xs
xsm
sm
md
lg

เปิด 9 โครงการใบสั่งเด็ก“พรทิวา” พิรุธเพียบเหตุหวังงาบเงินเป๋าตุง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์
เปิดไส้ใน 9 โครงการฉาว วงเงิน 310 ล้าน ตามใบสั่งคนใกล้ตัว “พรทิวา” พบพิรุธเพียบ เจอค่าใช้จ่ายสุดอึ้ง รายชื่อผู้นำเข้า ข้อมูลตลาด ข้อมูลการค้า ตั้งค่าซื้อสูงถึง 65 ล้าน บางโครงการคิดอะไรไม่ออก ใส่เป็นค่าจ้างเหมาบริการ และค่าโฆษณา พึลึกไปกว่านั้น ค่าที่พักเมืองนอกใส่ไปเป็นล้าน แต่ค่าตั๋วบินไปแสนกว่าบาท ยังมีค่าพิเศษ ทั้งค่าธรรมเนียมสนามบินเป็นล้าน ค่าไฟฟ้า โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต เผยเหตุที่โครงการไม่สมประกอบ เพราะมีกระดาษมาให้ใบเดียว พร้อมวงเงินที่ต้องการ จึงต้องใส่ค่าโน่นค่านี่ให้เต็ม

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงรายละเอียดใน 9 โครงการ วงเงิน 310 ที่คณะอนุกรรมการกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้อนุมัติไปเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า มีความผิดปกติในการจัดทำโครงการเพื่อขอใช้เงินเป็นอย่างมาก ซึ่งหากเป็นโครงการที่ขอใช้เงินจากรัฐบาลไม่มีทางที่จะได้รับการอนุมัติ เพราะเขียนโครงการมีพิรุธและช่องโหว่อย่างมาก แต่โครงการเหล่านี้เป็นโครงการที่อนุมัติได้โดยนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาและคงจะได้รับการอนุมัติในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ รายละเอียดและความผิดปกติของทั้ง 9 โครงการนั้น ได้แก่ 1.โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกษตรกร (SR Mark) วงเงิน 30 ล้านบาท มีรายละเอียดแค่ค่าจ้างเหมาบริการ 18 ล้านบาท ค่าโฆษณา 10 ล้านบาท ที่เหลือ 2 ล้านบาทเป็นค่าเดินทางไปต่างประเทศ

2.โครงการ Thailand’s Export Showcase ณ อาคารกรมส่งเสริมการส่งออก วงเงิน 30 ล้านบาท เป็นค่าปรับปรุงอาคาร 24 ล้าน ค่าจัดกิจกรรมให้ความรู้ 4.5 ล้าน และอีก 1.5 ล้านเป็นค่าโฆษณา

3.โครงการส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์สู่สากล วงเงิน 10 ล้านบาท เป็นค่าโฆษณา 5.5 ล้านบาท ที่เหลือเป็นค่าเดินทางไปต่างประเทศ ค่าเลี้ยงรับรอง ค่าของขวัญ

4.โครงการส่งเสริมสินค้าและธุรกิจบริการเชิงสร้างสรรค์ร่วมกับ ASEAN-Japan Center วงเงิน 10 ล้านบาท เป็นค่าโฆษณา 4.1 ล้าน ที่เหลือเป็นค่าขนส่ง ค่าของขวัญ ค่ารับรอง และค่าเดินทางไปต่างประเทศ แต่มีสิ่งที่ผิดปกติ ก็คือ ค่าที่พักระบุไว้ 3.15 ล้านบาท แต่ค่าตั๋วเครื่องบินใช้แค่ 1.6 แสนบาท

5.โครงการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการส่งออก วงเงิน 30 ล้านบาท เป็นค่าโฆษณา 10 ล้านบาท ค่าจ้างเหมาบริการ 10 ล้านบาท ที่เหลือเป็นค่าเดินทางไปต่างประเทศ 5 ล้านบาท และค่าจ้างผู้เชี่ยวชาญ 5 ล้านบาท

6.โครงการพัฒนาตลาด AEC เชิงลึก (เน้น CLMV และการค้าชายแดน) วงเงิน 30 ล้านบาท เป็นค่าเหมาะบริการผู้เชี่ยวชาญทำโครงการ 9 ครั้ง 13.2 ล้านบาท ค่าประชาสัมพันธ์ 9.6 ล้านบาท ที่เหลือเป็นค่าของขวัญ ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด และค่ารับรอง

7.โครงการพัฒนาระบบตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ วงเงิน 20 ล้านบาท เป็นค่าจ้างเหมาบริการ 15 ล้าน ค่าโฆษณา 3 ล้าน โดยมีค่าใช้จ่ายที่ผิดปกติ คือ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต และค่าธรรมเนียมสนามบิน 1 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ไม่มีการจัดคณะไปต่างประเทศ

8.โครงการพัฒนาระบบข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ วงเงิน 100 ล้านบาท เป็นค่าจ้างเหมาบริการอื่น 75 ล้านบาท ค่าเช่าพื้นที่ 2 ล้านบาท ค่าโฆษณา 3.5 ล้านบาท ที่เหลือเป็นค่าฝึกอบรม ค่ารถ ค่าที่พัก ค่าเอกสาร ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต และค่าจ้างผู้เชี่ยวชาญ โดยมีค่าใช้จ่ายที่ไม่น่าเป็นไปได้ คือ ในหมวยค่าจ้างเหมาบริการ
ได้ระบุว่าเป็นค่าจัดซื้อรายชื่อผู้นำเข้ารายอุตสาหกรรมทั่วโลก 27 ล้านบาท ค่าจัดซื้อข้อมูลการค้า 13 ล้านบาท และค่าจัดซื้อข้อมูลภาวะตลาดของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั่วโลก 25 ล้านบาท ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ปกติสามารถหาได้ฟรีอยู่แล้ว

9.โครงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการรายใหม่ วงเงิน 30 ล้านบาท เป็นค่าจ้างเหมาบริการ 7.35 ล้านบาท ค่าฝึกอบรม 5.46 ล้านบาท ที่เหลือเป็นค่าเดินทางไปต่างประเทศ 16 ล้านบาท

แหล่งข่าวกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้แต่ละโครงการมีความผิดปกติในการระบุค่าใช้จ่าย เพราะใบสั่งที่คนใกล้ชิดรัฐมนตรีส่งมาให้กรมส่งเสริมการส่งออกมีเพียงแค่กระดาษใบเดียว พร้อมทั้งวงเงินที่ต้องการ และขอให้ทำโดยเร็ว ทำให้เจ้าหน้าที่ที่ลงข้อมูลโครงการ นึกอะไรออก นึกอะไรได้ก็จับใส่เข้าไปเพื่อให้เต็มวงเงิน จึงเกิดความผิดพลาดและผิดปกติอย่างที่ปรากฎออกมา

ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าคนใกล้ชิดรัฐมนตรีพรทิวาบีบบังคับให้กรมส่งเสริมการส่งออก เพิ่มโครงการในปี 2553 อีก 9 โครงการ วงเงิน 310 ล้านบาท โดยใช้เงินจากกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และขู่อีกว่าหากไม่ทำให้ รมว.พาณิชย์ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะไม่อนุมัติโครงการอื่นๆ ที่กรมส่งเสริมการส่งออกเสนอ ซึ่งการเพิ่ม 9 โครงการดังกล่าว มีการหวังผลเพื่อหักค่าหัวคิวจากบริษัทที่มารับงาน 20-30%
กำลังโหลดความคิดเห็น