ซีพี เฟรชมาร์ท ชูแผน 5 ปี โละบทบาทอาหารสดแข่งโชวห่วย ลุยอาหารแปรรูปเรือธง ปั้นอาหารพร้อมกิน-ปรุง ทะลวงคนรุ่นใหม่ แตกกลุ่มเบฟเวอเรจเสริมความครบวงจร ลุยน้ำผลไม้ 100% เท 20 ล้านบาท ผุดเครื่องสั่งสินค้าอัตโนมัติ 200 เครื่องบุกคอนโดมิเนียม-ชุมชนทั้งกรุงเทพและภูธร สยายปีกเปิดขายแฟรนไชส์ปี 53 อัดเกือบ 500 ล้านบาท ขยาย 450 สาขา ปีหน้ากวาดรายได้ 5,000 ล้านบาท สิ้นปีนี้ 3,500 ล้านบาท
นายจักร์ชัย นุชประยูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพีเอฟ เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกอาหารสดและผลิตภัณฑ์แปรรูปภายใต้แบรนด์ซีพี เฟรช มาร์ท เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดซีพี เฟรชมาร์ท 5 ปี มุ่งเน้นขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปในเชิงรุกมากขึ้น หลังจากการดำเนินธุรกิจของซีพี เฟรชมาร์ทมากว่า 3 ปี กลุ่มสินค้าเรือธง คือ กลุ่มอาหารสด 90% โดยมีฐานลูกค้าเป็นกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่และพ่อค้าแม่ค้าเป็นหลัก ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป 10% และปัจจุบันได้เพิ่มเป็น 30%
ทั้งนี้บริษัทวางเป้าหมาย 5 ปี ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป มีด้วยกัน 2 ชนิด คือ อาหารพร้อมกินกับอาหารพร้อมปรุงเพิ่มเป็น 50% เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย และขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่และครอบครัวขนาดกลางมากขึ้น โดยบริษัทจะเพิ่มเมนูอาหารต่างประเทศ เช่น อิตาเลี่ยน ญี่ปุ่น จีน เพิ่มจาก 4 เมนู เป็น 10 เมนู จากปัจจุบันเมนูส่วนใหญ่เป็นอาหารไทย ส่วนปีหน้าจะเปิดตัวสินค้าใหม่ 50เมนู
ผู้สื่อข่าวรายงานในช่วงที่ผ่านมา การเปิดตัวซีพี เฟรช มาร์ท สร้างผลกระทบต่อร้านค้าอาหารสดรายย่อย นอกจากนี้ยังเป็นการจำหน่ายสินค้าแข่งขันกับร้านค้าที่รับอาหารสดจากซีพีมาจำหน่ายด้วย ดังนั้นซีพี เฟรชมาร์ท จึงมุ่งเน้นอาหารแปรรูปเพิ่มขึ้นและลดบทบาทกลุ่มอาหารสดเหลือเพียง 30% ในอีก 5 ปีข้างหน้านี้แทน ประกอบกับแนวโน้มตลาดอาหารพร้อมปรุงและพร้อมทาน เป็นตลาดที่มีศักยภาพและเติบโตได้อีกมาก
พร้อมกันนี้ยังแตกโปรดักส์ไลน์กลุ่มเครื่องดื่ม โดยเปิดตัวน้ำผลไม้พาสเจอร์ไรส์ 100% ภายใต้แบรนด์”ซีพี เฟรชมาร์ท” ทยอยเปิดตัว 6 เมนู ในปีหน้านี้ อาทิ น้ำทับทิม น้ำแครอท เป็นต้น นำร่องเดือนธันวาคมส่งน้ำส้มพาสเจอร์ไรส์ 100% วางจำหน่ายร้านซีพี เฟรชมาร์ท บรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ทขนาด 500 มล. ราคา 48 บาท และ1,000 มล.ราคา 88 บาท ทั้งนี้การรุกกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อเสริมไลน์สินค้าภายในร้านให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้ 10% ในอีก 5 ปี ส่วนที่เหลืออีก 10% เป็นนมสด ไอศกรีม ข้าวสาร ฯลฯ
นายจักร์ชัย กล่าวว่า บริษัทวางแผนขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปใหม่ ทุ่มงบ 20 ล้านบาท เปิดตัวเครื่องสั่งสินค้าอัตโนมัติ(Smart Ordering Machine :SOM) จำนวน 200 เครื่องตามคอนโดมิเนียม สถานีรถไฟ หรือย่านชุมชนมี 200 ครัวเรือนอาศัยอยู่ ซึ่งจะเปิดตัวทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองต่างจังหวัด โดยลูกค้าสามารถโทรสั่งซื้อสินค้าทางโทรศัพท์ และเสียค่าบริการจัดส่งสินค้า 30 บาทต่อครั้ง บริการส่งสินค้าภายใน 1 ชั่วโมง
ขณะนี้ได้ทดลองตั้งเครื่องสั่งสินค้าอัตโนมัติที่ตึกซีพี ทาวเวอร์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีลูกค้าโทรสั่งสินค้า 40 ครั้ง สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 20 ครั้ง สำหรับแผนการขยายสาขาในปีหน้านี้บริษัทจะเปิดตัวแฟรนไชส์ จากแผนเดิมวางไว้เปิดตัวไตรมาส 4 ปีนี้ เนื่องจากระบบการกระจายสินค้ายังไม่พร้อม จากปัจจุบันซีพี เฟรชมาร์ท บริษัทจะเป็นผู้ลงทุน 100% มีจำนวน 520 สาขา สิ้นปีเพิ่มเป็น 550 สาขา และปีหน้าขยาย 450 สาขา หรือครบ 1,000 สาขา ภายใต้การใช้งบลงทุนเกือบ 500 ล้านบาท
สำหรับปีหน้าบริษัทใช้งบการตลาด 5% ของยอดขาย โดยผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้า 3,500 ล้านบาท เติบโต 50% ตามเป้าหมาย โดยมีสมาชิก 1 แสนราย กลุ่มลูกค้าประจำ 60% หรือเข้ามาใช้บริการ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และกลุ่มลูกค้าไม่ประจำ 40% เข้ามาใช้บริการ 2 สัปดาห์ต่อครั้ง ส่วนปีหน้าตั้งเป้ามีรายได้ 5,000 ล้านบาท
นายจักร์ชัย นุชประยูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพีเอฟ เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกอาหารสดและผลิตภัณฑ์แปรรูปภายใต้แบรนด์ซีพี เฟรช มาร์ท เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดซีพี เฟรชมาร์ท 5 ปี มุ่งเน้นขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปในเชิงรุกมากขึ้น หลังจากการดำเนินธุรกิจของซีพี เฟรชมาร์ทมากว่า 3 ปี กลุ่มสินค้าเรือธง คือ กลุ่มอาหารสด 90% โดยมีฐานลูกค้าเป็นกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่และพ่อค้าแม่ค้าเป็นหลัก ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป 10% และปัจจุบันได้เพิ่มเป็น 30%
ทั้งนี้บริษัทวางเป้าหมาย 5 ปี ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป มีด้วยกัน 2 ชนิด คือ อาหารพร้อมกินกับอาหารพร้อมปรุงเพิ่มเป็น 50% เพื่อรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย และขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่และครอบครัวขนาดกลางมากขึ้น โดยบริษัทจะเพิ่มเมนูอาหารต่างประเทศ เช่น อิตาเลี่ยน ญี่ปุ่น จีน เพิ่มจาก 4 เมนู เป็น 10 เมนู จากปัจจุบันเมนูส่วนใหญ่เป็นอาหารไทย ส่วนปีหน้าจะเปิดตัวสินค้าใหม่ 50เมนู
ผู้สื่อข่าวรายงานในช่วงที่ผ่านมา การเปิดตัวซีพี เฟรช มาร์ท สร้างผลกระทบต่อร้านค้าอาหารสดรายย่อย นอกจากนี้ยังเป็นการจำหน่ายสินค้าแข่งขันกับร้านค้าที่รับอาหารสดจากซีพีมาจำหน่ายด้วย ดังนั้นซีพี เฟรชมาร์ท จึงมุ่งเน้นอาหารแปรรูปเพิ่มขึ้นและลดบทบาทกลุ่มอาหารสดเหลือเพียง 30% ในอีก 5 ปีข้างหน้านี้แทน ประกอบกับแนวโน้มตลาดอาหารพร้อมปรุงและพร้อมทาน เป็นตลาดที่มีศักยภาพและเติบโตได้อีกมาก
พร้อมกันนี้ยังแตกโปรดักส์ไลน์กลุ่มเครื่องดื่ม โดยเปิดตัวน้ำผลไม้พาสเจอร์ไรส์ 100% ภายใต้แบรนด์”ซีพี เฟรชมาร์ท” ทยอยเปิดตัว 6 เมนู ในปีหน้านี้ อาทิ น้ำทับทิม น้ำแครอท เป็นต้น นำร่องเดือนธันวาคมส่งน้ำส้มพาสเจอร์ไรส์ 100% วางจำหน่ายร้านซีพี เฟรชมาร์ท บรรจุภัณฑ์ขวดเพ็ทขนาด 500 มล. ราคา 48 บาท และ1,000 มล.ราคา 88 บาท ทั้งนี้การรุกกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อเสริมไลน์สินค้าภายในร้านให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งตั้งเป้ามีสัดส่วนรายได้ 10% ในอีก 5 ปี ส่วนที่เหลืออีก 10% เป็นนมสด ไอศกรีม ข้าวสาร ฯลฯ
นายจักร์ชัย กล่าวว่า บริษัทวางแผนขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปใหม่ ทุ่มงบ 20 ล้านบาท เปิดตัวเครื่องสั่งสินค้าอัตโนมัติ(Smart Ordering Machine :SOM) จำนวน 200 เครื่องตามคอนโดมิเนียม สถานีรถไฟ หรือย่านชุมชนมี 200 ครัวเรือนอาศัยอยู่ ซึ่งจะเปิดตัวทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองต่างจังหวัด โดยลูกค้าสามารถโทรสั่งซื้อสินค้าทางโทรศัพท์ และเสียค่าบริการจัดส่งสินค้า 30 บาทต่อครั้ง บริการส่งสินค้าภายใน 1 ชั่วโมง
ขณะนี้ได้ทดลองตั้งเครื่องสั่งสินค้าอัตโนมัติที่ตึกซีพี ทาวเวอร์ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีลูกค้าโทรสั่งสินค้า 40 ครั้ง สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 20 ครั้ง สำหรับแผนการขยายสาขาในปีหน้านี้บริษัทจะเปิดตัวแฟรนไชส์ จากแผนเดิมวางไว้เปิดตัวไตรมาส 4 ปีนี้ เนื่องจากระบบการกระจายสินค้ายังไม่พร้อม จากปัจจุบันซีพี เฟรชมาร์ท บริษัทจะเป็นผู้ลงทุน 100% มีจำนวน 520 สาขา สิ้นปีเพิ่มเป็น 550 สาขา และปีหน้าขยาย 450 สาขา หรือครบ 1,000 สาขา ภายใต้การใช้งบลงทุนเกือบ 500 ล้านบาท
สำหรับปีหน้าบริษัทใช้งบการตลาด 5% ของยอดขาย โดยผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้า 3,500 ล้านบาท เติบโต 50% ตามเป้าหมาย โดยมีสมาชิก 1 แสนราย กลุ่มลูกค้าประจำ 60% หรือเข้ามาใช้บริการ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ และกลุ่มลูกค้าไม่ประจำ 40% เข้ามาใช้บริการ 2 สัปดาห์ต่อครั้ง ส่วนปีหน้าตั้งเป้ามีรายได้ 5,000 ล้านบาท