นายราเชนทร์ พจนสุนทร รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลัง กลุ่มนักธุรกิจสปา จากสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าพบว่า การเข้าพบของนักธุรกิจดังกล่าว เพื่อต้องการรับฟังข้อมูล และแนวทางการสนับสนุนในกลุ่มธุรกิจสปาของไทย โดยนักธุรกิจสปาจากจีนที่เข้าพบ มีจำนวน 9 ราย ถือว่าเป็นรายที่มีเครือข่ายด้านธุรกิจสปาใหญ่ที่สุดในประเทศจีน
โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ย้ำต่อนักธุรกิจสปาจากจีนว่า พร้อมสนับสนุนทุกด้าน ทั้งด้านการค้าการลงทุน โดยเฉพาะภาคธุรกิจบริการอย่างสปา เพราะหากดูในแง่ของการส่งออกสินค้าไทยในแต่ละปี ธุรกิจสปามีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีความหลากหลาย โดยสินค้าไทยที่ส่งออกมากที่สุด ได้แก่ สินค้าอาหารและผลไม้ ภายใต้กรอบความร่วมมือการเปิดเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ ระหว่างไทยและจีน และภายใต้กรอบเอฟทีเออาเซียน-จีน รวมทั้งอีก 6 ปีข้างหน้าตามกรอบอาเซียน จะเป็นตลาดเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม หากดูในแง่ของประชากรในกลุ่มอาเซียน มีมากกว่า 600 ล้านคน และรวมกับตลาดจีน อีกกว่า 1,300 ล้านคน ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ โอกาสที่สินค้าไทยและธุรกิจบริการของไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ประกอบกับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 กรอบความร่วมมืออาเซียน จะลดภาษีนำเข้าเหลือร้อยละ 0 จึงเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่นักธุรกิจจีนจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยและกลุ่มอาเซียน
นายราเชนทร์ กล่าวด้วยว่า นักธุรกิจสปาจากจีน ทั้ง 9 ราย ที่เดินทางมาเยือนไทยในครั้งนี้ เข้ามาดูงานและเจรจาธุรกิจกับนักธุรกิจของไทย เชื่อว่าเป็นโอกาสที่ดีต่อการขยายความร่วมมือ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สปาไทย ซึ่งที่ผ่านมา ธุรกิจสปาไทยเป็นที่รู้จักและมีเครือข่ายในลักษณะแฟรนไชส์สปาไทยในจีนอยู่แล้ว
โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ย้ำต่อนักธุรกิจสปาจากจีนว่า พร้อมสนับสนุนทุกด้าน ทั้งด้านการค้าการลงทุน โดยเฉพาะภาคธุรกิจบริการอย่างสปา เพราะหากดูในแง่ของการส่งออกสินค้าไทยในแต่ละปี ธุรกิจสปามีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีความหลากหลาย โดยสินค้าไทยที่ส่งออกมากที่สุด ได้แก่ สินค้าอาหารและผลไม้ ภายใต้กรอบความร่วมมือการเปิดเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ ระหว่างไทยและจีน และภายใต้กรอบเอฟทีเออาเซียน-จีน รวมทั้งอีก 6 ปีข้างหน้าตามกรอบอาเซียน จะเป็นตลาดเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม หากดูในแง่ของประชากรในกลุ่มอาเซียน มีมากกว่า 600 ล้านคน และรวมกับตลาดจีน อีกกว่า 1,300 ล้านคน ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ โอกาสที่สินค้าไทยและธุรกิจบริการของไทยจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ประกอบกับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 กรอบความร่วมมืออาเซียน จะลดภาษีนำเข้าเหลือร้อยละ 0 จึงเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่นักธุรกิจจีนจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยและกลุ่มอาเซียน
นายราเชนทร์ กล่าวด้วยว่า นักธุรกิจสปาจากจีน ทั้ง 9 ราย ที่เดินทางมาเยือนไทยในครั้งนี้ เข้ามาดูงานและเจรจาธุรกิจกับนักธุรกิจของไทย เชื่อว่าเป็นโอกาสที่ดีต่อการขยายความร่วมมือ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สปาไทย ซึ่งที่ผ่านมา ธุรกิจสปาไทยเป็นที่รู้จักและมีเครือข่ายในลักษณะแฟรนไชส์สปาไทยในจีนอยู่แล้ว