รฟม.กล่อม “ซิโน-ไทย” ลดค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญาที่ 2 ลงอีก 2.3 พันล้าน เหลือวงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่ไจก้ายืดให้คำตอบเงินกู้ ก.ย.นี้
นายชูเกียรติ โพธยานุวัตร ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยความคืบหน้าในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง โดยระบุว่าว่า เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา รฟม.ได้เจรจาต่อรองราคาค่าก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ สัญญาที่ 2 กับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ซึ่งชนะการประมูล และสามารถปรับลดราคาลงเหลือ 13,000 ล้านบาท จาก 15,320 ล้านบาท
ส่วนการเจรจากับผู้รับเหมาสัญญาที่ 3 ได้แก่ กลุ่มพีเออาร์ จอยท์เวนเจอร์ ซึ่งประกอบด้วย บริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่นจำกัด จำกัด (มหาชน) หรือ ASCON บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ PLE และบริษัท รวมนครก่อสร้าง (ประเทศไทย) จำกัด ที่เสนอราคาต่ำสุด 6,399 ล้านบาท คาดว่าจะปรับลดลงได้อีกมาก พร้อมมั่นใจว่าวงเงินค่าก่อสร้างทั้งหมดจะเหลือพอสำหรับสัญญางานระบบราง หลังจากนั้น รฟม.จะสรุปและเสนอคณะกรรมการ ในการประชุมวันที่ 22 กรกฎาคม 2552 นี้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา รฟม.ได้หารือรายละเอียดเงินกู้งานวางรางกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (ไจก้า) อีกครั้ง ซึ่งทางไจก้าแจ้งว่าจะให้การยืนยันการอนุมัติเงินกู้ในเดือนกันยายน 2552 นี้ จึงเชื่อว่าภายในเดือนตุลาคม 2552 นี้ รฟม.จะเปิดประกวดราคางานระบบรางได้ และจะได้ผู้รับงานภายในเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม 2553 และเริ่มดำเนินงานได้ในเดือนเมษายน 2553 โดยใช้เวลาประมาณ 2 ปีครึ่ง และเชื่อว่า กรอบเวลาจะเป็นไปตามแผน
นอกจากนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงยังมีงานระบบและตัวรถไฟฟ้าอีก 17,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยการลงทุนจะเป็นลักษณะ (PPP) คือให้เอกชนเข้าร่วมทุนกับรัฐ โดยตามแผนจะใช้เวลาดำเนินการ 4 ปีครึ่ง เปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 2556 หรือต้นปี 2557 ล่าช้ากว่าแผนเดิมประมาณ 4 เดือน
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า การเจรจาต่อรองราคารถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญาที่ 3 น่าจะมีการปรับลดค่าก่อสร้างได้ประมาณ 10% โดยรวมทั้ง 3 สัญญา คาดว่าจะอยู่ในกรอบวงเงิน 36,550 ล้านบาท ตามที่ที่ ครม.ได้อนุมัติเอาไว้
