ช่อง 5 โชว์ 3 ไตรมาสแรกผลประกอบการโต 6% ผู้ชมเพิ่ม 5% ลั่นขยายฐานผู้ชมได้มากจากรายการใหม่ๆ และนโยบายจัดเก็บรายได้ที่รัดกุมมากขึ้น ยืนยันผังใหม่ปี 2553 สิ้นปีนี้รู้ผล พร้อมเพิ่มรายการข่าวและสาระเป็น 40% ในอีก 2 ปี
พลโท กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก และ เจ้ากรมการทหารสื่อสาร กล่าวว่า ผลประกอบการ ททบ.5 ใน 3 ไตรมาสแรก เป็นที่น่าพอใจตามเป้าหมาย คือ มีผู้ชมเพิ่มมากขึ้นเฉลี่ย 5% โดยเฉพาะช่วงเดย์ไทม์ (08.00 - 16.00 น.) เออรรี่ไพร์มไทม์ (16.00 - 18.45 น.) และไพร์มไทม์ (18.45 - 22.30 น.) มีผู้ชม (Market Share)เพิ่มขึ้นเท่าตัว สาเหตุจากการปรับผังไตรมาส 2 และ 3 ที่เพิ่มช่วงละครเช้าร่วมผลิตกับ บริษัทเอ็กแซก และละคร ก่อนข่าวภาคค่ำ โดยร่วมผลิตกับบริษัทกันตนา รวมทั้งวาไรตี้ดังๆ
นอกจากนี้รายการวาไรตี้ข่าวช่วงเช้า คือ รายการบุษบาบานเช้า สยามเช้านี้ สนามเป้าเล่าข่าว รวมทั้ง คุยข่าวสิบโมง ก็ช่วยขยายฐานกลุ่มผู้ชมได้มากขึ้นกว่าช่วงเดียวกัน กับปีก่อน (ปี 2552) ส่วนรายการช่วงก่อนไพร์มไทม์ (เออรี่ไพร์มไทม์) เช่น รายการบันทึกลึกลับ สาระแน เวทีไท ลูกทุ่ง ททบ.5 ละครชีวิตจริง และละครนักสู้นอกสังเวียน ก็ช่วยดึงกลุ่มผู้ชม ให้มากขึ้นเช่นกัน สำหรับรายการที่ผู้ชมนิยมชมสูงสุดในช่วงวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ ได้แก่ รายการระเบิดเถิดเทิง กลมกิ๊ก เกมวัดดวง รถโรงเรียน 5432โชว์ และการ์ตูน ส่วนรายการยอดนิยมช่วงไพร์มไทม์นอกจากละครแล้วยังมี รายการนาทีฉุกเฉิน กรรมลิขิต หม่ำโชว์ และ ตลาดสดสนามเป้า ยังได้รับความสนใจจากผู้ชมเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนด้วย
ด้านผลประกอบการ 3 ไตรมาสแรกของ ททบ.5 (ม.ค.-ก.ย.52) เพิ่มขึ้น 6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุจาก นโยบายการร่วมผลิตรายการกับผู้ประกอบการและ รายการจัดเก็บรายได้ที่มีมาตรการรัดกุม รวมทั้งปัญหาหนี้สูญมีจำนวนน้อยมากและลูกหนี้ ค้างชำระค่าเวลาได้ทะยอยจ่ายคืนตามห้วงเวลา
อย่างไรก็ตามแม้ผลประกอบการโดยรวม จะเพิ่มขึ้น แต่ ททบ.5 ก็มีภาระในการเดินหน้ากิจกรรมและโครงการเพื่อเป็น “ทีวีสาธารณะ” อย่างเต็มตัวทำให้งบรายจ่ายด้านการกุศลและบริการสังคมเพิ่มมากขึ้น ประมาณ 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ผลจากการปรับเพิ่มเวลาจัดรายการพิเศษเพื่อกิจกรรมการกุศลมากขึ้น เฉลี่ยเดือนละ 3 ครั้ง ในช่วงไพร์มไทม์ ทำให้มีผลกระทบต่อการติดตามชมรายการปกติของผู้ชม และเรตติ้งของรายการบ้าง ซึ่งทาง ททบ.5 กำลังหามาตรการมารองรับแก้ไขผลกระทบดังกล่าว
ส่วนความเคลื่อนไหวเรื่องการปรับผังรายการ ททบ.5 ปี 2553 พลโทกิตติทัศน์ กล่าวยืนยันนโยบายมุ่งสู่ทีวีสาธารณะเพื่อความมั่นคง โดยให้คงสัดส่วนรายการข่าว - สาระความรู้ 70% และบันเทิง 30% ซึ่งทางสถานีจะคัดเลือก ผู้ร่วมผลิตรายการ โดยเน้นคุณภาพผลงาน ประวัติ และความคิดสร้างสรรค์ ในการผลิตรายการส่งเสริมความมั่นคง คาดว่าจะประกาศผังรายการใหม่ในต้นเดือนธันวาคมนี้
ขณะเดียวกัน ททบ.5 จะเพิ่มศักยภาพการผลิตรายการให้มากขึ้นอีก 10% จากเดิมผลิตรายการข่าวและสาระความรู้ 30% ให้เป็น 40% ใน 2 ปี ซึ่งขณะนี้ทางสถานีมีความพร้อมด้านอุปกรณ์และเทคโนโลยี ทั้งระบบเวอร์ชวลสตูดิโอ วีดีโอวอลล์ ดิจิตอลนิวส์รูม และอี-ไลเบอรี่ ที่สามารถรองรับการผลิตรายการ ด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพของ ททบ.5 ทั้ง ทหารและพลเรือน ประมาณ 1,300 คน โดยได้มีการจัดเตรียมงบประมาณรองรับงานด้านการพัฒนาบุคลากรเพิ่มอีก 10% จากปีก่อน ทั้งนี้เพื่อรองรับกิจกรรมเพื่อสังคม
พลโท กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก และ เจ้ากรมการทหารสื่อสาร กล่าวว่า ผลประกอบการ ททบ.5 ใน 3 ไตรมาสแรก เป็นที่น่าพอใจตามเป้าหมาย คือ มีผู้ชมเพิ่มมากขึ้นเฉลี่ย 5% โดยเฉพาะช่วงเดย์ไทม์ (08.00 - 16.00 น.) เออรรี่ไพร์มไทม์ (16.00 - 18.45 น.) และไพร์มไทม์ (18.45 - 22.30 น.) มีผู้ชม (Market Share)เพิ่มขึ้นเท่าตัว สาเหตุจากการปรับผังไตรมาส 2 และ 3 ที่เพิ่มช่วงละครเช้าร่วมผลิตกับ บริษัทเอ็กแซก และละคร ก่อนข่าวภาคค่ำ โดยร่วมผลิตกับบริษัทกันตนา รวมทั้งวาไรตี้ดังๆ
นอกจากนี้รายการวาไรตี้ข่าวช่วงเช้า คือ รายการบุษบาบานเช้า สยามเช้านี้ สนามเป้าเล่าข่าว รวมทั้ง คุยข่าวสิบโมง ก็ช่วยขยายฐานกลุ่มผู้ชมได้มากขึ้นกว่าช่วงเดียวกัน กับปีก่อน (ปี 2552) ส่วนรายการช่วงก่อนไพร์มไทม์ (เออรี่ไพร์มไทม์) เช่น รายการบันทึกลึกลับ สาระแน เวทีไท ลูกทุ่ง ททบ.5 ละครชีวิตจริง และละครนักสู้นอกสังเวียน ก็ช่วยดึงกลุ่มผู้ชม ให้มากขึ้นเช่นกัน สำหรับรายการที่ผู้ชมนิยมชมสูงสุดในช่วงวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์ ได้แก่ รายการระเบิดเถิดเทิง กลมกิ๊ก เกมวัดดวง รถโรงเรียน 5432โชว์ และการ์ตูน ส่วนรายการยอดนิยมช่วงไพร์มไทม์นอกจากละครแล้วยังมี รายการนาทีฉุกเฉิน กรรมลิขิต หม่ำโชว์ และ ตลาดสดสนามเป้า ยังได้รับความสนใจจากผู้ชมเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนด้วย
ด้านผลประกอบการ 3 ไตรมาสแรกของ ททบ.5 (ม.ค.-ก.ย.52) เพิ่มขึ้น 6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุจาก นโยบายการร่วมผลิตรายการกับผู้ประกอบการและ รายการจัดเก็บรายได้ที่มีมาตรการรัดกุม รวมทั้งปัญหาหนี้สูญมีจำนวนน้อยมากและลูกหนี้ ค้างชำระค่าเวลาได้ทะยอยจ่ายคืนตามห้วงเวลา
อย่างไรก็ตามแม้ผลประกอบการโดยรวม จะเพิ่มขึ้น แต่ ททบ.5 ก็มีภาระในการเดินหน้ากิจกรรมและโครงการเพื่อเป็น “ทีวีสาธารณะ” อย่างเต็มตัวทำให้งบรายจ่ายด้านการกุศลและบริการสังคมเพิ่มมากขึ้น ประมาณ 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ผลจากการปรับเพิ่มเวลาจัดรายการพิเศษเพื่อกิจกรรมการกุศลมากขึ้น เฉลี่ยเดือนละ 3 ครั้ง ในช่วงไพร์มไทม์ ทำให้มีผลกระทบต่อการติดตามชมรายการปกติของผู้ชม และเรตติ้งของรายการบ้าง ซึ่งทาง ททบ.5 กำลังหามาตรการมารองรับแก้ไขผลกระทบดังกล่าว
ส่วนความเคลื่อนไหวเรื่องการปรับผังรายการ ททบ.5 ปี 2553 พลโทกิตติทัศน์ กล่าวยืนยันนโยบายมุ่งสู่ทีวีสาธารณะเพื่อความมั่นคง โดยให้คงสัดส่วนรายการข่าว - สาระความรู้ 70% และบันเทิง 30% ซึ่งทางสถานีจะคัดเลือก ผู้ร่วมผลิตรายการ โดยเน้นคุณภาพผลงาน ประวัติ และความคิดสร้างสรรค์ ในการผลิตรายการส่งเสริมความมั่นคง คาดว่าจะประกาศผังรายการใหม่ในต้นเดือนธันวาคมนี้
ขณะเดียวกัน ททบ.5 จะเพิ่มศักยภาพการผลิตรายการให้มากขึ้นอีก 10% จากเดิมผลิตรายการข่าวและสาระความรู้ 30% ให้เป็น 40% ใน 2 ปี ซึ่งขณะนี้ทางสถานีมีความพร้อมด้านอุปกรณ์และเทคโนโลยี ทั้งระบบเวอร์ชวลสตูดิโอ วีดีโอวอลล์ ดิจิตอลนิวส์รูม และอี-ไลเบอรี่ ที่สามารถรองรับการผลิตรายการ ด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพของ ททบ.5 ทั้ง ทหารและพลเรือน ประมาณ 1,300 คน โดยได้มีการจัดเตรียมงบประมาณรองรับงานด้านการพัฒนาบุคลากรเพิ่มอีก 10% จากปีก่อน ทั้งนี้เพื่อรองรับกิจกรรมเพื่อสังคม
