รมต.สำนักนายกฯ ประกาศปฏิรูปช่อง 11 ลั่น 1 เม.ย.ดีเดย์เปลี่ยนโฉมเป็นทีวีแห่งชาติ ถอดผังเก่าหลุดโผ 70%ไม่หวั่นเสียงวิพากษ์ พร้อมยกระดับให้เป็นกระบอกเสียงเพื่อแก้วิกฤติชาติ ตอกกลับฝ่ายค้านเร่งหาตัวผู้นำก่อนเสนอหน้าขอส่วนแบ่งหน้าจอ
วันนี้ (17 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงกรณีที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์การปฏิรูปสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีอย่างหนักว่า ตนทำใจไว้แล้ว จากนี้จะมีเสียงวิจารณ์ตามมาอีกมาก เพราะมีการเปลี่ยนผังใหม่หมด ผังเก่าหลุดไปเกือบ 70% โดยตนเน้นจะให้กรมประชาสัมพันธ์ต้องมีสถานะในการร่วมผลิตเท่าๆ กัน จากเดิมที่เจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์จะอยู่ข้างล่างบริษัทเอกชน คงจะพิจารณากันเสร็จในสัปดาห์นี้เพราะมีบริษัทเอกชนเสนอตัวเข้ามาเพียง 2 บริษัท อย่างไรก็ตาม ตนยังกังวลการพัฒนาศักยภาพของคนทำข่าวในกรมประชาสัมพันธ์ เพราะมีการแข่งขันกันมาก โดยใช้เครื่องมืออุปกรณ์เยอะ ภาคเอกชนไปไกลแล้ว รวมทั้งต้องปรับผู้ประกาศหรือผู้ดำเนินรายการด้วยให้ทันสมัยขึ้น โดยในวันที่ 23 มี.ค.จะประชุมร่วมกับสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 เพื่อเตรียมการประกาศเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ โดยต้องเป็นสื่อที่ทำหน้าที่แก้ปัญหาวิกฤตของชาติได้ ไม่ใช่แค่พอมีการปฏิวัติรัฐประหารก็พร้อมออกมาเป็นกระบอกเสียง
นายสาทิตย์กล่าวว่า ขณะนี้วิกฤติของชาติมมีสองส่วนคือวิกฤติความขัดแย้งทางการเมือง และ ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่กระทบถึงประชาชน ดังนั้น รายการโทรทัศน์แห่งชาติต้องตอบสนองการแก้ปัญหาสองส่วนนี้ให้ได้ เวลาไพร์มไทม์กับช่วงเวลาที่เป็นข่าวจะเน้นสองเรื่องนี้เป็นหลัก ในช่วงข่าว 7 ชม.ที่กำลังจัดหาคนมาร่วมผลิตอยู่ จะทำผังรายการควบคู่กับกรมประชาสัมพันธ์หลัก คือ ต้องนำเสนอข้อมูลพื้นฐานที่เป็นข้อเท็จจริงที่ไปจากรัฐ เช่น วิกฤตปากท้องรัฐบาลกลังคิดทำอะไรอยู่ เป็นต้น แต่ก็ยังเสนอข่าวรอบด้านอยู่ดี และในพื้นที่ที่เป็นไพรม์ไทม์ เดิมซึ่งอาจจะมีรายการต่างๆ อยู่ จะเป็นรายการที่ตอบสนองการแก้วิกฤติของประเทศ เช่น รายการแก้ปัญหาคนว่างงาน ที่กระทรวงแรงงานสนับสนุน หรือรายการหันหน้าเข้าหากัน ส่วนทีวีช่อง 11 ในท้องถิ่น เฟสแรกยังทำหน้าที่ 3 ชม.เหมือนเดิม แต่ในเฟส 2 ทีวีท้องถิ่นจะมีช่องทีวีดาวเทียมของเขา ได้วางเป้าให้ไปสู้กับเคเบิลทีวีท้องถิ่นกับทีวีดาวเทียม โดยจะมีเนื้อหาของรายการกึ่งหนึ่งเป็นเรื่องที่ท้องถิ่นผลิตเอง และสถานีภูมิภาค 8 แห่งจะนำเสนอข่าวท้องถิ่นปัญหาของชาวบ้านนำเสนอมาสู่ทีวีส่วนกลางด้วย
เมื่อถามว่า ทางโฆษกพรรคเพื่อไทยระบุว่าเป็นการปฏิวัติเอ็นบีที ไม่ใช่การปฏิรูป ไม่เคยให้โอกาสฝ่ายค้านไปออกรายการ นายสาทิตย์ย้อนกลับมาว่า ฝ่ายค้านก็หาผู้นำฝ่ายค้านให้เจอเสียก่อนแล้วขอรายการมาเราจะให้ แต่เที่ยวนี้จะเป็นการปฏิรูปสื่อภาครัฐครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง เนื้อหารายการทั้งหลายทราบดีว่าจะกระทบกับหลายฝ่ายมาก ตนก็คงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก แต่ก็น้อมรับ เพราะเราต้องการให้ดี โดย 1 เม.ย.นี้จะมีการเปิดตัว และมีระยะเวลา 3 เดือนเมื่อครบ 3 เดือนจะมีการประเมินผลว่าผังรายการที่ทำออกมาเป็นอย่างไร ตอบสนองทิศทางการประชาสัมพันธ์ตามนโยบายรัฐบาลหรือไม่