ASTVผู้จัดการรายวัน - กสิกรไทยตั้งเป้าสินเชื่อรายย่อยโต 14-15% ระบุใช้สินเชื่อบ้านหลักในการเติบโตตั้งเป้าที่ 13% ขณะที่บัตรเครดิตโต 7% เผยยังไม่พิจารณาใช้กลยุทธฟรีค่าธรรนเนียม-แข่งขันด้านราคา หันเสนอมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญ "ฝากได้ทุกเรื่องกับ KBank" เน้นบริการครบวงจรด้วยเครือธนาคารกสิกรไทย
นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK)เปิดเผยว่า ในปีนี้ธนาคารได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยที่ระดับ 14-15% จากยอดสินเชื่อคงค้างเมื่อสิ้นปี 2552 ที่ระดับ 1.6 แสนล้านบาท ซึ่งธนาคารจะยังคงเน้นการเติบโตจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยซึ่งมีสัดส่วนมากที่สุดในสินเชื่อรายย่อยเป็นหลัก ส่วนที่เหลือจะเป็นการเติบโตจากสินเชื่อบัตรเครดิต รวมถึงสินเชื่อบุคคล
ทั้งนี้ ในส่วนของสินเชื่อที่อยู่อาศัยนั้น ธนาคารตั้งเป้าหมายเติบโต 13% จากเมื่อสิ้นปี 2552 ที่มียอดสินเชื่อคงค้างที่ระดับ 1.26 แสนล้านบาท ซึ่งธนาคารจะใช้กลยุทธ์ในการร่วมกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำเพื่อให้บริการด้านสินเชื่อ
ส่วนสินเชื่อบัตรเครดิตนั้น ธนาคารตั้งเป้าอัตราการเติบโตที่ 7% จากยอดสินเชื่อคงค้างในสิ้นปีที่ผ่านมาที่ระดับ 2.7 หมื่นล้านบาท พร้อมกันนั้นตั้งเป้าเพิ่มจำนวนบัตรเครดิตในปีนี้อีก 4 แสนใบ หรือเพิ่มเป็น 1.7-18 ล้านบาท จากสิ้นปี 2552 มีบัตรเครดิตอยู่ที่ประมาณ 1.4 ล้านใบ ขณะที่ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่มีการใช้สม่ำเสมออยู่ที่ระดับประมาณ 1.2 หมื่นบาทต่อใบ ส่วนสินเชื่อบุคคลตั้งเป้าหมายเติบโตไว้ที่ 10% จากยอดสินเชื่อคงค้างในสิ้นปีที่แล้วอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท
ด้านสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายควบคุมเอ็นพีแอลของสินเชื่อรายย่อยไว้ที่ 2.2% จากสิ้นปี 2552 อยู่ที่ 2% ซึ่งแม้ว่าธนาคารจะมีการขยายสินเชื่อรายย่อยอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีการระมัดระวังและเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่นกัน
นอกจากนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายขยายสาขาเพิ่มอีก 30 สาขา จากปัจจุบันที่มีสาขาอยู่ที่ประมาณกว่า 800 สาขา และจากปีก่อนธนาคารขยายสาขาเพิ่ม 120 สาขา ซึ่งการขยายสาขาเพิ่มก็ส่งผลดี ทำให้จำนวนลูกค้าของธนาคารเพิ่มขึ้นด้วย รวมทั้งธนาคารตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนตู้เอทีเอ็มปีนี้อีก 500 ตู้ เป็น 7,500 ตู้ทั่วประเทศ จากสิ้นปีก่อนที่มี 7,000 ตู้
นายกฤษฎา กล่าวว่า เนื่องจากในปีนี้ธนาคารให้ความสำคัญในการขยายฐานลูกค้าบุคคลใหม่เพิ่มอีก 2 ล้านราย จากฐานลูกค้าในปัจจุบันที่ 7.7 ล้านราย และรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 36% จึงได้เน้นพัฒนาด้านการให้บริการ โดยเริ่มจากโครงการ "ฝากได้ทุกเรื่องกับ KBank" เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจและไว้วางใจในการ "ฝาก"ทุก ๆ เรื่องไว้กับเครือธนาคารกสิกรไทย ประกอบด้วย ฝากดูแลทางการเงิน ตั้งแต่ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล จนถึงการให้คำแนะนำทางด้านการลงทุน ฝากอนาคตทางการเงิน เพื่อให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายในชีวิต ผ่านบริการ K-We Plan ฝากชี้ช่องทางรวย ผ่านบริการ K-Money Map นอกจากนี้ยังรับฝากจัดการปัญหาทางด้านการเงิน โดยตอบโจทย์ทุกโจทย์ของลูกค้าทันที
"กรณีที่มีธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางใช้กลยุทธ์ฟรีค่าธรรมเนียมประเมินว่าประเด็นดังกล่าวธนาคารยังไม่เห็นถึงผลกระทบ แต่อย่างไรก็ตามยังเป็นประเด็นที่ติดตามดูอย่างใกล้ชิด ซึ่งกลยุทธ์ของธนาคารก็จะเน้นเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้า และเน้นการบริการ โดยบางช่วงอาจไม่เน้นในเรื่องของราคาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยกลยุทธ์ในแต่ละช่วงเวลาก็อาจะมีการปรับเปลี่ยนเพื่อรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น"นายกฤษฎากล่าว
นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK)เปิดเผยว่า ในปีนี้ธนาคารได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยที่ระดับ 14-15% จากยอดสินเชื่อคงค้างเมื่อสิ้นปี 2552 ที่ระดับ 1.6 แสนล้านบาท ซึ่งธนาคารจะยังคงเน้นการเติบโตจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยซึ่งมีสัดส่วนมากที่สุดในสินเชื่อรายย่อยเป็นหลัก ส่วนที่เหลือจะเป็นการเติบโตจากสินเชื่อบัตรเครดิต รวมถึงสินเชื่อบุคคล
ทั้งนี้ ในส่วนของสินเชื่อที่อยู่อาศัยนั้น ธนาคารตั้งเป้าหมายเติบโต 13% จากเมื่อสิ้นปี 2552 ที่มียอดสินเชื่อคงค้างที่ระดับ 1.26 แสนล้านบาท ซึ่งธนาคารจะใช้กลยุทธ์ในการร่วมกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำเพื่อให้บริการด้านสินเชื่อ
ส่วนสินเชื่อบัตรเครดิตนั้น ธนาคารตั้งเป้าอัตราการเติบโตที่ 7% จากยอดสินเชื่อคงค้างในสิ้นปีที่ผ่านมาที่ระดับ 2.7 หมื่นล้านบาท พร้อมกันนั้นตั้งเป้าเพิ่มจำนวนบัตรเครดิตในปีนี้อีก 4 แสนใบ หรือเพิ่มเป็น 1.7-18 ล้านบาท จากสิ้นปี 2552 มีบัตรเครดิตอยู่ที่ประมาณ 1.4 ล้านใบ ขณะที่ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่มีการใช้สม่ำเสมออยู่ที่ระดับประมาณ 1.2 หมื่นบาทต่อใบ ส่วนสินเชื่อบุคคลตั้งเป้าหมายเติบโตไว้ที่ 10% จากยอดสินเชื่อคงค้างในสิ้นปีที่แล้วอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท
ด้านสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายควบคุมเอ็นพีแอลของสินเชื่อรายย่อยไว้ที่ 2.2% จากสิ้นปี 2552 อยู่ที่ 2% ซึ่งแม้ว่าธนาคารจะมีการขยายสินเชื่อรายย่อยอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีการระมัดระวังและเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่นกัน
นอกจากนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายขยายสาขาเพิ่มอีก 30 สาขา จากปัจจุบันที่มีสาขาอยู่ที่ประมาณกว่า 800 สาขา และจากปีก่อนธนาคารขยายสาขาเพิ่ม 120 สาขา ซึ่งการขยายสาขาเพิ่มก็ส่งผลดี ทำให้จำนวนลูกค้าของธนาคารเพิ่มขึ้นด้วย รวมทั้งธนาคารตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนตู้เอทีเอ็มปีนี้อีก 500 ตู้ เป็น 7,500 ตู้ทั่วประเทศ จากสิ้นปีก่อนที่มี 7,000 ตู้
นายกฤษฎา กล่าวว่า เนื่องจากในปีนี้ธนาคารให้ความสำคัญในการขยายฐานลูกค้าบุคคลใหม่เพิ่มอีก 2 ล้านราย จากฐานลูกค้าในปัจจุบันที่ 7.7 ล้านราย และรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 36% จึงได้เน้นพัฒนาด้านการให้บริการ โดยเริ่มจากโครงการ "ฝากได้ทุกเรื่องกับ KBank" เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจและไว้วางใจในการ "ฝาก"ทุก ๆ เรื่องไว้กับเครือธนาคารกสิกรไทย ประกอบด้วย ฝากดูแลทางการเงิน ตั้งแต่ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล จนถึงการให้คำแนะนำทางด้านการลงทุน ฝากอนาคตทางการเงิน เพื่อให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายในชีวิต ผ่านบริการ K-We Plan ฝากชี้ช่องทางรวย ผ่านบริการ K-Money Map นอกจากนี้ยังรับฝากจัดการปัญหาทางด้านการเงิน โดยตอบโจทย์ทุกโจทย์ของลูกค้าทันที
"กรณีที่มีธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางใช้กลยุทธ์ฟรีค่าธรรมเนียมประเมินว่าประเด็นดังกล่าวธนาคารยังไม่เห็นถึงผลกระทบ แต่อย่างไรก็ตามยังเป็นประเด็นที่ติดตามดูอย่างใกล้ชิด ซึ่งกลยุทธ์ของธนาคารก็จะเน้นเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้า และเน้นการบริการ โดยบางช่วงอาจไม่เน้นในเรื่องของราคาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยกลยุทธ์ในแต่ละช่วงเวลาก็อาจะมีการปรับเปลี่ยนเพื่อรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น"นายกฤษฎากล่าว