สัมมนาพืชสวนโลก ครบรอบ 25 ปี เตรียมถกแนวทางการพัฒนาพืชสวนไทย หลังภาคเกษตรได้งบไทยเข้มแข็ง 1.7 หมื่นล้าน เล็งกำหนดทิศทางไม้ผล ไม้ยืนต้น ไม้ดอกไม้ประดับ โดยเฉพาะพืชสมุนไพร มีแนวโน้มตลาดขยายตัวในเกณฑ์สูง และมีการหันมาปลูกเชิงพาณิชย์มากขึ้น เพื่อป้อนให้กับโรงงานผลิตสมุนไพร พร้อมสางปัญหาผลไม้นำเข้าราคาถูกจากจีนเข้ามาดั๊มตลาด หลังเปิดเอฟทีเอมา 6 ปี
สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย เตรียมจัดสัมมนาเรื่อง “ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง พืชสวนไทยเข้มแข็ง” ในโอกาสครบรอบ 25 ปี ซึ่งมี นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน เพื่อร่วมหาแนวทางพัฒนาภาคการเกษตรไทย หลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย อันเนื่องมาจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งรัฐบาลไทยทำความตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับจีน มา 6 ปีแล้ว เพื่อยกภาษีการนำเข้าผัก ผลไม้ จึงทำให้ผลผลิตพืชเมืองหนาวจากจีนทะลักเข้าสู่ประเทศไทยในราคาถูก ขณะที่ผู้ส่งออกผลไม้ไทยไปจีน ก็ถูกมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีทำให้เกิดต้นทุนเพิ่ม จนการส่งออกลดลงต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ทั้งภาครัฐและเอกชน เชื่อมั่นว่า การจัดสรรงบประมาณภาคการเกษตร ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งจำนวน 170,000 ล้านบาท จะแก้ไขปัญหาภาคการเกษตร โดยเฉพาะการพัฒนาแหล่งน้ำและระบบชลประทานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรทั่วประเทศได้
ขณะที่ข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรพืชสวน ประกอบด้วย ไม้ผล ไม้ยืนต้น ไม้ดอกไม้ประดับ โดยเฉพาะพืชสมุนไพร มีแนวโน้มตลาดขยายตัวในเกณฑ์สูง และมีการหันมาปลูกเชิงพาณิชย์มากขึ้น เพื่อป้อนให้กับโรงงานผลิตสมุนไพร หากได้รับการส่งเสริมเพิ่มผลผลิต คุณภาพ ให้ตรงความต้องการของตลาด ก็จะทำให้สินค้าเกษตรไทยเป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งในและต่างประเทศได้
สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย เตรียมจัดสัมมนาเรื่อง “ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง พืชสวนไทยเข้มแข็ง” ในโอกาสครบรอบ 25 ปี ซึ่งมี นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน เพื่อร่วมหาแนวทางพัฒนาภาคการเกษตรไทย หลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย อันเนื่องมาจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งรัฐบาลไทยทำความตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับจีน มา 6 ปีแล้ว เพื่อยกภาษีการนำเข้าผัก ผลไม้ จึงทำให้ผลผลิตพืชเมืองหนาวจากจีนทะลักเข้าสู่ประเทศไทยในราคาถูก ขณะที่ผู้ส่งออกผลไม้ไทยไปจีน ก็ถูกมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีทำให้เกิดต้นทุนเพิ่ม จนการส่งออกลดลงต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ทั้งภาครัฐและเอกชน เชื่อมั่นว่า การจัดสรรงบประมาณภาคการเกษตร ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งจำนวน 170,000 ล้านบาท จะแก้ไขปัญหาภาคการเกษตร โดยเฉพาะการพัฒนาแหล่งน้ำและระบบชลประทานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรทั่วประเทศได้
ขณะที่ข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรพืชสวน ประกอบด้วย ไม้ผล ไม้ยืนต้น ไม้ดอกไม้ประดับ โดยเฉพาะพืชสมุนไพร มีแนวโน้มตลาดขยายตัวในเกณฑ์สูง และมีการหันมาปลูกเชิงพาณิชย์มากขึ้น เพื่อป้อนให้กับโรงงานผลิตสมุนไพร หากได้รับการส่งเสริมเพิ่มผลผลิต คุณภาพ ให้ตรงความต้องการของตลาด ก็จะทำให้สินค้าเกษตรไทยเป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งในและต่างประเทศได้