กระทรวงการคลัง ออกกฎใหม่ห้ามข้าราชการระดับสูง และคนในครอบครัว เข้าไปซื้อขายหุ้นในตลาด เพราะหลายคนเข้าไปเป็นบอร์ด บจ.รู้ข้อมูลเชิงลึกทุกด้าน พร้อมคาดหวังเป็นจุดเริ่มการสร้างจริยธรรม-ธรรมาภิบาล และเป็นต้นแบบให้กระทรวงอื่นทำตาม
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้หารือกับนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อออกระเบียบของกระทรวงการคลัง ไม่ให้ผู้บริหารระดับสูงทำการซื้อขายหุ้น เพื่อสร้างระบบธรรมาภิบาลของผู้บริหารมีความเข้มแข็ง โดยจะใช้บังคังกับผู้บริหารคลังเท่านั้น เพราะถือว่าข้าราชการของกระทรวงการคลัง เป็นหน่วยงานที่มีข้อมูลในเชิงลึกเกือบทุกด้าน อาจนำข้อมูลเหล่านี้ไปแสวงหาผลประโยชน์ในการซื้อขายหุ้น ซึ่งที่ผ่านมา ไม่มีกฎระเบียบกำกับดูแลเรื่องนี้เลย
“การออกระเบียบของกระทรวงการคลัง เพื่อกำกับดูแลหรือตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของข้าราชการระดับสูง รวมทั้งบุคคลในครอบครัว ถือเป็นการสร้างธรรมาภิบาลที่ดี และยังถือเป็นแบบอย่างให้กับข้าราชการของกระทรวงอื่นๆ อาจปฏิบัติตามในภายหลัง”
นอกจากนี้ มีการพิจารณากรณีที่ข้าราชการระดับสูงเข้าไปมีตำแหน่งเป็นคณะกรรมการของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ และได้รับผลตอบแทนทั้งในในรูปของเงินเดือน และโบนัสเพิ่มเติมจากเงินเดือนของข้าราชการตามปกติ โดยอิงจากผลประกอบการหรือกำไรของรัฐวิสาหกิจนั้น ซึ่งการเข้าไปทำหน้าที่ของข้าราชการอาจทำให้ผิดวัตถุประสงค์ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ที่ควรคำนึงถึงการให้บริการกับประชาชนมากกว่าผลประกอบการ
“การออกระเบียบของกระทรวงการคลัง เพื่อกำกับดูแลหรือตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของข้าราชการระดับสูง รวมทั้งบุคคลในครอบครัว ถือเป็นการสร้างธรรมาภิบาลที่ดี และยังถือเป็นแบบอย่างให้กับข้าราชการของกระทรวงอื่นๆ อาจปฏิบัติตามในภายหลัง”
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้หารือกับนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อออกระเบียบของกระทรวงการคลัง ไม่ให้ผู้บริหารระดับสูงทำการซื้อขายหุ้น เพื่อสร้างระบบธรรมาภิบาลของผู้บริหารมีความเข้มแข็ง โดยจะใช้บังคังกับผู้บริหารคลังเท่านั้น เพราะถือว่าข้าราชการของกระทรวงการคลัง เป็นหน่วยงานที่มีข้อมูลในเชิงลึกเกือบทุกด้าน อาจนำข้อมูลเหล่านี้ไปแสวงหาผลประโยชน์ในการซื้อขายหุ้น ซึ่งที่ผ่านมา ไม่มีกฎระเบียบกำกับดูแลเรื่องนี้เลย
“การออกระเบียบของกระทรวงการคลัง เพื่อกำกับดูแลหรือตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของข้าราชการระดับสูง รวมทั้งบุคคลในครอบครัว ถือเป็นการสร้างธรรมาภิบาลที่ดี และยังถือเป็นแบบอย่างให้กับข้าราชการของกระทรวงอื่นๆ อาจปฏิบัติตามในภายหลัง”
นอกจากนี้ มีการพิจารณากรณีที่ข้าราชการระดับสูงเข้าไปมีตำแหน่งเป็นคณะกรรมการของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ และได้รับผลตอบแทนทั้งในในรูปของเงินเดือน และโบนัสเพิ่มเติมจากเงินเดือนของข้าราชการตามปกติ โดยอิงจากผลประกอบการหรือกำไรของรัฐวิสาหกิจนั้น ซึ่งการเข้าไปทำหน้าที่ของข้าราชการอาจทำให้ผิดวัตถุประสงค์ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ที่ควรคำนึงถึงการให้บริการกับประชาชนมากกว่าผลประกอบการ
“การออกระเบียบของกระทรวงการคลัง เพื่อกำกับดูแลหรือตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของข้าราชการระดับสูง รวมทั้งบุคคลในครอบครัว ถือเป็นการสร้างธรรมาภิบาลที่ดี และยังถือเป็นแบบอย่างให้กับข้าราชการของกระทรวงอื่นๆ อาจปฏิบัติตามในภายหลัง”