คาร์ฟูร์ ปลื้ม เฮาส์แบรนด์ฉลุยรับเศรษฐกิจฝืดกำลังซื้อหด เตรียมขยายสินค้ากลุ่มใหม่ๆ หลังปีนี้เข็นออกมาแล้ว 2,000รายการ ย้ำไม่เคยมากเท่านี้มาก่อน รวมกว่า 5,000รายการแล้ว พร้อมร่วมมือกระทรวงพาณิชย์รับซื้อผลไม้ไทยช่วยเกษตรกร และส่งขายต่างประเทศ
นางสาวประภาพรรณ พลอยแสงงาม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด คาร์ฟูร์ บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดเฮาส์แบรนด์มีการเติบโตต่อเนื่อง จากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้สินค้าที่มีราคาต่ำแต่มีคุณภาพที่ดีซึ่งหลังจากที่คาร์ฟูร์ได้ปรับตัวและทำการรีลอนช์เฮาส์แบรนด์ใหม่ในช่วงที่ผ่านมาเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการได้ทำให้ยอดขายเฮาส์แบรนด์ของคาร์ฟูร์ที่มีราค่ำกว่าแบรนด์เนม 20% เป็นไปด้วยดี
ทั้งนี้สิ้นปีที่แล้วคาร์ฟูร์มีปริมาณสินค้าเฮาส์แบรนด์ 3,000 รายการ ปีนี้เพิ่มเป็น 5,000รายการแล้ว ซึ่งยังไม่เคยมีการเพิ่มปริมาณมากถึงขนาดนี้มาก่อนและเตรียมขยายในกลุ่มที่ยังไม่เคยทำมาก่อนเช่น อุปกรณ์ทำความสะอาด อาหารเช้า เป็นต้น ซึ่งล่าสุดเพิ่มออกสินค้าเกี๊ยวกุ้ง มาจำหน่าย ขณะที่สัดส่วนปริมาณสินค้าเฮาส์แบรนด์เวลานี้มีประมาณ 14%
ซึ่งเพิ่มมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้เดิมว่าปีนี้ทั้งปีจะมีที่ 12% ทั้งที่ผ่านมาเพียงแค่ครึ่งปีเอง เพิ่มจากสิ้นปีที่แล้วที่มีประมาณ 6% เท่านั้นเอง รวมทั้งการที่คาร์ฟูร์ได้จัดรายการเอฟวรี่เดย์โลว์ไพร้ซ์ เพื่อกระตุ้นการจับจ่าย นำสินค้ามาลดราคา ประมาณ 25 รายการ แล้วแต่ช่วงๆ ยืนราคา 3-6 เดือนแต่ละรอบ โดยแบ่งเป็นสินค้าอุปโภคซึ่งจำหน่ายเฮาส์แบรนด์ของคาร์ฟูร์เอง ส่วนสินค้าผักผลไม้เป็นของซัปพลายเออร์ ซึ่งโดยภาพรวมของเฮาส์แบรนด์คาร์ฟูร์สินค้ากลุ่มที่มีการเติบโตมากคือ อาหารเช่น ข้าวสารน้ำมันพืช ผงซักฟอก เป็นต้น
สำหรับช่วง 5 เดือนแรกของปี 2552 คาร์ฟูร์มียอดขายรวมเติบโต 10% ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เนื่องมาจากการขยายสาขาใหม่ 3แห่งตั้งแต่ต้นปี และมาจากสาขาเดิมที่เติบโต 5% ทั้งนี้ปีนี้จะยังคงเปิดสาขาเพิ่มอีก 7 สาขา ตามเป้าหมายเดิมที่ปีนี้จะเปิด 10 สาขา จากปัจจุบันมีสาขารวม 32 แห่ง และจะใช้งบตลาดรวม 440 ล้านบาท ทำการตลาด เน้นหนักไปที่สื่อสิ่งพิมพ์ เช่นโบรชัวร์ แคตตาล็อก เป็นต้น
นางประภาพรรณ กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างคาร์ฟูร์กับกระทรวงพาณิชย์ในโครงการ “ถูก..สด..สะอาด จากสวน มาตรฐานคาร์ฟูร์” ว่า คาร์ฟูร์ได้ลงนามในสัญญากับทางกระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยเกษตรกรแก้ไขปัญหาผลไม้ล้นตลาดและราคาตกต่ำตามฤดูกาล โดยจะรับซื้อผลไม้มากกว่า 5,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ตามฤดูกาลครั้งล่าสุดนี้
ส่วนตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงเดือนพฤษภาคมคาร์ฟูร์มียอดสั่งซื้อผลไม้กว่า 5,000 ตัน รวมมูลค่า 150 ล้านบาทแล้ว นอกจากนั้นยังมีหน่วยงานโกลบอลซอร์สซิ่งที่อยู่ในไทยในการหาสินค้าที่มีคุณภาพราคาดีส่งไปขายที่คาร์ฟูร์ต่างประเทศด้วย ซึ่งที่ผ่านมามีการเติบโต 20% และคาดว่าปีนี้จะเพิ่มเป็น 3 เท่า เนื่องจากตลาดเก่าที่เติบโตเช่น จีน ไต้หวัน อินโดนีเซีย และยังขยายตลาดใหม่อีก ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับคาร์ฟูร์ในยุโรปว่าจะสั่งซื้อปริมาณสินค้ามากน้อยเท่าใด
นางสาวประภาพรรณ พลอยแสงงาม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด คาร์ฟูร์ บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดเฮาส์แบรนด์มีการเติบโตต่อเนื่อง จากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้สินค้าที่มีราคาต่ำแต่มีคุณภาพที่ดีซึ่งหลังจากที่คาร์ฟูร์ได้ปรับตัวและทำการรีลอนช์เฮาส์แบรนด์ใหม่ในช่วงที่ผ่านมาเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการได้ทำให้ยอดขายเฮาส์แบรนด์ของคาร์ฟูร์ที่มีราค่ำกว่าแบรนด์เนม 20% เป็นไปด้วยดี
ทั้งนี้สิ้นปีที่แล้วคาร์ฟูร์มีปริมาณสินค้าเฮาส์แบรนด์ 3,000 รายการ ปีนี้เพิ่มเป็น 5,000รายการแล้ว ซึ่งยังไม่เคยมีการเพิ่มปริมาณมากถึงขนาดนี้มาก่อนและเตรียมขยายในกลุ่มที่ยังไม่เคยทำมาก่อนเช่น อุปกรณ์ทำความสะอาด อาหารเช้า เป็นต้น ซึ่งล่าสุดเพิ่มออกสินค้าเกี๊ยวกุ้ง มาจำหน่าย ขณะที่สัดส่วนปริมาณสินค้าเฮาส์แบรนด์เวลานี้มีประมาณ 14%
ซึ่งเพิ่มมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้เดิมว่าปีนี้ทั้งปีจะมีที่ 12% ทั้งที่ผ่านมาเพียงแค่ครึ่งปีเอง เพิ่มจากสิ้นปีที่แล้วที่มีประมาณ 6% เท่านั้นเอง รวมทั้งการที่คาร์ฟูร์ได้จัดรายการเอฟวรี่เดย์โลว์ไพร้ซ์ เพื่อกระตุ้นการจับจ่าย นำสินค้ามาลดราคา ประมาณ 25 รายการ แล้วแต่ช่วงๆ ยืนราคา 3-6 เดือนแต่ละรอบ โดยแบ่งเป็นสินค้าอุปโภคซึ่งจำหน่ายเฮาส์แบรนด์ของคาร์ฟูร์เอง ส่วนสินค้าผักผลไม้เป็นของซัปพลายเออร์ ซึ่งโดยภาพรวมของเฮาส์แบรนด์คาร์ฟูร์สินค้ากลุ่มที่มีการเติบโตมากคือ อาหารเช่น ข้าวสารน้ำมันพืช ผงซักฟอก เป็นต้น
สำหรับช่วง 5 เดือนแรกของปี 2552 คาร์ฟูร์มียอดขายรวมเติบโต 10% ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เนื่องมาจากการขยายสาขาใหม่ 3แห่งตั้งแต่ต้นปี และมาจากสาขาเดิมที่เติบโต 5% ทั้งนี้ปีนี้จะยังคงเปิดสาขาเพิ่มอีก 7 สาขา ตามเป้าหมายเดิมที่ปีนี้จะเปิด 10 สาขา จากปัจจุบันมีสาขารวม 32 แห่ง และจะใช้งบตลาดรวม 440 ล้านบาท ทำการตลาด เน้นหนักไปที่สื่อสิ่งพิมพ์ เช่นโบรชัวร์ แคตตาล็อก เป็นต้น
นางประภาพรรณ กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างคาร์ฟูร์กับกระทรวงพาณิชย์ในโครงการ “ถูก..สด..สะอาด จากสวน มาตรฐานคาร์ฟูร์” ว่า คาร์ฟูร์ได้ลงนามในสัญญากับทางกระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยเกษตรกรแก้ไขปัญหาผลไม้ล้นตลาดและราคาตกต่ำตามฤดูกาล โดยจะรับซื้อผลไม้มากกว่า 5,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ตามฤดูกาลครั้งล่าสุดนี้
ส่วนตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงเดือนพฤษภาคมคาร์ฟูร์มียอดสั่งซื้อผลไม้กว่า 5,000 ตัน รวมมูลค่า 150 ล้านบาทแล้ว นอกจากนั้นยังมีหน่วยงานโกลบอลซอร์สซิ่งที่อยู่ในไทยในการหาสินค้าที่มีคุณภาพราคาดีส่งไปขายที่คาร์ฟูร์ต่างประเทศด้วย ซึ่งที่ผ่านมามีการเติบโต 20% และคาดว่าปีนี้จะเพิ่มเป็น 3 เท่า เนื่องจากตลาดเก่าที่เติบโตเช่น จีน ไต้หวัน อินโดนีเซีย และยังขยายตลาดใหม่อีก ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับคาร์ฟูร์ในยุโรปว่าจะสั่งซื้อปริมาณสินค้ามากน้อยเท่าใด