ASTVผู้จัดการรายวัน – บีอีซีเวิลด์เดินเกมกดดันบอร์ด อสมท เผยมีผู้ใหญ่เป็นไอ้โม่งสั่งบอร์ด อสมท ให้ยุติการพิจารณาสัญญาช่อง 3 ใหม่ พร้อมบีบให้ตกลงรับค่าสัมปทาน 2,002 ล้านบาทตามที่ บีอีซีเวิลด์เสนอมา ทุกอย่างจะได้จบด้วยดี บอร์ดใหญ่ไม่หวั่น เผยคณะกรรมการตามพ.ร.บ.ร่วมทุน ยังได้กรรมการไม่ครบ ลั่นตีกรอบ 60 วันน่าจะสรุปได้เผยตัวเลขตอบแทนคิดตั้งแต่เมื่อ20-30ปีที่แล้ว ล้าสมัยเหตุทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป ต้องรื้อกันใหม่
แหล่งข่าวจากบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ยื่นเรื่องขอต่อสัญญาการบริหารช่อง 3 ออกไปอีก 10 ปี ซึ่งจะทำให้สิ้นสุดในปี 2563 กับทางบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในฐานะเจ้าของสัมปทานว่า ในช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าทางคณะกรรมการดำเนินโครงการตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ตามมาตรา 13จะยังไม่เริ่มการประชุมเป็นทางการก็ตาม แต่ก็มีความเคลื่อนไหวตลอดมา
โดยในช่วงนี้ ทางบอร์ด อสมท ได้รับแรงกดดันจากบุคคลภายนอกที่พยายามให้คณะกรรมการฯยอมรับอัตราผลตอบแทนที่ทางบีอีซีเวิลด์เสนอมาที่ประมาณ 2,002ล้านบาท ซึ่งเป็นประเด็นที่ทางคณะกรรมการฯรับไม่ได้ และแม้ว่าจะเป็นผู้ใหญ่มาขอในลักษณะบีบบอร์ด อสมท เพื่อให้ทุกอย่างจบโดยไม่ต้องแก้ไขสัญญา ใช่ว่าทางคณะกรรมการฯต้องยอม เพราะอาจทำให้องค์กรของรัฐเสียผลประโยชน์อย่างมาก และไม่ยุติธรรมกับบริษัทเอกชนรายอื่น
"เรายังคงยืนยัดที่จะปรับอัตราผลตอบแทนค่าสัมปทานให้เหมาะสม ไม่ใช่ 2,002 ล้านบาท โดยตัวเลขที่ออกมาในแต่ละปี ต้องมากหรือไม่ต่ำกว่า ค่าสัมปทานที่ทรูวิชั่นส์จ่ายให้แก่อสมท ถ้าไม่ได้ข้อสรุป ก็อาจจะเปิดประมูลใหม่”
อย่างไรก็ตามทางบอร์ด อสมท เองก็เพียงแต่รับฟังตามมารยาท เพราะยังไม่สามารถที่จะดำเนินการอะไรได้ และทุกอย่างต้องทำไปตามครรลองกฎหมายและความสมเหตุสมผล ค่าสัมปทานที่บีอีซีฯยื่นเสนอมาแค่ 2,002 ล้านบาทในเวลา 10 ปีจากปี 2553-2563 ก็ถือว่าต่ำมากเอาเปรียบ อสมท อย่างมาก และถ้าหากว่าไปวิ่งเต้นผู้ใหญ่ให้มาบีบบอร์ด อสมท อย่างนี้จริงๆแล้วละก็ไม่ถูกต้อง
นอกจากนั้น ทางบอร์ด อสมท ต้องการให้คณะกรรมการฯเป็นตัวแทนของ บอร์ด อสมท และ อสมท ในการทำหน้าที่ศึกษา เจรจา ต่อรองและยื่นเงื่อนไขต่างๆเกี่ยวกับการขอต่อสัญญาบริหารช่อง 3 อีก 10 ปี เป็นผู้เจรจาทั้งหมด
“อำนาจทุกอย่างจะไปอยู่ที่ คณะกรรมการฯ ที่จะต้องดูว่าอะไรเหมาะสม อะไรไม่เหมาะสมในแง่ของรายละเอียดสัญญา” แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับรายชื่อของคณะกรรมการฯนั้น ล่าสุดขณะนี้มีการส่งรายชื่อจากหน่วยงานต้นสังกัดที่ อสมท ทำหนังสือเชิญไปเพื่อให้เข้าร่วมเป็นกรรมการคณะกรรมการดำเนินโครงการตามพระราชบัญญัติว่าด้วย การให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ตามมาตรา 13 แล้วจำนวน 3 หน่วยงานแล้ว
อย่างไรก็ตาม คาดว่ารายชื่อคณะกรรมการจากภายนอก อสมท ทั้งหมด จะครบภายในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งภายหลังจากที่ได้รายชื่อคณะกรรมการฯครบเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างบอร์ด อสมท กับคณะกรรมการดำเนินโครงการตามพระราชบัญญัติว่าด้วย การให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 ตามมาตรา 13นี้ก่อนเพื่อเป็นการมอบหมายนโยบายและแนวทางการทำงาน
“ตรงนี้ ทางบอร์ด อสมท ต้องการให้คณะกรรมการฯชุดนี้ ดำเนินการเป็นเอกเทศและมีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการเจรจา ต่อรองเงื่อนไข และเสนอเงื่อนไขในนาม อสมท เพื่อที่จะนำมาซึ่งประโยชน์ของ อสมท เป็นหลัก ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าอาจจะให้คณะกรรมการฯชุดนี้มีเวลาการทำงานประมาณ 60-90 วัน แต่ถ้าเป็นไปได้อาจจะแค่ 60 วันก็พอแล้ว”
เนื่องจากสัญญาเดิมใกล้จะครบกำหนดเข้ามาทุกทีแล้ว อีกทั้ง อสมท ต้องการที่จะให้การเจรจาเสร็จสิ้นและสรุปได้ภายในบอร์ด อสมท ชุดนี้ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว หากเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เปลี่ยนขั้วรัฐบาลขึ้นมาอีก ก็อาจจะเกิดปัญหาได้ อาจจะถูกฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซงได้ซึ่งเหมือนในอดีตที่มีการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขสัญญาเกิดขึ้นจากฝ่ายการเมืองและสุดท้ายการแก้ไขสัญญานั้นก็ทำให้ อสมท ต้องเสียเปรียบมาตั้งแต่นั้น ดังนั้นครั้งนี้เราต้องป้องกันไว้ก่อนต้องรีบดำเนินการให้เสร็จเร็วภายใต้ความถูกต้อง
ทั้งนี้ประเด็นหลักที่บอร์ด อสมท พุ่งเป้าหมายและให้ความสำคัญมากก็คือ 1.เรื่องของอัตราค่าตอบแทน ที่เริ่มถูกเปิดเผยออกมา ซึ่งทางบีอีซีเวิลด์ ยื่นเสนอมาให้เป็นจำนวนเงินประมาณ 2,002 ล้านกว่าบาท ในช่วงเวลา 10 ปีที่จะขอต่อสัญญาบริหารช่อง 3 และ 2. เรื่องของแผนการลงทุนและปรับปรุงอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆที่ใช้อยู่
แหล่งข่าวกล่าวว่า เรื่องค่าตอบแทนนั้นเป็นที่แน่นอนแล้วว่า บอร์ด อสมท รับไม่ได้กับค่าสัมปทานเพียง 2,002 ล้านกว่าบาท ซึ่งบีอีซีฯจะต้องคิดคำนวณใหม่ โดยเบื้องต้นต้องไม่ต่ำกว่าที่ทรูวิชั่นส์ จ่ายให้กับ อสมท 650 ล้านบาท อย่างที่ทราบกัน
ส่วนแผนการปรับปรุงและลงทุนอุปกรณ์นั้นต้องมีความชัดเจนและกำหนดว่าจะต้องเสร็จเมื่อไรอย่างไร และทรัพย์สินต่างๆจะต้องตกเป็นของ อสมท เมื่อเอกชนหมดสัญญาอย่างไร ให้มีความชัดเจน โดยตามสัญญาเดิมนั้นที่ได้มีการรวมช่วงเวลาของการต่อสัญญาออกไปแล้ว คือปี 2533-2563 แบ่งสัญญาออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่หนึ่ง ช่วงปี 2533-2553 บีอีซีเวิลด์จะต้องขยายเครือข่ายให้กับ อสมท เป็นจำนวน 21 จุด ขณะที่ส่วนที่สองคือ การต่อสัญญาออกไปอีก 10 ปีที่เป็นปัญหาอยู่ทุกวันนี้ ทางบีอีซีเวิลด์จะต้องลงทุนเพิ่มอีกอย่างต่ำ 9 เครือข่าย ซึ่งเป็นการระบุไว้ในกรณีที่ได้มีการต่อสัญญา
“การเสนอเงื่อนไขมาที่ อสมท เพื่อขอต่อสัญญานั้น เงื่อนไขที่กำหนดอยู่ในสัญญาเดิม ของ สัญญาร่วมดำเนินกิจการส่งโทรทัศน์สี แก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2532 เป็นสิ่งที่ทำกันขึ้นมาในอดีต โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตจากนั้นจะเป็นอย่างไร ทั้งในเรื่องของค่าเงินที่เปลี่ยนไป สถานการณ์ทางการแข่งขันของธุรกิจฟรีทีวี
และสื่อใหม่ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว และล้วนแต่ส่งผลกระทบในภาพรวมกับ อสมท ด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นควรที่จะต้องมีการแก้ไขสัญญากันใหม่ หากจะมีการต่อสัญญากันเกิดขึ้น เพื่อความชอบธรรม และทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับปัจจุบัน” แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวให้ความเห็นว่า แม้ว่าบอร์ด อสมท ต้องการที่จะให้สัญญาใหม่มีความชัดเจนและพิทักษ์ผลประโยชน์ของ อสมท ให้มากที่สุดก็ตาม ในแง่กฎหมายแล้ว คงต้องมาดูกันอีกทีว่า อสมท มีช่องทางที่จะทำได้มากน้อยแค่ไหน สัญญาเดิมมีข้อจำกัดอะไรบ้างหรือเปล่า บางครั้งเราอาจจะต้องการได้ค่าตอบแทนมากขึ้น แต่ทำได้หรือไม่ อย่างไร แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าสัญญาเดิมที่ใช้อยู่นั้นกำหนดตัวเลขมานานมากแล้วคือ 2,002 ล้านกว่าบาท กับสถานการณ์ในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปมากแล้ว
โดยเฉพาะค่าโฆษณา ซึ่งเมื่อ 20 - 30 ปีที่แล้วอัตราค่าโฆษณาก็อีกเรตหนึ่งต่างจากปัจจุบัน รวมทั้งค่าเงินบาทที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งในอดีตใครจะรู้ว่าอีก 30 ปี จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เงินบาทจะเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเมื่อถึงปัจจุบันนี้ต้องมีการคิดคำนวณใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับค่าเงิน อัตรารายได้จากค่าโฆษณาและสถานการณ์ปัจจุบันด้วยซึ่งว่ากันว่าเดี๋ยวนี้ค่าโฆษณาขอช่อง 3 โดยเฉพาะรายการข่าวและละครหลังข่าวก็เฉลี่ย 200,000 ถึง400,000 บาทต่อนาทีแล้ว เพราะสิ่งเหล่านี้มันคือรายได้ที่ บีอีซีเวิลด์จะได้รับและจะเกี่ยวพันกับรายได้ที่จ่ายค่าสัมปทานให้กับ อสมท ด้วย
“ตรงนี้คือสิ่งสำคัญที่ต้องแก้ไขสัญญากันใหม่ในรายละเอียดของสัญญาการต่ออายุสัมปทานบริหารช่อง 3 ถ้าหากบีอีซีเวิลด์ต้องการบริหารต่อ” แหล่งข่าวกล่าว