ฉาวไม่เลิก ลือหึ่ง! คนใกล้ตัว “พรทิวา” หาเงินวิธีใหม่ ยื่นข้อเสนอใครอยากเป็นทูตพาณิชย์ต้องนำเงินค่าขนย้ายที่หลวงต้องจ่ายให้มาแลกตำแหน่ง ปล่อยข่าวมีว่างถึง 40 ตำแหน่ง ใครอยากเป็นมาคุย ทำคนแห่สมัครกว่า 200 ราย แถมมีหลักฐานเด็ดมัด “พรทิวา” โละทิ้งคำสั่งสมัย “สมคิด” แล้วเซ็นคำสั่งใหม่ เขี่ยทิ้งกรรมการนอกคอกตั้งกรรมการใหม่ เน้นอธิบดีที่ตั้งเองกับมือไปคัดเลือกเพื่อเปิดทางสะดวก
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ของสำนักงานในต่างประเทศ ในกระทรวงพาณิชย์ ยังมีความวุ่นวายไม่เลิก โดยล่าสุดได้มีการแจ้งข่าวกับข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ว่าจะมีตำแหน่งทูตพาณิชย์ในต่างประเทศทั้งเบอร์ 1 (ระดับซี 9 และ 8) และเบอร์ 2 (ระดับซี 7 และ 8) ว่างสูงถึง 40 ตำแหน่ง และเปิดโอกาสให้ข้าราชการที่อยากจะไปเป็นยื่นใบสมัครเข้ามาได้ จนล่าสุดมีสมัครเข้ามาแล้วกว่า 200 คน
ทั้งนี้ ในการพิจารณาข้าราชการที่จะไปเป็นทูตพาณิชย์ ได้มีคนใกล้ชิดนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เจรจายื่นข้อเสนอว่าถ้าหากผลักดันจนได้ไปเป็นก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนให้ ซึ่งค่าตอบแทนไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเอง แต่ให้นำเงินที่ได้จากค่าขนย้ายที่หลวงต้องจ่ายให้อยู่เป็นปกติอยู่แล้วจำนวน 5 เท่าของเงินเดือนที่ได้ในต่างประเทศมาให้ ซึ่งสำนักงานในยุโรป สหรัฐฯ หรือประเทศที่พัฒนาแล้ว จะได้ค่าขนย้ายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท แต่สำนักงานไม่ดี หรือใกล้ ค่าขนก็จะน้อยกว่านี้ ทำให้ส่วนใหญ่คนที่อยากจะไปเป็นยอมรับข้อเสนอนี้ แต่ก็มีการเรียกร้องเพิ่มเติม คือ หากเป็นสำนักงานดีๆ หรือประเทศดีๆ ก็ต้องมีออปชันพิเศษเพิ่มเติมให้ด้วย
แหล่งข่าวกล่าวว่า เมื่อมีการกำหนดเงื่อนไขนี้ออกมา คณะกรรมการพัฒนากำลังคนเพื่อกลั่นกรองและคัดเลือกข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ของสำนักงานในต่างประเทศ ในกระทรวงพาณิชย์ ก็มีการประชุมเพื่อพิจารณาจัดวางตัวข้าราชการที่จะไปเป็นทูตพาณิชย์ แต่ก็ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ เพราะกรรมการหลายคนเมื่อพิจารณาคุณสมบัติของบุคคลแล้วไม่เห็นด้วย จึงเลือกบุคคลที่เหมาะสมแทน ทำให้นางพรทิวาต้องยกเลิกคณะกรรมการชุดนี้ และเซ็นคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ที่ 448/2552 เพื่อตั้งกรรมการชุดใหม่เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2552 ที่ผ่านมา โดยยกเลิกคำสั่งเดิมที่ 444/2548 ซึ่งเป็นคำสั่งสมัยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็น รมว.พาณิชย์ และขอให้มีการเก็บเอกสารประกอบการประชุมจากกรรมการคืนทั้งหมด เพื่อทำลายหลักฐาน
ความแตกต่างระหว่างคำสั่งเดิมกับคำสั่งใหม่ ก็คือ องค์ประกอบของคณะกรรมการที่จะเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ โดยคำสั่งเดิมมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน กรรมการประกอบด้วย อธิบดีทุกกรมในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ 6 กรม ได้แก่ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมการค้าต่างประเทศ กรมการค้าภายใน กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ขณะที่คำสั่งใหม่ ตัดอธิบดีบางกรมออก คงเหลือเพียงแค่ 3 กรม คือ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมการค้าต่างประเทศ และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
สำหรับสาเหตุที่ต้องยกเลิกคำสั่งเดิม เพราะมีกรรมการบางคนที่ไม่สามารถสั่งการได้ ทำให้การแต่งตั้งทำได้ยาก เพราะกรรมการจะมีความเข้มงวดในการสกรีนบุคคลไปเป็นทูตพาณิชย์อย่างมาก ทำให้เด็กเส้นหรือเด็กที่วิ่งเต้น ไม่ได้รับการสนับสนุน จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการยกเลิกคำสั่งเดิม และตั้งกรรมการชุดใหม่ที่คาดหวังว่าจะสามารถสั่งการได้เข้ามาทำหน้าที่แทน
ทั้งนี้ กรรมการระดับกรมที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ 3 คน ทั้งนางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งในสมัยนางพรทิวาเป็นรัฐมนตรีทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึงนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ของสำนักงานในต่างประเทศ ในกระทรวงพาณิชย์ ยังมีความวุ่นวายไม่เลิก โดยล่าสุดได้มีการแจ้งข่าวกับข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ว่าจะมีตำแหน่งทูตพาณิชย์ในต่างประเทศทั้งเบอร์ 1 (ระดับซี 9 และ 8) และเบอร์ 2 (ระดับซี 7 และ 8) ว่างสูงถึง 40 ตำแหน่ง และเปิดโอกาสให้ข้าราชการที่อยากจะไปเป็นยื่นใบสมัครเข้ามาได้ จนล่าสุดมีสมัครเข้ามาแล้วกว่า 200 คน
ทั้งนี้ ในการพิจารณาข้าราชการที่จะไปเป็นทูตพาณิชย์ ได้มีคนใกล้ชิดนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เจรจายื่นข้อเสนอว่าถ้าหากผลักดันจนได้ไปเป็นก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนให้ ซึ่งค่าตอบแทนไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายเอง แต่ให้นำเงินที่ได้จากค่าขนย้ายที่หลวงต้องจ่ายให้อยู่เป็นปกติอยู่แล้วจำนวน 5 เท่าของเงินเดือนที่ได้ในต่างประเทศมาให้ ซึ่งสำนักงานในยุโรป สหรัฐฯ หรือประเทศที่พัฒนาแล้ว จะได้ค่าขนย้ายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท แต่สำนักงานไม่ดี หรือใกล้ ค่าขนก็จะน้อยกว่านี้ ทำให้ส่วนใหญ่คนที่อยากจะไปเป็นยอมรับข้อเสนอนี้ แต่ก็มีการเรียกร้องเพิ่มเติม คือ หากเป็นสำนักงานดีๆ หรือประเทศดีๆ ก็ต้องมีออปชันพิเศษเพิ่มเติมให้ด้วย
แหล่งข่าวกล่าวว่า เมื่อมีการกำหนดเงื่อนไขนี้ออกมา คณะกรรมการพัฒนากำลังคนเพื่อกลั่นกรองและคัดเลือกข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ของสำนักงานในต่างประเทศ ในกระทรวงพาณิชย์ ก็มีการประชุมเพื่อพิจารณาจัดวางตัวข้าราชการที่จะไปเป็นทูตพาณิชย์ แต่ก็ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ต้องการ เพราะกรรมการหลายคนเมื่อพิจารณาคุณสมบัติของบุคคลแล้วไม่เห็นด้วย จึงเลือกบุคคลที่เหมาะสมแทน ทำให้นางพรทิวาต้องยกเลิกคณะกรรมการชุดนี้ และเซ็นคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ที่ 448/2552 เพื่อตั้งกรรมการชุดใหม่เมื่อวันที่ 16 พ.ย.2552 ที่ผ่านมา โดยยกเลิกคำสั่งเดิมที่ 444/2548 ซึ่งเป็นคำสั่งสมัยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็น รมว.พาณิชย์ และขอให้มีการเก็บเอกสารประกอบการประชุมจากกรรมการคืนทั้งหมด เพื่อทำลายหลักฐาน
ความแตกต่างระหว่างคำสั่งเดิมกับคำสั่งใหม่ ก็คือ องค์ประกอบของคณะกรรมการที่จะเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ โดยคำสั่งเดิมมีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน กรรมการประกอบด้วย อธิบดีทุกกรมในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ 6 กรม ได้แก่ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมการค้าต่างประเทศ กรมการค้าภายใน กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และรองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ขณะที่คำสั่งใหม่ ตัดอธิบดีบางกรมออก คงเหลือเพียงแค่ 3 กรม คือ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมการค้าต่างประเทศ และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
สำหรับสาเหตุที่ต้องยกเลิกคำสั่งเดิม เพราะมีกรรมการบางคนที่ไม่สามารถสั่งการได้ ทำให้การแต่งตั้งทำได้ยาก เพราะกรรมการจะมีความเข้มงวดในการสกรีนบุคคลไปเป็นทูตพาณิชย์อย่างมาก ทำให้เด็กเส้นหรือเด็กที่วิ่งเต้น ไม่ได้รับการสนับสนุน จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการยกเลิกคำสั่งเดิม และตั้งกรรมการชุดใหม่ที่คาดหวังว่าจะสามารถสั่งการได้เข้ามาทำหน้าที่แทน
ทั้งนี้ กรรมการระดับกรมที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ 3 คน ทั้งนางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก นายวิจักร วิเศษน้อย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และนางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งในสมัยนางพรทิวาเป็นรัฐมนตรีทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึงนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์