี้ โดยใช้งบลงทุน 2 หมื่นบาท โดยมีรายการบะหมี่ 6 เมนู ได้แก่ หมูแดง ไก่ เกี๊ยวกุ้ง ราคาตั้งแต่ 25-35 บาท คาดว่า 3-4 เดือนคุ้มทุน ล่าสุดได้ทดลองเปิดที่สถานีน้ำมันปตท.บนถนนวิภาวดี ทั้งนี้ในตลาดบะหมี่ทั่วไปริมทางมีแฟรนไชส์หลายรายค่อนข้างมาก เช่น ชายสี่หมี่เกี๊ยว
พร้อมกันนี้ได้ปรับแบรนด์กลุ่มอาหารไฟว์สตาร์ ไรซ์ หรือรูปแบบรถโมบายลักษณะแฟรนไชส์ จำหน่าย 5 เมนู ได้แก่ ข้าวเมนูไก่ กุ้ง ปลา มาเป็นชื่อ”ห้าดาว เรดดี้มีล” และวางแผนขยายสาขาเพิ่ม 40 แห่ง จากปัจจุบัน 12 สาขา
อีกทั้งยังได้ทุ่มงบ 130 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาใช้ 120 ล้านบาท ในการทำตลาดโดยมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์และขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น จากในช่วง7-8 ปีที่ผ่านมา พบว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์ไก่ย่างห้าดาวถูกยกระดับจากระดับล่างมาสู่ระดับกลางเพิ่มขึ้น
สำหรับโมเดลการขยายแฟรนไชส์ บริษัทเน้นกรุงเทพฯ สัดส่วน 60% และต่างจังหวัด 40% แต่หากเป็นแฟรนไชส์ใหม่อาทิ บะหมี่ห้าดาว ในช่วงแรกโฟกัสในกรุงเทพฯ เป็นหลัก ส่วนจุดแข็งธุรกิจแฟรนไชส์ของบริษัทลูกค้าไม่ต้องใช้งบลงทุนสูง เมื่อเทียบกับแฟรนไชส์อื่นๆ ต้องลงทุน 4-5 หมื่นบาท มีการควบคุมคุณภาพสินค้าที่มีมาตรฐานและจากการดำเนินการตลาดเชิงรุกในปีหน้านี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 12% หรือ 4,100 ล้านบาท
นายสถิต สังขนฤบดี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพีเอฟ ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายแฟรนไชส์ในเครือซีพี เปิดเผยว่า ปีหน้านี้แนวทางการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ บริษัทตั้งเป้าขยายเพิ่ม 600 สาขา ภายใต้การใช้งบลงทุน 150 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อรองรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ซึ่งจะมีผู้สนใจเข้าลงทุนดำเนินธุรกิจร้านค้าในรูปแบบแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น หลังจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์เพื่อประกอบธุรกิจ ทำให้รายได้ในสิ้นปีนี้ของบริษัทเติบโต 5% หรือ 3,600 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งเป้าเติบโต 15%
ล่าสุดเปิดตัวแฟรนไชส์บะหมี่ห้าดาว หรือรูปแบบรถโมบายมีโต๊ะบริการ 3-4 ตัว เพื่อให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ จากปัจจุบันแฟรนไชส์ของบริษัทมีด้วยกัน 3 รายการ ประกอบด้วย ไก่ย่างห้าดาว มีด้วยกัน 2,500 สาขา ปีหน้าขยายเพิ่ม 170 สาขา ไก่ทอดห้าดาว จาก 800 สาขา ปีหน้าเพิ่มอีก 260 สาขา ข้าวมันไก่ห้าดาว จาก 100 สาขา เพิ่มอีก 30 สาขาในปีหน้านี้
สำหรับแฟรนไชส์บะหมี่ห้าดาว นำร่องเปิด 50 สาขาในปีหน้านี้ โดยใช้งบลงทุน 2 หมื่นบาท โดยมีรายการบะหมี่ 6 เมนู ได้แก่ หมูแดง ไก่ เกี๊ยวกุ้ง ราคาตั้งแต่ 25-35 บาท คาดว่า 3-4 เดือนคุ้มทุน ล่าสุดได้ทดลองเปิดที่สถานีน้ำมันปตท.บนถนนวิภาวดี ทั้งนี้ในตลาดบะหมี่ทั่วไปริมทางมีแฟรนไชส์หลายรายค่อนข้างมาก เช่น ชายสี่หมี่เกี๊ยว
พร้อมกันนี้ได้ปรับแบรนด์กลุ่มอาหารไฟว์สตาร์ ไรซ์ หรือรูปแบบรถโมบายลักษณะแฟรนไชส์ จำหน่าย 5 เมนู ได้แก่ ข้าวเมนูไก่ กุ้ง ปลา มาเป็นชื่อ”ห้าดาว เรดดี้มีล” และวางแผนขยายสาขาเพิ่ม 40 แห่ง จากปัจจุบัน 12 สาขา
อีกทั้งยังได้ทุ่มงบ 130 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาใช้ 120 ล้านบาท ในการทำตลาดโดยมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์และขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น จากในช่วง7-8 ปีที่ผ่านมา พบว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์ไก่ย่างห้าดาวถูกยกระดับจากระดับล่างมาสู่ระดับกลางเพิ่มขึ้น
สำหรับโมเดลการขยายแฟรนไชส์ บริษัทเน้นกรุงเทพฯ สัดส่วน 60% และต่างจังหวัด 40% แต่หากเป็นแฟรนไชส์ใหม่อาทิ บะหมี่ห้าดาว ในช่วงแรกโฟกัสในกรุงเทพฯ เป็นหลัก ส่วนจุดแข็งธุรกิจแฟรนไชส์ของบริษัทลูกค้าไม่ต้องใช้งบลงทุนสูง เมื่อเทียบกับแฟรนไชส์อื่นๆ ต้องลงทุน 4-5 หมื่นบาท มีการควบคุมคุณภาพสินค้าที่มีมาตรฐานและจากการดำเนินการตลาดเชิงรุกในปีหน้านี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 12% หรือ 4,100 ล้านบาท
