ส.อ.ท.ยอมรับไข้หวัด 2009 กระทบภาคบริการ แต่ยังไม่พบในภาคอุตฯ พร้อมให้แนวทางป้องกันตัวเอง โดยส่วนใหญ่มีคลินิกประจำโรงงาน หากพบพนักงานเป็นไข้สูงก็ขอให้หยุดงานทันที
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานการระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในภาคอุตสาหกรรม โดยให้แนวทางแต่ละโรงงานออกมาตรการป้องกันตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีคลินิกประจำโรงงาน ดังนั้น หากพบพนักงานเป็นไข้สูงก็ขอให้หยุดงานทันที
อย่างไรก็ตาม การระบาดดังกล่าวอาจกระทบภาคบริการบ้าง และส่งผลต่อเนื่องในกลุ่มสินค้าที่ระลึก แต่กลุ่มผู้ผลิตหน้ากากและเจล รวมถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจะได้รับผลดี จึงอยากให้รัฐบาลรณรงค์และประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้คนไทยปรับพฤติกรรมในการรักษาความสะอาดต่อไปในระยะยาว
นายสันติ กล่าวถึงการออกพันธบัตรไทยเข้มแข็ง 50,000 ล้านบาท ที่จะเปิดขายวันแรก(13 กรกฎาคม 2552) โดยเชื่อว่า คงจะไม่กระทบต่อสภาพคล่องของภาคเอกชน เนื่องจากปัจจุบันมีสภาพในระบบ 1.1 ล้านล้านบาท ส่วนจะกระตุ้นแศรษฐกิจได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะนำเงินออกมาใช้ได้เร็วแค่ไหน เช่น กระตุ้นการจ้างงาน การสร้างถนน และเห็นว่าปลายปีจะมีงบใหม่ออกมาอีก
ส่วนการประชุมคณะกรรมการภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2552 นั้น นายสันติ กล่าวว่า ทาง ส.อ.ท.จะเสนอถึงปัญหาการฟ้องร้องต่อศาลปกครองสูงสุดในเรื่องสิ่งแวดล้อมของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยองว่าได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการเข้ามาลงทุนของภาคเอกชนอย่างมาก เนื่องจากมีกว่า 30 บริษัทที่อาจชะลอโครงการออกไปทั้งปิโตรเคมีและไฟฟ้า ซึ่งจะกระทบต่อภาคการผลิตอื่นๆ ที่ต้องใช้วัตถุดิบจากกลุ่มผู้ผลิตดังกล่าว
ทั้งนี้ การฟ้องร้องดังกล่าวกลุ่มผู้ฟ้องได้ฟ้องทั้งนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ รวมทั้งฟ้องรัฐมนตรีอีก 4-5 คน ซึ่งต้องรอคำสั่งศาลต่อไป ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะนี้มีคำสั่งซื้อในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยเฉพาะภาคอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มผู้ผลิตรองเท้าเริ่มมีคำสั่งซื้อระยะสั้น เนื่องจากสตอกเก่าหมดลงและผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลแต่ละประเทศ ทำให้เพิ่มกำลังซื้อเพิ่มขึ้น
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานการระบาดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในภาคอุตสาหกรรม โดยให้แนวทางแต่ละโรงงานออกมาตรการป้องกันตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีคลินิกประจำโรงงาน ดังนั้น หากพบพนักงานเป็นไข้สูงก็ขอให้หยุดงานทันที
อย่างไรก็ตาม การระบาดดังกล่าวอาจกระทบภาคบริการบ้าง และส่งผลต่อเนื่องในกลุ่มสินค้าที่ระลึก แต่กลุ่มผู้ผลิตหน้ากากและเจล รวมถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจะได้รับผลดี จึงอยากให้รัฐบาลรณรงค์และประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้คนไทยปรับพฤติกรรมในการรักษาความสะอาดต่อไปในระยะยาว
นายสันติ กล่าวถึงการออกพันธบัตรไทยเข้มแข็ง 50,000 ล้านบาท ที่จะเปิดขายวันแรก(13 กรกฎาคม 2552) โดยเชื่อว่า คงจะไม่กระทบต่อสภาพคล่องของภาคเอกชน เนื่องจากปัจจุบันมีสภาพในระบบ 1.1 ล้านล้านบาท ส่วนจะกระตุ้นแศรษฐกิจได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะนำเงินออกมาใช้ได้เร็วแค่ไหน เช่น กระตุ้นการจ้างงาน การสร้างถนน และเห็นว่าปลายปีจะมีงบใหม่ออกมาอีก
ส่วนการประชุมคณะกรรมการภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2552 นั้น นายสันติ กล่าวว่า ทาง ส.อ.ท.จะเสนอถึงปัญหาการฟ้องร้องต่อศาลปกครองสูงสุดในเรื่องสิ่งแวดล้อมของนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยองว่าได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการเข้ามาลงทุนของภาคเอกชนอย่างมาก เนื่องจากมีกว่า 30 บริษัทที่อาจชะลอโครงการออกไปทั้งปิโตรเคมีและไฟฟ้า ซึ่งจะกระทบต่อภาคการผลิตอื่นๆ ที่ต้องใช้วัตถุดิบจากกลุ่มผู้ผลิตดังกล่าว
ทั้งนี้ การฟ้องร้องดังกล่าวกลุ่มผู้ฟ้องได้ฟ้องทั้งนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ รวมทั้งฟ้องรัฐมนตรีอีก 4-5 คน ซึ่งต้องรอคำสั่งศาลต่อไป ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะนี้มีคำสั่งซื้อในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยเฉพาะภาคอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มผู้ผลิตรองเท้าเริ่มมีคำสั่งซื้อระยะสั้น เนื่องจากสตอกเก่าหมดลงและผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลแต่ละประเทศ ทำให้เพิ่มกำลังซื้อเพิ่มขึ้น