“เทพไท” ตอกกลับไข่แม้ว ยันนายกฯ ใช้อำนาจผู้บริหารสูงสุดสั่ง ผบ.ตร.คนใหม่จัดโผตร.ไม่ขัด รธน.มาตรา 265-266 จวกอย่าฝันกลางวันคิดว่ารัฐบาลหวังล้วงโผตำรวจเตรียมเลือกตั้ง ชี้ประเทศกำลังฟื้นตัว ไม่มีใครคิดยุบสภา
วันนี้ (2 ส.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยประกาศจะยื่นถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในเรื่องคดีการยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยกล่าวหาว่าไปขัดขวางการโยกย้ายแต่งตั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งอาจขัดมาตรา 265 และ 266 ของรัฐธรรมนูญที่เป็นการแทรกแซงการโยกย้ายข้าราชการ ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดที่นายกฯ จะต้องมีความผิดตามรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องนี้นายกฯ ดูกฎหมายมาตลอดและสามารถทำได้ในฐานะที่เป็นนายกฯ
นายเทพไทกล่าวว่า การที่นายกฯ บอกว่าควรจะให้ ผบ.ตร.คนใหม่มาดูการแต่งตั้งโยกย้าย ก็ใช้อำนาจในฐานะเป็นผู้บริหารสูงสุด และเป็นการให้นโยบายกับ สตช.ไม่ได้เป็นการเข้าไปแทรกแซงที่จะชี้ว่าควรจะโยกย้ายคนนั้นคนนี้ให้ดำรงตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ ซึ่งตรงนั้นอาจจะเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 265 และ 266 จริง แต่การดำเนินการดังกล่าวเป็นการให้แนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ว่าควรจะให้ ผบ.ตร.คนใหม่เป็นผู้แต่งตั้งผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อความเป็นเอกภาพและความคล่องตัวในการปฏิบัติหน้าที่ของ ผบ.ตร.คนใหม่เท่านั้นเอง ซึ่งเป็นประเด็นเล็กๆ ที่พรรคเพื่อไทยพยายามที่จะหยิบมาเป็นประเด็นทางการเมืองตลอด เพื่อให้ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์เท่านั้นเอง โดยไม่ได้หวังผลอะไรมากกว่านี้
ส่วนที่มีการวิเคราะห์กันว่านายกฯ ต้องการที่จะจัดแถวตำรวจเพื่อเตรียมการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เรื่องดังกล่าวพรรคเพื่อไทยวิเคราะห์มาหลายครั้งแล้ว เป็นการฝันกลางวันของคนในพรรคเพื่อไทย วันนี้ไม่มีสัญญาณใดๆ ที่จะเห็นว่ารัฐบาลจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือการเมืองมาสู่ทางตัน ที่จะต้องมีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ และถ้าไปฟังความเห็นของทุกภาคส่วนคิดว่าวันนี้ไม่มีใครต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เพราะอยากจะให้การเมืองนิ่ง วันนี้บ้านเมืองกำลังเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ไม่มีเหตุผลใดที่รัฐบาลจะต้องยุบสภาและเตรียมการเลือกตั้งใหม่ การปล่อยข่าวลือเรื่องการปฏิวัติเงียบของสมาชิกพรรคเพื่อไทยเป็นการสร้างกระแสข่าว เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดขึ้นในสังคมเท่านั้น ทั้งที่เรื่องดังกล่าวไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด สถานการณ์การปฏิวัติเลยมาแล้ว และการปฏิวัติทุกครั้งก็เกิดขึ้นจากรัฐบาลบริหารประเทศล้มเหลว เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน เกิดการแตกแยกในสังคม จนไม่สามารถเยียวยาได้ วันนี้สถานการณ์ความแตกแยกดีขึ้น มีเพียงบางกลุ่มที่เป็นกลุ่มน้อยพยายามขยายความแตกแยก รัฐบาลบริหารไปได้ด้วยดี การทุจริตคอร์รัปชันก็ไม่ได้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น การปฏิวัติเป็นเหตุผลที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นการวิเคราะห์และการสร้างข่าวของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น