สถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก ดึงผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อการส่งออก เตรียมรับภาวะเศรษฐกิจฟื้นปี 2553 พร้อมบุกตลาดประเทศเศรษฐกิจใหม่ อาทิ จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง ชดเชยตลาดหลักหลังเจอมรสุม
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า หลังจากประเทศต้องเผชิญกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนับเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่ทำให้ไทยต้องกลับมาทบทวนยุทธศาสตร์ด้านต่างๆ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยเฉพาะภาคการส่งออก ทั้งนี้ ในส่วนของรัฐบาลมีนโยบายที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคเอกชน มีความเข้มแข็งเพื่อพัฒนาศักยภาพให้สูงขึ้น สามารถแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนของสถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก จึงได้ดำเนินการจัดฝึกอบรมในโครงการ “กลยุทธ์การตลาดเพื่อการส่งออก” ระหว่างวันที่ 17-18 ธันวาคม 2552 ซึ่งนับเป็นหลักสูตรสำคัญที่จะสนับสนุนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก โดยหลังจากผ่านการฝึกอบรมแล้วจะส่งผลให้ภาคเอกชนผู้เข้ารับการฝึกอบรม สามารถที่จะวางแผนและกำหนดยุทธวิธีการค้าได้ดียิ่งขึ้น
“เป็นที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบัน ภาวะตลาดทั่วโลกมีการแข่งขันอย่างรุนแรง กลยุทธ์การตลาด ที่จะนำไปใช้กับธุรกิจส่งออก จึงต้องพัฒนาให้เหมาะสมสอดคล้องกับภาวะการตลาดที่หลากหลายในต่างประเทศ อันได้แก่ ภาวะเศษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ของโลก นโยบายการค้าของประเทศคู่ค้า กระแสการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภค และสถานการณ์ของประเทศคู่ค้า ฉะนั้น การบุกตลาดใหม่และการรักษาส่วนแบ่งตลาดเดิม จึงต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนด้านการบริหารกลยุทธ์การตลาดเพื่อการส่งออกในระบบที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วทันกับสถานการณ์ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหาตลาดส่งออกใหม่ๆ อาทิ จีน อินเดีย ตลอดจนประเทศในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งที่ผ่านมาสามารถประคองตัวได้ค่อนข้างดีในสภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ทั้งนี้ ก็เพื่อนำมาทดแทนตลาดหลักที่ถูกวิกฤตเศรษฐกิจบั่นทอนความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจไป” นางศรีรัตน์กล่าว
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า หลังจากประเทศต้องเผชิญกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนับเป็นบทเรียนครั้งสำคัญที่ทำให้ไทยต้องกลับมาทบทวนยุทธศาสตร์ด้านต่างๆ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อให้สอดรับกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยเฉพาะภาคการส่งออก ทั้งนี้ ในส่วนของรัฐบาลมีนโยบายที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคเอกชน มีความเข้มแข็งเพื่อพัฒนาศักยภาพให้สูงขึ้น สามารถแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในส่วนของสถาบันฝึกอบรมการค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก จึงได้ดำเนินการจัดฝึกอบรมในโครงการ “กลยุทธ์การตลาดเพื่อการส่งออก” ระหว่างวันที่ 17-18 ธันวาคม 2552 ซึ่งนับเป็นหลักสูตรสำคัญที่จะสนับสนุนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก โดยหลังจากผ่านการฝึกอบรมแล้วจะส่งผลให้ภาคเอกชนผู้เข้ารับการฝึกอบรม สามารถที่จะวางแผนและกำหนดยุทธวิธีการค้าได้ดียิ่งขึ้น
“เป็นที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบัน ภาวะตลาดทั่วโลกมีการแข่งขันอย่างรุนแรง กลยุทธ์การตลาด ที่จะนำไปใช้กับธุรกิจส่งออก จึงต้องพัฒนาให้เหมาะสมสอดคล้องกับภาวะการตลาดที่หลากหลายในต่างประเทศ อันได้แก่ ภาวะเศษฐกิจในภูมิภาคต่างๆ ของโลก นโยบายการค้าของประเทศคู่ค้า กระแสการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภค และสถานการณ์ของประเทศคู่ค้า ฉะนั้น การบุกตลาดใหม่และการรักษาส่วนแบ่งตลาดเดิม จึงต้องอาศัยการปรับเปลี่ยนด้านการบริหารกลยุทธ์การตลาดเพื่อการส่งออกในระบบที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วทันกับสถานการณ์ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหาตลาดส่งออกใหม่ๆ อาทิ จีน อินเดีย ตลอดจนประเทศในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งที่ผ่านมาสามารถประคองตัวได้ค่อนข้างดีในสภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย ทั้งนี้ ก็เพื่อนำมาทดแทนตลาดหลักที่ถูกวิกฤตเศรษฐกิจบั่นทอนความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจไป” นางศรีรัตน์กล่าว