xs
xsm
sm
md
lg

สนพ.ฉายภาพรวมสถานการณ์น้ำมัน ถกเครื่องมือคุมต้นทุน ศก.วันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้บริหาร สนพ.ยันสถานการณ์ราคาน้ำมันโลกพุ่งทะลุ 73 ดอลลาร์ แค่ระยะสั้น เผยสัญญาณในตลาดล่วงหน้า บ่งชี้ราคาน้ำมันโลกในช่วงปลายปีจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 65-80 ต่อบาร์เรล ย้ำมาตรการตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 28 บาท ถึงสิ้นปี เพื่อประคองภาวะ ศก.ที่ยังเปราะบาง จับตาที่ประชุม กพช.วันนี้ คาดไฟเขียวเพิ่มอำนาจ กบง.บริหาร-ชดเชยราคาก๊าซ “เอ็นจีวี” โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมัน

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันในประเทศ หลังราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้นกว่า 73 ดอลลาร์ต่อบาเรล โดยระบุว่า ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลของไทยจะไม่เกิน 28 บาทต่อลิตร ซึ่งรัฐบาลพยายามตรึงราคาเอาไว้เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน และกระทบต้นทุนการผลิต ซึ่งอาจมีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวช้าลงได้

“แนวโน้มราคาน้ำมันขณะนี้คาดเดายาก แต่ดูราคาในตลาดล่วงหน้าขณะนี้น้ำมันในช่วงปลายปีจะอยู่ที่ 65-80 ต่อบาร์เรล ซึ่งไม่น่าจะทำให้ราคาไบโอดีเซล บี5 ในไทยเกิน 28 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันอยู่ที่ 26.49 บาทต่อลิตร จึงไม่อยากให้ผู้ประกอบการรถโดยสารอ้างราคาน้ำมันในการขึ้นราคาค่าโดยสาร เพราะรัฐบาลลดราคาดีเซลให้แล้ว 2 บาทต่อลิตร และราคาน้ำมันไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว”

ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการให้ผู้ประกอบการรถโดยสารดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรม เพราะพอราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อยจะเรียกร้องปรับราคา แต่ในช่วงราคาน้ำมันลดลงมากๆ เมื่อปลายปีไม่เห็นลดราคาให้ประชาชน และมีผู้ประกอบการบางส่วนหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ที่มีราคาถูกกว่าดีเซลกว่า 2 เท่าตัว

นอกจากนี้ สนพ.จะติดตามราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างความเป็นธรรมทั้งผู้ใช้น้ำมันและผู้ค้าน้ำมัน โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมาค่าการตลาดเฉลี่ยอยู่ที่ 1.61 บาทต่อลิตร ใกล้เคียงปีก่อนที่อยู่ระดับ 1.63 บาทต่อลิตร

สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในวันนี้ กระทรวงพลังงานจะเสนอที่ประชุมพิจารณา 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.ขออนุมัติหลักการให้คณะกรรมการบริหารพลังงาน (กบง.) มีอำนาจบริหารราคาและชดเชยก๊าซเอ็นจีวี โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะอำนาจหน้าที่ของกองทุนน้ำมันปัจจุบันยังไม่ครอบคลุมถึงการชดเชยส่วนต่างราคาเอ็นจีวี

ทั้งนี้ หากที่ประชุม กพช.อนุมัติหลักการแล้วจะแก้ไขคำสั่งนายกรัฐมนตรี เพื่อบังคับใช้ ซึ่งจะทำให้ กบง.มีอำนาจกำกับดูแลการชดเชยราคาเอ็นจีวี ตามมาตรการลดค่าครองชีพประชาชน รวมทั้งมีอำนาจดูแลค่าการตลาด และค่าขนส่งเอ็นจีวีระยะยาว จากเดิมการดูแลราคาเอ็นจีวียังไม่ชัดเจน

ส่วนโครงการราคาเอ็นจีวีที่ต้องชดเชยต้นทุนให้บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) บางส่วนนั้น อยู่ระหว่างหาข้อสรุป คาดเสร็จในสัปดาห์นี้ ซึ่งมี 2 ทางเลือกหลัก คือ 1.ชดเชยเป็นขั้นบันไดตามความเหมาะสม และ 2.ชดเชยครั้งเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น