ครม.ไฟเขียว คลังชะลอกู้เงินเอดีบี 500 ล้านดอลลาร์ หันมากู้ในประเทศแทน หวังช่วยลดแรงกดดันค่าเงินบาทแข็ง และแก้ปัญหาสภาพล่องล้นระบบ ผ่าทางตันสินเชื่อ เพื่อกระตุ้นการลงทุน เตรียมถกแบงก์รัฐวิสาหกิจ 17 ส.ค.นี้ เร่งปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบ เผยสัญญาณ ศก.ไทยเริ่มดีขึ้น
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้ เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้ชะลอการกู้เงินจากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) วงเงิน 500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการกู้เงินต่างประเทศของรัฐบาล (Program Loan) เนื่องจากกระทรวงการคลังเห็นว่า ขณะนี้สภาพคล่องในประเทศมีจำนวนมากเพียงพอรองรับการกู้เงินของรัฐบาล โดยไม่จำเป็นต้องกู้เงินต่างประเทศ ซึ่งการลดการกู้เงินต่างประเทศยังเป็นอีกแนวทางที่จะช่วยลดแรงกดดันที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า
“ผมได้มีการหารือกับ นายกรัฐมนตรี ถึง พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านบาทที่ทางวุฒิสภาได้มีการรับร่างกฎหมายไปเมื่อวานนี้ โดยสมาชิก ส.ว.ส่วนใหญ่ ได้มีความกังวลในเรื่องการเบิกจ่ายเงินของรัฐบาล ซึ่งทางรัฐบาลยืนยันว่าการกู้เงินมีความจำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะดำเนินการให้มีความโปร่งใสส่วนเรื่องการกู้เงินจากต่างประเทศในขณะนี้ ทางรัฐบาลได้ชะลอการกู้เงินออกไปทั้งหมด ยังคงมีอยู่อย่างเพียงพอ และเป็นแนวทางในการดำเนินงานของรัฐบาลอยู่แล้วในการกู้เงินภายในประเทศ เพื่อซื้อสินค้าทุน และลดแรงกดดันที่จะทำให้ค่าเงินบาทแข็งตัวอีกด้วย”
ก่อนหน้านี้ ครม.อนุมัติให้กระทรวงคลังกู้เงินต่างประเทศภายใต้ Program Loan วงเงินรวม 2,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 70,000 ล้านบาท เป็นการกู้เงินจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ 3 แห่ง คือ ธนาคารโลก 1,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนเอดีบีแบงก์ และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) แห่งละ 500 ล้านดอลลาร์
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่มีการปรับประมาณการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ แต่ยอมรับว่า เศรษฐกิจช่วงไตรมาส 2/52 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบจากไตรมาส 1 ปี 2552 ประมาณ 2% แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดต่อไป และขอติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจไตรมาส 3 ปี 2552 แต่เชื่อว่า สถานการณ์เศรษฐกิจด้านอื่นๆ เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ส่วนการต่ออายุ 5 มาตรการช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชน ยอมรับว่า มีผลกระทบต่อการใช้เงินงบประมาณที่รัฐบาลต้องนำมาใช้อุดหนุน ขณะที่เตรียมเรียกประชุมสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐมาหารือถึงการเร่งการปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบในวันที่ 17 สิงหาคม 2552 นี้