ผอ.ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ ม.หอการค้า โต้บทวิเคราะห์ “เวิลด์แบงก์” ประเมิน ศก.เอเชีย มีความเสี่ยงเงินเฟ้อ เพราะใช้นโยบาย ดบ.ต่ำ ยันไม่เกิดได้ง่ายๆ เพราะ ศก.เอเชีย ฟื้นตัวเร็ว และการใช้ ดบ.ต่ำ ยังมีความจำเป็น เนื่องจากการลงทุนในภาคเอกชน ยังไม่แข็งแรง
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงการที่ประธานธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ออกมาส่งสัญญาณให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียระวังต่อการเผชิญหน้ากับปัญหาอัตราเงินเฟ้อ หลังตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำนั้น มองว่า มีความเป็นไปได้แต่ไม่ใช่ในปีนี้ เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มเอเชียมีการฟื้นตัวเร็วสุด หลังเผชิญหน้ากับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีโอกาสที่การลงทุนและการบริโภคจะเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันรัฐบาลก็มีการอัดฉีดนโยบายการเงินการคลังลงสู่ระบบเศรษฐกิจ จึงมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาอัตราเงินเฟ้อได้ แต่จะเป็นในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า
ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาการค้าระหว่างประเทศ ม.หอการค้า ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังจำเป็นต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ ร้อยละ 1.25 ต่อไป แม้ภาวะการณ์ลงทุนจะเริ่มส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้น แต่ก็ยังไม่มากเท่ากับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม มองว่า อัตราดอกเบี้ยของไทยมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นในระดับ ร้อยละ 0.25-0.5 ในช่วงหลังไตรมาสที่ 2 ของปีหน้าตามทิศทางการฟื้นตัวของภาคการลงทุนและการบริโภค
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงการที่ประธานธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ออกมาส่งสัญญาณให้ประเทศในภูมิภาคเอเชียระวังต่อการเผชิญหน้ากับปัญหาอัตราเงินเฟ้อ หลังตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำนั้น มองว่า มีความเป็นไปได้แต่ไม่ใช่ในปีนี้ เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มเอเชียมีการฟื้นตัวเร็วสุด หลังเผชิญหน้ากับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีโอกาสที่การลงทุนและการบริโภคจะเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันรัฐบาลก็มีการอัดฉีดนโยบายการเงินการคลังลงสู่ระบบเศรษฐกิจ จึงมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาอัตราเงินเฟ้อได้ แต่จะเป็นในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า
ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาการค้าระหว่างประเทศ ม.หอการค้า ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังจำเป็นต้องคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ ร้อยละ 1.25 ต่อไป แม้ภาวะการณ์ลงทุนจะเริ่มส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้น แต่ก็ยังไม่มากเท่ากับช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม มองว่า อัตราดอกเบี้ยของไทยมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นในระดับ ร้อยละ 0.25-0.5 ในช่วงหลังไตรมาสที่ 2 ของปีหน้าตามทิศทางการฟื้นตัวของภาคการลงทุนและการบริโภค