“ททบ.5” ทุ่มเงินเกือบร้อยล้านทำดิจิตอลนิวส์รูม ผอ.สถานีเผยปีหน้าเตรียมรุกผลิตรายการและข่าวอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเผยเตรียมดึงช่องมันนี แชนแนลที่หมดสัญญาทำเป็นช่องทหาร
ช่องอื่นนำหน้าเรื่องการนำเสนอข่าวสารไปไกลแล้ว ล่าสุด ททบ.5 นำโดย “พลโท กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์” ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก เลยต้องลุกขึ้นมาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์กับเขาบ้างด้วยการทุ่มงบประมาณเกือบหนึ่งร้อยล้านบาท ทำดิจิตอลนิวส์รูม นำเสนอข่าวสารในรูปแบบ3มิติ
"สำหรับในเรื่องของนิวส์รูมนั้นจะช่วยทำให้เกิดความรวดเร็ว ในการปฎิบัติงานของผู้สื่อข่าว นอกจากนั้นก็จะทำให้ในเรื่องของภาพและเสียงที่สมบูรณ์ ทั้งนี้ทางช่อง5 หวังว่าท่านผู้ชมจะได้รับชมภาพที่ชัดเจนและเสียงที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน”
“ทั้งหมดก็ประมาณเกือบร้อยล้าน ซึ่งเราก็ทุ่มเทเพื่อพี่น้องชาวไทยของเรา จะได้รับชมข่าวที่ทันสมัย รวดเร็ว ชัดเจน ถูกต้อง ขณะนี้เราเริ่มใช้อยู่แล้วครับ ก็กำลังปรับรูปแบบ ว่าอันไหนจะเป็นภาพที่ดีที่สุด"
"ซึ่งทางบริษัทที่ติดตั้ง เขาก็มาช่วยในการที่จะปรับในเรื่องของกราฟฟิก แล้วก็สอนให้กับเราและช่วงนี้ก็กำลังเริ่มดำเนินการทำกราฟฟิกต่างๆ เพื่อเก็บไว้ในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อนำมาใช้ได้ทันทีอย่างรวดเร็ว”
บอกที่ผ่านมาอาจไม่หวือหวา คาดปีหน้าจะเพิ่มสัดส่วนข่าวให้เข้มข้น...“ตรงนี้ข่าวของเราคงจะเสนอข่าวที่เกิดขึ้นจริงกันมากกว่า เราคงไม่ไปวิเคราะห์วิจารณ์อะไรใคร เพราะฉะนั้นรูปแบบของข่าวเราก็จะอยู่ในแบบที่เกิดขึ้นจริง ก็จะเสนอไปตามนั้น คงไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์อะไร”
“เราเสนอข่าวที่เป็นจริง ถูกต้อง แต่ก็ไม่หวือหวามากนัก ทำให้เรตติ้งของเราอยู่ในระดับปานกลาง ถ้าหากเรานำเทคโนโลยีสื่อสารใหม่ๆ เข้ามาก็อาจทำให้ผู้ชม อยากมาชมมากขึ้นแต่เราก็พยายามจะปรับมากขึ้น อย่างปีหน้าเราจะปรับทั้งเวลาและรูปแบบการนำเสนอ ให้เสนอข่าวมากขึ้น ให้มากกว่าในปีนี้ 30-40 เปอร์เซนต์ ส่วนปีนี้ข่าวเสนอแค่ 30 เปอร์เซนต์ ผมคิดว่าน้อยไปนิดนึงในเรื่องของข่าว”
“กำไรที่ผ่านมาก็คงจะปกติ โดยรวมแล้วกำไร ก็คงจะอยู่ที่ประมาณ 400-500 ล้านบาท ก็คงไม่สูงมากเท่าที่อื่น ตอนนี้มีรายได้อยู่ที่ก็คงอยู่ประมาณ 1,200 ล้าน แต่ก็จำตัวเลขไม่ได้แต่เราก็อยู่ขนาดนี้อยู่ทุกปีๆ"
"แต่ต่อไปถ้ากทช.เขาเกิดขึ้น เราก็คงต้องปฎิบัติตามเขา เราก็เป็นสาธารณะเพื่อความมั่นคง เพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายก็คงต้องพอดีกับรายได้ เราก็ต้องทำผังรายการไปให้เขาก่อน แต่ก็คงต้องเป็นรูปแบบสาธารณะมากกว่าในต่อๆ ไป”
“ตามพระราชบัญญัติจะมี 70 เปอร์เซ็นต์เป็นความรู้ ข่าว อีก 30 เปอร์เซ็นต์ก็เป็นบันเทิง เพราะฉะนั้นเราก็อาจจะให้พวกสาระความรู้ลดเหลืออยู่ 30 เปอร์เซ็นต์มาเพิ่มข่าว 40 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้เราเอา 30 เปอร์เซ็นต์ไปเสนอข่าว และสาระความรู้ 40 เปอร์เซ็นต์บันเทิงอยู่ในสัดส่วนของเดิมตามพระราชบัญญัติคือ 30 เปอร์เซ็นต์"
เผยเตรียมเล็งช่อง “มันนี่ แชนแนล” ที่ใกล้หมดสัญญา ดันให้เป็นช่องข่าวของทหาร หวังเป็นสื่อให้ประชาชนรับรู้ข่าวสารของราชการโดยเฉพาะ...“คือมีความคิดอีกอย่างหนึ่งว่าปีหน้า เรามีช่องของมันนี่ แชนแนลที่ออกอากาศทางยูบีซี 80 ในขณะนี้ ซึ่งมันนี่แชนแนล ซึ่งเขาจะหมดสัญญาในช่วงนั้น
"เราอาจจะมาทำข่าวของทหารทุกเหล่าทัพ ทั้งทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ หรือส่วนราชการโดยเฉพาะว่าแต่ละส่วนนั้นได้ดำเนินการในภาระกิจของตนเองอะไรไปแล้วบ้าง อาจจะมาออกอากาศรวมกันอยู่ในช่องนี้”
“ซึ่งเขาจะหมดสัญญาประมาณเดือนมีนาคม ขณะนี้กำลังจะดำเนินการในส่วนของห้องส่ง อย่างดาวเทียมคือเรากำลังจะพัฒนาในส่วนของห้องส่งดาวเทียม จะนำมาทำในเรื่องของข่าวโดยเฉพาะในข่าวทหาร คงต้องลงทุนอีกนิดหน่อย คงไม่มากอีกประมาณ10-20 ล้าน อีกทั้งยังต้องทำในส่วนของตัดต่อเสร็จเรียบร้อยหมดก่อน เหมือนกับว่าเป็นสถานีใหม่อีกสถานีหนึ่ง ”
“แต่ก็ยังกำลังคุยกันอยู่ ถ้าเกิดว่าเรานำมาทำข่าวตรงนี้เราคงไม่ต่อสัญญา แต่อันนี้เพียงเป็นแนวความคิดที่เราอยากจะทำ มันนี่ แชนแนล สัญญาเดิมเขาขอเช่าความถี่ คงจะสรุปกันได้ประมาณมกราคม-กุมภาพันธ์"
"ก็ต้องมาคุยกันก่อน ยังไม่ได้เสนอกับบอร์ด อันนี้เป็นเพียงแค่แนวความคิดก่อน คือภาระกิจต่างๆ ของทหารมีเยอะ แต่เนื้อที่ในการนำเสนอข่าว ผมว่ามันมีน้อยไป คือถ้าเรามีช่องที่ทำข่าว เพื่อให้ประชาชนมองเห็นว่าทหารได้พัฒนาได้ทำอะไรให้ประชาชนไปแล้วบ้าง"
"ส่วนเรื่องผังรายการก็คงทำแบบทุกปี แต่ขณะนี้เรายังไม่ได้ประกาศ ก็คงจะประกาศเดือนตุลาคม-ธันวาคม แล้วก็ไปเริ่มต้นผังใหม่กันเดือนมกราคมปีหน้า ส่วนในเดือนตุลาคมนี้ททบ.5 จะมีการเพิ่มเนื้อหาข่าวมากขึ้นครับ”
