ศูนย์ข่าวศรีราชา - องค์การสวนสัตว์ฯ ควักเงินลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท เตรียมผุด สวนสัตว์ 5 แห่งทั่วประเทศ คาดปี 2552 จะเริ่มได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อพร้อมเปิดให้เอกชนสัปทานบริหารในส่วนของร้านจำหน่ายของที่ระลึก โดยเน้นจุดเด่นของสัตว์ในแต่ละพื้นที่ นอกจากนั้นเพื่อป้องกันการบุกรุกที่ดินจากนายทุน
นายโสภณ ดำนุ้ย ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงนโยบาย ขององค์การฯ ว่า เดิมองค์การสวนสัตว์มีเพียงแค่ สวนสัตว์ดุสิต และขยายเพิ่มขึ้นเป็น เขาเขียว สงขลา เชียงใหม่ โคราช ซึ่งประสบผลสำเร็จทุกๆพื้นที่ ดังนั้น รัฐบาลจึงมีนโยบายให้ขยายสวนสัตว์เพิ่มขึ้น อีก 5 แห่ง ประกอบด้วย สวนสัตว์ราชบุรี ชุมพร นครสวรรค์ สุรินทร์ และ สุโขทัย โดยขณะนี้รัฐบาลได้ให้งบประมาณจำนวนหนึ่ง เพื่อกำหนดและวางรูปแบบของ 5 สวนสัตว์นี้ ว่าจะให้เป็นไปในรูปแบบใดเพื่อให้สอดคล้องกับพื้นที่ให้มากที่สุด
“ ที่ดินสำหรับจัดตั้งสวนสัตว์แต่ละแห่ง เรามีหมดแล้ว โดยเป็นที่ดินของอุทยานฯ ที่ไม่ต้องดำเนินการอะไรมากนัก เพราะมีสภาพเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว “
นายโสภณ กล่าวอีกว่า สำหรับในปีแรกของการดำเนินโครงการ จะมุ่งเน้นในการศึกษาวิจัยความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ก่อน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ด้านการพัฒนา-อนุรักษ์สัตว์ป่า เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งหากพื้นที่ใดที่มีความเหมาะสมและมีศักยภาพก็ให้ดำเนินการได้ทันที แต่ถ้าทั้ง 5 สวนสัตว์มีความพร้อม ก็ให้ดำเนินการพร้อมๆกัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียด
ทั้งนี้ ในแต่ละแห่งจะมีจุดเด่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่แตกต่างกันไป เช่น สวนสัตว์สุรินทร์ ก็จะเน้นในเรื่องของช้าง โดยจะนำช้างจากทุก ๆ พื้นที่มารวมไว้ในสวนสัตว์ เพื่อให้มีงานทำและคนเลี้ยงช้างมีรายได้ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเห็นช้างเร่ร่อนอยู่เกลื่อนเมือง และบางครั้งก็ได้รับอันตรายจากการถูกรถชน ดังนั้น เมื่อมีสวนสัตว์ดังกล่าวเกิดขึ้น ปัญหาช้างเร่ร่อน ก็จะหมดไป ล่าสุดเริ่มมีควาญช้างให้ความสนใจกว่า 100 เชือกแล้ว
นายโสภณ กล่าวต่อไปว่า สวนสัตว์แต่ละแห่ง ต้องใช้งบประมาณ 800 กว่าล้านบาท โดยจะไม่ใช้งบในครั้งเดียว นอกจากนั้นก็จะให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุน เช่น ร้านจำหน่ายของที่ระลึก ซึ่งจะให้สัมปทานในระยะยาว 20-30 ปี ส่วนรัฐบาลนั้น ก็ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน การวิจัย การดูแลสัตว์ และสวนสัตว์
ที่ผ่านมา สวนสัตว์ที่จะมีการจัดตั้งทั้ง 5 แห่งนั้น ได้ทำการศึกษามาเป็นเวลานานแล้ว เช่น สวนสัตว์นครสวรรค์ ได้ทำการศึกษาและวิจัยมานานกว่า 10 ปีแล้ว ในพื้นที่ 5,000 ไร่ โดยได้ดำเนินการเรื่องโครงสร้างพื้นฐานไปบ้างแล้ว ซึ่งหลายๆพื้นที่ได้มีการเตรียมความพร้อม เพื่อให้เกิดความเหมาะสม เช่น สวนสัตว์ชุมพร ซึ่งอยู่ใกล้ทะเล ก็จะนำสัตว์น้ำ มาศึกษาและวิจัยให้มากขึ้น เพื่อเป็นการสอดรับในพื้นที่นั้นๆ ส่วนสวนสัตว์ที่จังหวัดราชบุรี อาจจะเน้นด้านพืชเมืองหนาว ต้นไม้นานาชนิด
นายโสภณ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้หลายจังหวัดเสนอตัว จะให้สวนสัตว์เกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะจะเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งเรื่องนี้ในอนาคตอาจจะมีเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะแต่ละพื้นที่มีความพร้อมสามารถทำเป็นสวนสัตว์ได้
“การทำสวนสัตว์นั้น นอกจากเพื่อการอนุรักษ์ วิจัย และส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ที่สำคัญเพื่อป้องกันการบุกรุกที่ดินของรัฐเพิ่มขึ้นด้วย เพราะที่ผ่านมาที่ดินหลวง(กรมอุทยานฯ ) ถูกประชาชนบุกรุกเป็นจำนวนมาก ซึ่ง เมื่อมีสวนสัตว์แล้ว การบุกรุกก็จะลดน้อยลง เนื่องจากองค์การสวนสัตว์ฯจะเข้าไปดูแลอย่างเป็นรูปธรรมและใกล้ชิดมากขึ้น”
