ธ.กสิกรไทย เตรียมพิจารณาลดดอกเบี้ยบัตรเครดิต พร้อมประเมินพฤติกรรมลูกค้า-วิธีทำธุรกิจของแบงก์ เน้นดูแลลูกค้าใกล้ชิดมากกว่าการมองเป็นผู้ถือบัตร ส่วนเอ็นพีแอลอยู่ที่ 2.05% ตั้งเป้าเพิ่มอีก 3 แสนใบ เพิ่มเป็น 1.5 ล้านใบ
นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บัตรเครดิตหรือไม่ โดยต้องพิจารณาถึงสถานะทางการเงินของธนาคาร เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าและวิธีการทำธุรกิจของแต่และธนาคารมีความแตกต่างกัน เพราะธนาคารดำเนินธุรกิจครบวงจร ไม่ได้ทำธุรกิจประเภทบัตรเครดิตเพียงอย่างเดียว ยังมีการทำธุรกิจด้านอื่นอีกมากมาย บัตรเครดิตจึงเป็นเพียง 1 ในผลิตภัณฑ์ของธนาคาร โดยธนาคารจะดูแลลูกค้าบัตรเครดิตให้มากกว่าที่จะมองว่าเป็นเพียงผู้ถือบัตรเท่านั้น
สำหรับในครึ่งปีหลังธนาคารจำเป็นต้องดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมองว่าจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น รวมทั้งตัวเลขบัตรเครดิตในระยะนี้ไม่สามารถเติบโตได้เท่าที่ควร และเป็นเช่นเดียวกับธนาคารในระบบ ธนาคารจึงได้มีการเปลี่ยนฐานเงินเดือนของผู้สมัครบัตรเครดิต จากเดิมต้องมีฐานเงินเดือนจาก 15,000 บาท เพิ่มเป็น 20,000 บาทต่อเดือน ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2552 ที่ผ่านมา
สำหรับยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในส่วนของบัตรเครดิตอยู่ที่ร้อยละ 2.05 โดยทั้งปีตั้งเป้าไว้ไม่เกินร้อยละ 2.5 ทั้งนี้ ธนาคารยังต้องติดตามกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด โดยมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมเอ็นพีแอลทั้งปีตามที่ตั้งไว้ได้ตามเป้าหมาย และยังได้ ตั้งเป้าบัตรเครดิตปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 3 แสนใบ จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.2 ล้านใบ ด้วยการหาพันธมิตรใหม่ ร่วมมือกับสายการบินไทยแอร์เอเชียเปิดตัวบัตรเครดิตร่วม แอร์เอเชีย-กสิกรไทย ตั้งเป้าไว้ 1 แสนใบภายใน 1 ปี เชื่อว่าในส่วนนี้จะเป็นยอดที่สามารถผลักดันให้มีผู้ใช้บริการบัตรเครดิตได้ตามจำนวนที่คาดการณ์ไว้
นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้บัตรเครดิตหรือไม่ โดยต้องพิจารณาถึงสถานะทางการเงินของธนาคาร เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าและวิธีการทำธุรกิจของแต่และธนาคารมีความแตกต่างกัน เพราะธนาคารดำเนินธุรกิจครบวงจร ไม่ได้ทำธุรกิจประเภทบัตรเครดิตเพียงอย่างเดียว ยังมีการทำธุรกิจด้านอื่นอีกมากมาย บัตรเครดิตจึงเป็นเพียง 1 ในผลิตภัณฑ์ของธนาคาร โดยธนาคารจะดูแลลูกค้าบัตรเครดิตให้มากกว่าที่จะมองว่าเป็นเพียงผู้ถือบัตรเท่านั้น
สำหรับในครึ่งปีหลังธนาคารจำเป็นต้องดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมองว่าจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงทำให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น รวมทั้งตัวเลขบัตรเครดิตในระยะนี้ไม่สามารถเติบโตได้เท่าที่ควร และเป็นเช่นเดียวกับธนาคารในระบบ ธนาคารจึงได้มีการเปลี่ยนฐานเงินเดือนของผู้สมัครบัตรเครดิต จากเดิมต้องมีฐานเงินเดือนจาก 15,000 บาท เพิ่มเป็น 20,000 บาทต่อเดือน ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2552 ที่ผ่านมา
สำหรับยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในส่วนของบัตรเครดิตอยู่ที่ร้อยละ 2.05 โดยทั้งปีตั้งเป้าไว้ไม่เกินร้อยละ 2.5 ทั้งนี้ ธนาคารยังต้องติดตามกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด โดยมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมเอ็นพีแอลทั้งปีตามที่ตั้งไว้ได้ตามเป้าหมาย และยังได้ ตั้งเป้าบัตรเครดิตปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 3 แสนใบ จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.2 ล้านใบ ด้วยการหาพันธมิตรใหม่ ร่วมมือกับสายการบินไทยแอร์เอเชียเปิดตัวบัตรเครดิตร่วม แอร์เอเชีย-กสิกรไทย ตั้งเป้าไว้ 1 แสนใบภายใน 1 ปี เชื่อว่าในส่วนนี้จะเป็นยอดที่สามารถผลักดันให้มีผู้ใช้บริการบัตรเครดิตได้ตามจำนวนที่คาดการณ์ไว้
