ผู้บริหาร KBANK คาด กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.25% ยาวถึงกลางปี 53 เพราะต้องการเห็น ศก.ฟื้นตัวที่ชัดเจนมากกว่านี้ ก่อนเข้าสู่ภาวะ ดบ.ขาขึ้น ช่วงครึ่งหลังปี 53 พร้อมคาดการณ์แนวโน้ม ศก.ปีหน้า โตได้ 2-3%
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยขณะนี้มีทิศทางดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก โดยมองว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) ปี 2553 จะสามารถกลับมาเป็นบวกได้ 2-3% ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยพ้นจากภาวะเศรษฐกิจติดลบเรื้อรัง
ขณะที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวเช่นกัน ทำให้มองว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะปรับสูงขึ้นตาม โดยในปี 2553 เป็นปีที่ต้องเปรียบเทียบกับฐานตัวเลขของปี 2552 ที่อยู่ในระดับต่ำ ดังนั้นอัตราเงินเฟ้อปี 2553 อาจเพิ่มขึ้น 3-5% และจะมีผลทำให้ดอกเบี้ยในระบบสูงขึ้นเช่นกัน
นายประสาร มองว่า อัตราดอกเบี้ยในระบบธนาคารพาณิชย์จากนี้ไปจะอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่คงปรับขึ้นในอัตราไม่มากนัก และจะปรับขึ้นอย่งชัดเจนในปี 53 เป็นต้นไป สำหรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าจะยังทรงตัวที่ระดับ 1.25% ไปจนถึงไตรมาส 2 ปี 2553 เนื่องจากทางการต้องการเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างชัดเจนมากขึ้น
แต่มีความเป็นไปได้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปี 2553 เป็นต้นไป เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นประกอบกับดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่คงอยู่ที่ระดับ 0.25% คงจะเริ่มปรับขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับดอกเบี้ยนโยบายของไทย จนทำให้ดอกเบี้ยนโยบายของไทยต้องปรับสูงขึ้น
นายประสาร เสนอแนะว่า อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ระดับต่ำในปัจจุบันนั้น ภาคธุรกิจควรเร่งปรับโครงสร้างหนี้หรือปรับโครงสร้างธุรกิจ ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาทำได้ง่ายกว่าช่วงที่ดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น
"ตอนนี้จุดอ่อนทางการเงิน เช่นการปรับโครงสร้างหนี้ การปรับโครงสร้างธุรกิจ หรือปรับต้นทุนการค้า หากแก้ไขในปีนี้ได้ก็เป็นเรื่องดี ยังแก้ปัญหาได้ไม่ยุ่งยาก เพราะปีนี้เชื่อว่าดอกเบี้ยคงปรับสูงขึ้นไม่มาก แต่ถ้าดอกเบี้ยสูงจะปรับโครงสร้างหนี้ลำบาก" นายประสาร กล่าวสรุปทิ้งท้าย
