หวานชื่น "งานลงแขกแก้หนี้นอกระบบ" นายกรัฐมนตรี ไปเป็นประธานเปิดตัวโครงการฯ ภายใต้ชื่อ “โอนหนี้เข้าระบบ...เพื่อชีวิตใหม่” งานนี้ ทั้งสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงยุติธรรม ด้วยความร่วมมือของ 6 ธนาคารรัฐ "เห็นแล้วน่าชื่นใจ" ประเด็นสำคัญสุด ต้องผลักดันให้เป็นรูปธรรมให้ได้ภายในปีหน้า ประเภทจัดงานใหญ่ใช้ผักชีโรย พอปฏิบัติไม่เอาอ่าว ไม่สมควรมีให้เห็นอีก...
พูดถึงหนี้นอกระบบ ถ้าทำสำเร็จ ช่วยให้คนไทยที่ด้อยโอกาสเข้าถึงแบงก์ "ลืมตาอ้าปาก" ขุนคลังย้ำ "ลูกหนี้ที่ติดเครดิตบูโร เข้าโครงการได้" ถูกจุด "กรณ์ จาติกวณิช" พูดชัด นายแบงก์รัฐได้ยินแล้วอย่าทำเป็น "หูทวนลม" ทำความเข้าใจกับลูกน้อง ให้มีการปฏิบัติจริง ไม่ควรตั้งป้อมปฏิเสธเหมือนที่ผ่านมา ไม่งั้นนโยบายรัฐบาลโอบามาร์ค เป็นได้แค่ "ฝันกลางวัน" เหมือนรัฐบาลที่แล้วมา...
"หนี้นอกระบบ" เป็นวงจรอุบาทว์ในสังคมไทยมานาน พ่อค้าแม่ค้าไม่เว้นมนุษย์เงินเดือน ไปฟังฝั่งเครดิต บูโร ดู "เอ็มดี-นิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์" ชี้สำคัญสุดต้องรักษาวินัย ถ้าลูกหนี้มีวินัย ระบบเครดิต บูโร "จะเป็นประโยชน์มาก" ขอสินเชื่อครั้งต่อๆ ไป ง่ายขึ้นอีกหลายเท่า ในทางกลับกัน ถ้าไม่มีวินัย "เครดิต บูโร" ก็จะบันทึก แต่ ไม่ได้หมายความว่า แบงก์พาณิชย์จะไปตัดสิทธิ์ขอกู้ของลูกค้ารายนั้น "นิวัฒน์" ครวญ ที่ผ่านมาแบงก์มักใช้เครดิต บูโร ไปเป็นข้ออ้าง "นิวัฒน์" บอกไม่แฟร์...เห็นด้วย แบงก์เห็นแก่ตัว!
อภิมหาโปรเจกต์ "โครงการมหานคร" ที่ใช้เงินลงทุน 1.4 หมื่นล้าน มูลค่าโครงการ 1.8 หมื่นล้าน กำลังสั่นสะเทือนแบบไม่ต้องรอแผ่นดินไหววันสิ้นโลก 2012 เมื่อสภาสถาปนิก นำโดย "พล.ร.อ.ฐนิธ กิตติอําพน" นายกสภาฯ เข้าแจ้งความต่อเจ้าพนักงาน สน.ลุมพินี แจ้งข้อหาโครงการฯ กระทำความผิด พ.ร.บ.สถาปนิกฯ มาตรา 45 ต้องโทษตามมาตรา 71 กรณีแต่งตั้ง "โอเล เซียเรน" สถาปนิกผู้ออกแบบโครงการฯ "ชาวต่างชาติ" คดีนี้ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับ 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ...
โครงการมหานคร เล็งผุดบนเนื้อที่ 9 ไร่ ริมถนนนราธิวาสราชนรินทร์ ติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีช่องนนทรี เป็นการเช่าสิทธิที่ดิน 103 ปี จากมิสซังโรมันคาทอลิกกรุงเทพฯ กำหนดสร้างอาคาร 77 ชั้น ความสูง 310 เมตร กำหนดแล้วเสร็จปี 55 มี "เพซ ดีเวลลอปเมนท์" บริษัทร่วมทุนของกลุ่มเตชะไกรศรี 51% กับฟิชแมน กรุ๊ป จากอิสราเอล 49% เป็นเจ้าของ...
"โอเล เซียเรน" เป็นเจ้าของงานออกแบบอาคาร โครงการซีซีทีวี กรุงปักกิ่ง การแจ้งความดำเนินคดีครั้งนี้ยังส่งผลให้แบงก์พาณิชย์ในไทย 4 แห่ง ต้องปวดขมับไปด้วย เพราะไปปล่อยกู้ร่วม (Syndicate Loans) รวมกัน 7,000 ล้าน แบงก์ขนาดใหญ่ถึงขนาดกลางโดนกันถ้วนหน้า!!
เห็นว่าถ้าหากโครงการนี้แล้วเสร็จ จะกลายเป็นตึก "สูงที่สุดในกรุงเทพฯ" เมื่อทำท่ามืดมน "สรพจน์ เตชะไกรศรี"หุ้นส่วนใหญ่ เจ้าของโครงการ "อาจน้ำตาตก" แต่เจ้าของตึกใบหยก "แดงประตูน้ำ พันธ์เลิศ ใบหยก" คงยิ้มกริ่ม เพราะตราบใดที่ "โครงการมหานคร" ยังไม่เกิด แชมป์ตึกสูงสุดในเมืองหลวง ยังเป็นไม่มีใครทำลาย...
ปิดท้ายที่เก้าอี้ผู้ว่าฯ ททท. ถือว่า "พลิกล็อก" แม้เดิมทีตัวเต็งก็เป็นคนใน ททท. แต่ไม่ใช่รองผู้ว่าฯ การด้านสื่อสารการตลาด ททท.ที่ชื่อ "สุรพล เศวตเศรนี" บอร์ดให้เหตุผลว่า "สุรพล" น่าจะสามารพัฒนาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ที่ปรึกษา ททท.ระดับ 11 อย่าง "อักกพล พฤษะวัน" จึงกินแห้วไปตามระเบียบรัตน์! เอาน่า ยังดีกว่า "ลูกท็อป" หรือ "หนูนา" เด็กป๋าเติ้ง จริงมั๊ย?
พูดถึงหนี้นอกระบบ ถ้าทำสำเร็จ ช่วยให้คนไทยที่ด้อยโอกาสเข้าถึงแบงก์ "ลืมตาอ้าปาก" ขุนคลังย้ำ "ลูกหนี้ที่ติดเครดิตบูโร เข้าโครงการได้" ถูกจุด "กรณ์ จาติกวณิช" พูดชัด นายแบงก์รัฐได้ยินแล้วอย่าทำเป็น "หูทวนลม" ทำความเข้าใจกับลูกน้อง ให้มีการปฏิบัติจริง ไม่ควรตั้งป้อมปฏิเสธเหมือนที่ผ่านมา ไม่งั้นนโยบายรัฐบาลโอบามาร์ค เป็นได้แค่ "ฝันกลางวัน" เหมือนรัฐบาลที่แล้วมา...
"หนี้นอกระบบ" เป็นวงจรอุบาทว์ในสังคมไทยมานาน พ่อค้าแม่ค้าไม่เว้นมนุษย์เงินเดือน ไปฟังฝั่งเครดิต บูโร ดู "เอ็มดี-นิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์" ชี้สำคัญสุดต้องรักษาวินัย ถ้าลูกหนี้มีวินัย ระบบเครดิต บูโร "จะเป็นประโยชน์มาก" ขอสินเชื่อครั้งต่อๆ ไป ง่ายขึ้นอีกหลายเท่า ในทางกลับกัน ถ้าไม่มีวินัย "เครดิต บูโร" ก็จะบันทึก แต่ ไม่ได้หมายความว่า แบงก์พาณิชย์จะไปตัดสิทธิ์ขอกู้ของลูกค้ารายนั้น "นิวัฒน์" ครวญ ที่ผ่านมาแบงก์มักใช้เครดิต บูโร ไปเป็นข้ออ้าง "นิวัฒน์" บอกไม่แฟร์...เห็นด้วย แบงก์เห็นแก่ตัว!
อภิมหาโปรเจกต์ "โครงการมหานคร" ที่ใช้เงินลงทุน 1.4 หมื่นล้าน มูลค่าโครงการ 1.8 หมื่นล้าน กำลังสั่นสะเทือนแบบไม่ต้องรอแผ่นดินไหววันสิ้นโลก 2012 เมื่อสภาสถาปนิก นำโดย "พล.ร.อ.ฐนิธ กิตติอําพน" นายกสภาฯ เข้าแจ้งความต่อเจ้าพนักงาน สน.ลุมพินี แจ้งข้อหาโครงการฯ กระทำความผิด พ.ร.บ.สถาปนิกฯ มาตรา 45 ต้องโทษตามมาตรา 71 กรณีแต่งตั้ง "โอเล เซียเรน" สถาปนิกผู้ออกแบบโครงการฯ "ชาวต่างชาติ" คดีนี้ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับ 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ...
โครงการมหานคร เล็งผุดบนเนื้อที่ 9 ไร่ ริมถนนนราธิวาสราชนรินทร์ ติดกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีช่องนนทรี เป็นการเช่าสิทธิที่ดิน 103 ปี จากมิสซังโรมันคาทอลิกกรุงเทพฯ กำหนดสร้างอาคาร 77 ชั้น ความสูง 310 เมตร กำหนดแล้วเสร็จปี 55 มี "เพซ ดีเวลลอปเมนท์" บริษัทร่วมทุนของกลุ่มเตชะไกรศรี 51% กับฟิชแมน กรุ๊ป จากอิสราเอล 49% เป็นเจ้าของ...
"โอเล เซียเรน" เป็นเจ้าของงานออกแบบอาคาร โครงการซีซีทีวี กรุงปักกิ่ง การแจ้งความดำเนินคดีครั้งนี้ยังส่งผลให้แบงก์พาณิชย์ในไทย 4 แห่ง ต้องปวดขมับไปด้วย เพราะไปปล่อยกู้ร่วม (Syndicate Loans) รวมกัน 7,000 ล้าน แบงก์ขนาดใหญ่ถึงขนาดกลางโดนกันถ้วนหน้า!!
เห็นว่าถ้าหากโครงการนี้แล้วเสร็จ จะกลายเป็นตึก "สูงที่สุดในกรุงเทพฯ" เมื่อทำท่ามืดมน "สรพจน์ เตชะไกรศรี"หุ้นส่วนใหญ่ เจ้าของโครงการ "อาจน้ำตาตก" แต่เจ้าของตึกใบหยก "แดงประตูน้ำ พันธ์เลิศ ใบหยก" คงยิ้มกริ่ม เพราะตราบใดที่ "โครงการมหานคร" ยังไม่เกิด แชมป์ตึกสูงสุดในเมืองหลวง ยังเป็นไม่มีใครทำลาย...
ปิดท้ายที่เก้าอี้ผู้ว่าฯ ททท. ถือว่า "พลิกล็อก" แม้เดิมทีตัวเต็งก็เป็นคนใน ททท. แต่ไม่ใช่รองผู้ว่าฯ การด้านสื่อสารการตลาด ททท.ที่ชื่อ "สุรพล เศวตเศรนี" บอร์ดให้เหตุผลว่า "สุรพล" น่าจะสามารพัฒนาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ที่ปรึกษา ททท.ระดับ 11 อย่าง "อักกพล พฤษะวัน" จึงกินแห้วไปตามระเบียบรัตน์! เอาน่า ยังดีกว่า "ลูกท็อป" หรือ "หนูนา" เด็กป๋าเติ้ง จริงมั๊ย?
