xs
xsm
sm
md
lg

“สาทิตย์” จับตาเข้ม “เรดนิวส์” วางแผง เชื่อหวังระดมพลก่อนชุมนุมใหญ่ปลายเดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ
“รัฐมนตรีคุมสื่อ” สั่งจับตาหนังสือพิมพ์หัวแดง หลังออกฉบับแรกมีเนื้อหารุนแรง เชื่อเป็นแผนใช้ระดมพลก่อนชุมนุมปลายเดือน โบ้ยสื่อสิ่งพิมพ์ต้องตรวจสอบกันเอง

วันนี้ (5 มิ.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงวางแผงหนังสือพิมพ์ “ไทย เรด นิวส์” ฉบับแรกโดยมีเนื้อหาค่อนข้างรุนแรง และมีเรื่องเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า ตนยังไม่อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว ซึ่งหลายฝ่ายก็รู้สึกเป็นห่วง เพราะเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ผลกระทบครั้งนั้นยังต้องกอบกู้ถึงปัจจุบัน เพราะฉะนั้นหากเขาดำเนินการในเชิงสื่อออกมาให้ฝ่ายหลายวิตกกังวล คงเป็นเรื่องที่จะต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ คนที่ทำสื่อสิ่งพิมพ์ควรคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย สื่อสารมวลชนควรมีเนื้อหาเพื่อสังคมมากกว่าใช้เป็นเครื่องมือ อย่างนั้นจะกลายเป็นสื่อเทียมนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงได้ อันนี้คือสิ่งที่เรากังวล

เมื่อถามว่า จะจับดูเนื้อหาเป็นพิเศษหรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ต้องดู เพราะประสบการณ์จากเดือน เม.ย.บอกว่า เป็นเรื่องที่ไว้วางใจไม่ได้ ต้องดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เมื่อถามว่าประเมินหรือไม่ว่ากลุ่มเสื้อแดงใช้สื่อนี้ระดมคนในช่วงปลายเดือนที่จะมีการชุมนุมใหญ่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า คิดว่า มีส่วนสัมพันธ์โยงใย ซึ่งเราก็เป็นห่วงและทุกฝ่ายจับตาดูอยู่ เราไม่อยากให้การชุมนุมซ้ำรอย และบานปลายวุ่นวายกลางเมือง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสังคม วันนี้ตนได้หารือกับหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะกับอนุกรรมการ กทช.ซึ่งเขาทำเรื่องระเบียบวิทยุชุมชน ขอให้เขามีการไปดำเนินการจดทะเบียนให้เป็นไปตามกฎหมายโดยเร็ว เพื่อให้วิทยุชุมชนเข้าสู่ระเบียบที่สามารถควบคุมได้ ที่ผ่านมา เสรีมาก แต่มีหลายสถานีถูกจัดการแล้ว แต่ก็ยังมีสถานีที่จับตาดูอยู่

“ในส่วนสื่อของรัฐเราได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องการติดตามสถานการณ์ สิ่งหนึ่งที่เราอยากให้สื่อออกไปคือความกังวลของคนทุกภาคส่วนต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศในเวลาที่ผ่านมา ขอให้ทุกภาคส่วนระมัดระวังการเคลื่อนไหวด้วย” นายสาทิตย์ กล่าว

เมื่อถามว่า นอกจากจับตาเรดนิวส์ ในส่วนหนังสือพิมพ์ผู้จัดการเอเอสทีวี จะทำอย่างไร นายสาทิตย์ กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเนื้อหา ถ้าเนื้อหานำไปสู่การทำผิดกฎหมาย ก็ชอบที่หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการ สื่อสิ่งพิมพ์ในหลักการต้องให้ควบคุมกันเอง ถ้าเกินเลยล้ำเส้นต้องเป็นมาตรการทางกฎหมาย แต่ปัจจุบันยังไม่พบว่าผิดกฎหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น