ยาสีฟันเพื่อการรักษามาแรง เติบโตต่อปีไม่ต่ำกว่า 20% “สกินเน็กซ์” ส่ง “ออโทเด็นเน็กซ์” ยาสีฟันเพื่อคนจัดฟัน ชิงแชร์ 150 ล้านบาทใน 12 เดือน ส่วนภาพรวมรายได้คาดทะลุ 200 ล้านบาท ในสิ้นปีนี้
นางณัทญา เธียรเชาวน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สกินเน็กซ์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องสำอางในรูปแบบโออีเอ็ม เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีที่ผ่านมา แต่ช่วงเวลา 4-5 เดือนนี้ สำหรับบริษัทแล้ว ยอดรายได้ยังเติบโตได้ดีอยู่ประมาณ 10-15% โดยลูกค้ายังมีการสั่งผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดเครื่องสำอางยังเติบโตดีและไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจแต่อย่างไร
ทั้งนี้ บริษัทดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิตเครื่องสำอางมากว่า 8 ปี ทั้งเครื่องสำอางทั่วไป และกลุ่มสปา โดยแต่ละปีพบว่าธุรกิจมีอัตราการเติบโตได้เรื่อยๆ ไม่ได้หวือหวา ดังนั้นจึงได้มีการศึกษาตลาดกลุ่มยาสีฟัน เพราะพบว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจ ภาพรวมตลาดมูลค่า 5,500 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 2% โดยในเซกเม้นท์ยาสีฟันประเภทเพื่อการรักษา ซึ่งมีมูลค่าตลาดกว่า 1,500 ล้านบาทนั้น ช่วงปีที่ผ่านมาพบว่ามีอัตราการเติบโตสูงถึง 20%
ส่งผลให้บริษัทตัดสินใจเข้ามาทำตลาดยาสีฟันกลุ่มนี้ โดยการเปิดตัว ยาสีฟันสำหรับคนดัดฟันขึ้น ภายใต้ชื่อ “ออโทเด็นเน็กซ์” เชื่อว่า จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยภายในปีแรกมั่นใจว่าจะสร้างรายได้ให้ถึง 150 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมรายได้สิ้นปีนี้เชื่อว่าจะประมาณ 200 ล้านบาท มาจากยาสีฟันออโทเด็นเน็กซ์ 70% และโออีเอ็มผลิตเครื่องสำอางอีก 30% ขณะที่ปีก่อนมีรายได้รวมประมาณ 70 ล้านบาท มาจากโออีเอ็มอย่างเดียว เชื่อว่าออโทเด็นเน็กซ์ จะเป็นหัวหอกสำคัญในการทำรายได้ต่อไป
นายณัฐพล จิตประไพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สกินเน็กซ์ จำกัด กล่าวต่อว่า ในส่วนของออโทเด็นเน็กซ์ เบื้องต้น บริษัทได้วางงบประมาณไว้ที่ 10 ล้านบาท สำหรับสร้างการรับรู้ โดย 30% จะใช้ด้านR&D และอีก 70% เป็นการทำตลาดทั่วๆไป ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น จะเป็น คลีนิคและโรงพยาบาลทั่วไป โดยขายผ่านตัวแทนจำหน่าย แบ่งรายได้มาจากการขายให้องค์กรที่ 70% และอีก 30%
เป็นการจำหน่ายเพื่อบุคคลที่ดัดฟันโดยตรง ทั้งนี้ หากผลตอบรับดี ทางบริษัทจะเพิ่มช่องทางจำหน่ายไปยังโมเดิร์นเทรดต่อไป ขณะที่ราคาจำหน่ายนั้น จะมี 2 ขนาด คือ 100 กรัม ราคา 180 บาท และ 40 กรัม ราคา 75 บาท ซึ่งราคาที่จำหน่ายนี้ เมื่อเทียบกับยาสีฟันทั่วไปแล้ว จะสูงกว่า 20%
ปัจจุบันจากข้อมูลของทาง เอซี เนลสัน พบว่า ตลาดยาสีฟันมีมูลค่าราว 5,500 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม คือ ยาสีฟันสำหรับเด็ก มูลค่า 180 ล้านบาท, ยาสีฟันเพื่อฟันขาว มูลค่า 348 ล้านบาท, ยาสีฟันเพื่อการรักษา มูลค่า 1,500 ล้านบาท, ยาสีฟันสมุนไพร มูลค่า 1,120 ล้านบาท และยาสีฟันทั่วไปมูลค่า 2,375 ล้านบาท
นางณัทญา เธียรเชาวน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สกินเน็กซ์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องสำอางในรูปแบบโออีเอ็ม เปิดเผยว่า ภายใต้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีที่ผ่านมา แต่ช่วงเวลา 4-5 เดือนนี้ สำหรับบริษัทแล้ว ยอดรายได้ยังเติบโตได้ดีอยู่ประมาณ 10-15% โดยลูกค้ายังมีการสั่งผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดเครื่องสำอางยังเติบโตดีและไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจแต่อย่างไร
ทั้งนี้ บริษัทดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิตเครื่องสำอางมากว่า 8 ปี ทั้งเครื่องสำอางทั่วไป และกลุ่มสปา โดยแต่ละปีพบว่าธุรกิจมีอัตราการเติบโตได้เรื่อยๆ ไม่ได้หวือหวา ดังนั้นจึงได้มีการศึกษาตลาดกลุ่มยาสีฟัน เพราะพบว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจ ภาพรวมตลาดมูลค่า 5,500 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 2% โดยในเซกเม้นท์ยาสีฟันประเภทเพื่อการรักษา ซึ่งมีมูลค่าตลาดกว่า 1,500 ล้านบาทนั้น ช่วงปีที่ผ่านมาพบว่ามีอัตราการเติบโตสูงถึง 20%
ส่งผลให้บริษัทตัดสินใจเข้ามาทำตลาดยาสีฟันกลุ่มนี้ โดยการเปิดตัว ยาสีฟันสำหรับคนดัดฟันขึ้น ภายใต้ชื่อ “ออโทเด็นเน็กซ์” เชื่อว่า จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยภายในปีแรกมั่นใจว่าจะสร้างรายได้ให้ถึง 150 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมรายได้สิ้นปีนี้เชื่อว่าจะประมาณ 200 ล้านบาท มาจากยาสีฟันออโทเด็นเน็กซ์ 70% และโออีเอ็มผลิตเครื่องสำอางอีก 30% ขณะที่ปีก่อนมีรายได้รวมประมาณ 70 ล้านบาท มาจากโออีเอ็มอย่างเดียว เชื่อว่าออโทเด็นเน็กซ์ จะเป็นหัวหอกสำคัญในการทำรายได้ต่อไป
นายณัฐพล จิตประไพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สกินเน็กซ์ จำกัด กล่าวต่อว่า ในส่วนของออโทเด็นเน็กซ์ เบื้องต้น บริษัทได้วางงบประมาณไว้ที่ 10 ล้านบาท สำหรับสร้างการรับรู้ โดย 30% จะใช้ด้านR&D และอีก 70% เป็นการทำตลาดทั่วๆไป ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายนั้น จะเป็น คลีนิคและโรงพยาบาลทั่วไป โดยขายผ่านตัวแทนจำหน่าย แบ่งรายได้มาจากการขายให้องค์กรที่ 70% และอีก 30%
เป็นการจำหน่ายเพื่อบุคคลที่ดัดฟันโดยตรง ทั้งนี้ หากผลตอบรับดี ทางบริษัทจะเพิ่มช่องทางจำหน่ายไปยังโมเดิร์นเทรดต่อไป ขณะที่ราคาจำหน่ายนั้น จะมี 2 ขนาด คือ 100 กรัม ราคา 180 บาท และ 40 กรัม ราคา 75 บาท ซึ่งราคาที่จำหน่ายนี้ เมื่อเทียบกับยาสีฟันทั่วไปแล้ว จะสูงกว่า 20%
ปัจจุบันจากข้อมูลของทาง เอซี เนลสัน พบว่า ตลาดยาสีฟันมีมูลค่าราว 5,500 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม คือ ยาสีฟันสำหรับเด็ก มูลค่า 180 ล้านบาท, ยาสีฟันเพื่อฟันขาว มูลค่า 348 ล้านบาท, ยาสีฟันเพื่อการรักษา มูลค่า 1,500 ล้านบาท, ยาสีฟันสมุนไพร มูลค่า 1,120 ล้านบาท และยาสีฟันทั่วไปมูลค่า 2,375 ล้านบาท