จันทบุรี - ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรจังหวัดจันทบุรี พร้อมมอบนโยบายการสร้าง แนวทางการปฏิบัติหน้าที่เพื่อสร้างความเข้าใจกับโครงการของรัฐบาล
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี นายจักรี สุจริตธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะเดินทางมาติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรจังหวัดจันทบุรี โดยมี นางเริงจิตร พรหมสถิต เกษตรจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยเกษตรจังหวัดตราด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ และร่วมรับนโยบาย
นายจักรี เผยว่า การเดินทางมาของผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในครั้งนี้ เพื่อมารับทราบเกี่ยวกับโครงการประกันรายได้เกษตรกรจังหวัดจันทบุรี ว่ามีการดำเนินการไปถึงไหน มีปัญหาอุปสรรคอะไรหรือไหม
สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี ได้มีการเปิดการรับขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ หลัก 3 ชนิด คือ ข้าวนาปี มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2552-2553
ทั้งนี้ ผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลังขึ้นทะเบียนผู้ปลูก วันที่ 9 กรกฎาคม-30 กันยายน 2552 ผู้ปลูกข้าวนาปี ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกวันที่ 9 กรกฎาคม-31 ตุลาคม 2552 ซึ่งขณะนี้มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนทางสำนักงานเกษตรได้มีการประชาคมคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบพื้นที่ทำการผลิต และยืนยันการผลิตของเกษตรกร และชนิดพันธุ์ข้าว การออกใบรับรองผลการขึ้นทะเบียนให้เกษตรกรเพื่อนำไปทำสัญญาประกันรายได้กับ ธ.ก.ส.
สำหรับจังหวัดจันทบุรี มีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนพืชทั้ง 3 ชนิด 10 อำเภอ และผ่านการออกใบรับรองแล้ว มีเกษตรกรที่ได้ใบรับรองการขึ้นทะเบียนข้าวนาปีจำนวน 1,413 ราย พื้นที่การผลิต 16,745.6 ไร่ มันสำปะหลัง 6,446 ราย พื้นที่การผลิต 184,470.0 ไร่ และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1,580 ราย พื้นที่การผลิต 37,689.6 ไร่
นอกจากนี้ ปัญหาอุปสรรคที่พบ คือ ในช่วงรับขึ้นทะเบียนยังไม่ทราบรายละเอียดหลักเกณฑ์โครงการประกันรายได้เกษตรกรที่ชัดเจน ระบบบันทึกข้อมูลยังไม่สมบูรณ์ ทำให้เมื่อแก้ไขข้อมูลเกิดการเปลี่ยนแปลงเลขที่อ้างอิง เกษตรกรทำสัญญาไม่ได้ เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการของอำเภอสอยดาว และอำเภอแก่งหางแมว ถูกแจ้งยกเลิกรายชื่อทำให้ไม่ได้รับเงินชดเชย
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรแจ้งรายชื่อให้ ธ.ก.ส สาขา ข้อมูลจำนวนเกษตรกรขึ้นทะเบียนพืชเศรษฐกิจของจังหวัด ที่รายงานต่อกรมส่งเสริมการเกษตรไม่ตรงกับจำนวนที่กรมส่งเสริมการเกษตร จัดส่งรายชื่อให้ ธ.ก.ส.จังหวัด ทั้งนี้ ปัญหาอุปสรรคเหล่านี้เกษตรจังหวัดจะต้องนำไปปรับปรุงแก้ไขให้มีความถูกต้องต่อไป เพื่อไม่ให้เกษตรกรที่ผ่านการรับรองต้องล่าช้าอีกด้วย
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี นายจักรี สุจริตธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะเดินทางมาติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรจังหวัดจันทบุรี โดยมี นางเริงจิตร พรหมสถิต เกษตรจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยเกษตรจังหวัดตราด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ และร่วมรับนโยบาย
นายจักรี เผยว่า การเดินทางมาของผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในครั้งนี้ เพื่อมารับทราบเกี่ยวกับโครงการประกันรายได้เกษตรกรจังหวัดจันทบุรี ว่ามีการดำเนินการไปถึงไหน มีปัญหาอุปสรรคอะไรหรือไหม
สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี ได้มีการเปิดการรับขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ หลัก 3 ชนิด คือ ข้าวนาปี มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2552-2553
ทั้งนี้ ผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลังขึ้นทะเบียนผู้ปลูก วันที่ 9 กรกฎาคม-30 กันยายน 2552 ผู้ปลูกข้าวนาปี ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกวันที่ 9 กรกฎาคม-31 ตุลาคม 2552 ซึ่งขณะนี้มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนทางสำนักงานเกษตรได้มีการประชาคมคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบพื้นที่ทำการผลิต และยืนยันการผลิตของเกษตรกร และชนิดพันธุ์ข้าว การออกใบรับรองผลการขึ้นทะเบียนให้เกษตรกรเพื่อนำไปทำสัญญาประกันรายได้กับ ธ.ก.ส.
สำหรับจังหวัดจันทบุรี มีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนพืชทั้ง 3 ชนิด 10 อำเภอ และผ่านการออกใบรับรองแล้ว มีเกษตรกรที่ได้ใบรับรองการขึ้นทะเบียนข้าวนาปีจำนวน 1,413 ราย พื้นที่การผลิต 16,745.6 ไร่ มันสำปะหลัง 6,446 ราย พื้นที่การผลิต 184,470.0 ไร่ และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1,580 ราย พื้นที่การผลิต 37,689.6 ไร่
นอกจากนี้ ปัญหาอุปสรรคที่พบ คือ ในช่วงรับขึ้นทะเบียนยังไม่ทราบรายละเอียดหลักเกณฑ์โครงการประกันรายได้เกษตรกรที่ชัดเจน ระบบบันทึกข้อมูลยังไม่สมบูรณ์ ทำให้เมื่อแก้ไขข้อมูลเกิดการเปลี่ยนแปลงเลขที่อ้างอิง เกษตรกรทำสัญญาไม่ได้ เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการของอำเภอสอยดาว และอำเภอแก่งหางแมว ถูกแจ้งยกเลิกรายชื่อทำให้ไม่ได้รับเงินชดเชย
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรแจ้งรายชื่อให้ ธ.ก.ส สาขา ข้อมูลจำนวนเกษตรกรขึ้นทะเบียนพืชเศรษฐกิจของจังหวัด ที่รายงานต่อกรมส่งเสริมการเกษตรไม่ตรงกับจำนวนที่กรมส่งเสริมการเกษตร จัดส่งรายชื่อให้ ธ.ก.ส.จังหวัด ทั้งนี้ ปัญหาอุปสรรคเหล่านี้เกษตรจังหวัดจะต้องนำไปปรับปรุงแก้ไขให้มีความถูกต้องต่อไป เพื่อไม่ให้เกษตรกรที่ผ่านการรับรองต้องล่าช้าอีกด้วย
