ราคาวัสดุก่อสร้างขยับขึ้นรับเม็ดเงินลงทุนเมกะโปรเจกต์ภาครัฐ ตามแผนกระตุ้น ศก.เฟส 2 พ่อค้าอ้างต้นทุนพุ่ง ทั้งน้ำมันเตา-ถ่านหิน ผู้รับเหมาแห่ร้องเรียนพาณิชย์ โวยราคา “ปูน-เหล็ก” ขยับขึ้นไม่มีเหตุผล “ยรรยง” เผยต้นเหตุสินค้าวัสดุก่อสร้างปรับขึ้นราคา เพราะมั่นใจภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว แต่หากเป็นการค้ากำไรเกินควร ก็พร้อมจะลงโทษ
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงปัญหาสินค้าวัสดุก่อสร้างปรับขึ้นราคาในช่วงนี้ โดยยอมรับว่า สัปดาห์ที่แล้วมีประชาชนร้องเรียนมาเป็นจำนวนมาก ตนเองจึงได้นำคณะออกสุ่มตรวจสอบราคาวัสดุก่อสร้าง อาทิ ปูนซีเมนต์ และ เหล็กเส้น ซึ่งเชื่อว่า เกิดจากการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มกลับมาดีขึ้น จึงทำให้มีการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน รวมถึงโครงการลงทุนภาครัฐบาลตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ที่จะเริ่มในเดือนกันยายน 2552 นี้
“กรมการค้าภายในได้รับการร้องเรียนจากผู้รับเหมาและประชาชนว่า ราคาสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างเริ่มปรับราคาขึ้นนั้น และจากการสอบถามกลุ่มผู้ค้าวัสดุก่อสร้างระบุว่า ราคาที่แพงขึ้นเป็นผลมาจากต้นทุนผู้ผลิต เช่น น้ำมันเตา ถ่านหิน ทำให้ราคาตั้งแต่กระบวนการผลิตปรับตัวขึ้น เช่น ปูนตราเสือขนาดกระสอบละ 50 กิโลกรัม เดือนกรกฎาคม เฉลี่ยราคาอยู่ที่กระสอบละ 120-125 บาท เดือนสิงหาคมราคาอยู่ที่กระสอบละ 145-150 บาท ปูนปอร์ตแลนด์ เดือนกรกฎาคม ราคาอยู่ที่กระสอบละ 128 บาท เดือนสิงหาคมกระสอบละ 153 บาท”
ขณะที่เพดานที่กรมการค้าภายในดูแลปูนตราเสือเฉลี่ยกระสอบละ 150 บาท ปูนปอร์ตแลนด์กระสอบละ 160 บาท เหล็กเส้นเดือนกรกฎาคม 103 บาท เดือนสิงหาคม 107 บาท อย่างไรก็ตาม ภาพรวมกลุ่มวัสดุก่อสร้าง แม้จะปรับราคาขึ้นแต่ยังอยู่ในเพดานที่กรมฯ ควบคุม
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า กรมไม่ได้นิ่งนอนใจ แม้ราคาวัสดุก่อสร้างจะปรับขึ้นตามแรงฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ แต่ในการดูแลของกรม ยังยึดหลักการทุกฝ่ายต้องมีความเป็นธรรม หากประชาชนพบเห็นร้านค้าปลีกใดขายวัสดุก่อสร้างเกินกว่าเพดานที่กรม กำหนดให้แจ้งสายด่วน 1569 ซึ่งรัฐบาลได้สั่งให้ตรวจสอบราคาอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดการเอาเปรียบ ตามกฎหมายการขายเกินราคาถือว่าสร้างความปั่นป่วน มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
